เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องเฝ้าติดตามตอนต่อไป หลังนิตยสาร Forbes เพิ่งลงบทความบนเว็บไซต์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาว่า มีการคิดคำนวณตัวเลขทรัพย์สินอาณาจักรธุรกิจความงามของ ไคลี เจนเนอร์ ใหม่อีกรอบ และพบว่า มีการโกงตัวเลขก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้เธอได้รับตำแหน่งมหาเศรษฐีพันล้านที่มีอายุน้อยที่สุดของโลกจากนิตยสาร
จากบทความของนักเขียน เชส ปีเตอร์สัน-วิธอร์น และ มาเดลีน เบิร์ก มีการเผยว่า ทาง Coty บริษัทแม่ของ Kylie Cosmetics และ Kylie Skin ที่ได้ซื้อกิจการ 51% ไปในราคา 600 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน เพิ่งมีการเปิดเผยตัวเลขรายได้ธุรกิจ 6 เดือนที่ผ่านมาบนตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กที่ขายหุ้น ซึ่งก็พบว่า ขนาดและรายได้จริงๆ ของธุรกิจของไคลีทั้งคู่ถือว่าน้อยกว่ามาก หากเทียบกับตัวเลขที่ทางบริษัทได้เผยออกมา ก่อนที่ Coty จะถูกซื้อกิจการไป
ในบทความได้ลงรายละเอียดว่า เมื่อปี 2016 หนึ่งปีหลังจาก Kylie Cosmetics ได้เปิดตัวนักประชาสัมพันธ์ (Publicist) ของไคลีได้พยายามผลักดันให้เธอได้ขึ้นปกนิตยสาร Forbes เหมือนกับที่พี่สาว คิม คาร์ดาเชียน ได้ลงในเล่มเดือนกรกฎาคมปีนั้น โดยได้ชวนทีมงาน Forbes ไปที่บ้านของ คริส เจนเนอร์ แม่ของไคลี ที่แคลิฟอร์เนีย เพื่อประชุมและดูตัวเลขต่างๆ ซึ่งในเอกสารที่ดูสมจริงพร้อมลายเซ็นไคลี ซึ่งเขียนว่า ทาง Kylie Cosmetics มี Tax Return อยู่ที่ 307 ล้านดอลลาร์ และไคลีเองก็มีรายได้ส่วนตัวปีถึง 110 ล้านดอลลาร์
ด้วยตัวเลขที่สูงขนาดนี้นั้นหมายความว่า ไคลีจะอยู่อันดับ 2 ต่อจาก เทย์เลอร์ สวิฟต์ สำหรับเซเลบที่ทำเงินเยอะที่สุดประจำปี แต่ทาง Forbes ก็ยังไม่เชื่อว่าบริษัท Kylie Cosmetics จะสามารถทำเงิน 300 ล้านภายในแค่ปีแรก และหลังปรึกษากับนักวิชาการต่างๆ ก็เลยตัดสินใจให้ไคลีอยู่อันดับ 41 บนลิสต์ ด้วยรายได้ 41 ล้านดอลลาร์
ต่อมาในปี 2018 ที่ Forbes คำนวณทรัพย์สินของไคลีใหม่อีกรอบประจำปี ทางบริษัท Kylie Cosmetics ได้บอกว่า รายได้ของปี 2017 ขึ้นมา 7% อยู่ที่ 330 ล้านดอลลาร์ โดยพอ Forbes ไปถามนักวิชาการต่างๆ อีกครั้ง หลายคนบอกว่า รายได้น่าจะจริง และมีสิทธิ์สูงกว่าด้วยซ้ำ สุดท้ายเลยทำให้ Forbes ตัดสินใจถ่ายเธอขึ้นปกเล่มเดือนกรกฎาคม ปี 2018 ในฐานะหนึ่งในผู้หญิงที่รวยที่สุดของโลกในอันดับ 27 ด้วยมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่เมื่อต้นปี 2019 เธอจะได้รับตำแหน่งบุคคลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีพันล้านจากการทำธุรกิจของตัวเองในวัยเพียง 21 ปี โดยเอาชนะ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
กลับมาที่รายงานของ Coty ที่เพิ่งปล่อยออกมา มีการโชว์ว่ารายได้ตลอดปี 2019 ของ Kylie Cosmetics อยู่ที่ 177 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เยอะ และยังบอกว่า รายได้ปี 2019 กระโดดขึ้นมา 40% จากปีก่อน ซึ่งแปลว่าในปี 2018 บริษัททำรายได้แค่ราว 125 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่างจากตัวเลขที่ทางบริษัทบอกก่อนหน้านี้ตอนยังเป็นบริษัทเอกชนว่า รายได้สูงถึง 360 ล้านดอลลาร์ แถมในรายงานก็เผยว่า ไลน์สกินแคร์ Kylie Skin ทำเงินไป 25 ล้านดอลลาร์ในปีแรก ซึ่งก็ต่างจากที่โฆษกของแบรนด์เคยบอกว่า ทำเงินไป 100 ล้านดอลลาร์ในแค่เดือนแรกที่เปิดขาย
แต่ต่อมาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบทความนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ทางไคลีก็ได้โต้กลับผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวทันที โดยบอกว่า เธอหรือบริษัทไม่เคยปลอมแปลงเอกสารใดๆ ไม่เคยโกหกเพื่อที่จะได้รับการมาซึ่งอันดับ เธอเองไม่ได้ร้องขอตั้งแต่แรก และก็นึกมาตลอดว่า Forbes จะเป็นสื่อที่เชื่อใจได้เสมอ แถมเธอยังปิดท้ายด้วยว่า ตอนนี้โลกมีอีกหลายอย่างที่ต้องสนใจมากกว่าเรื่องการเงินของเธอ
เราคงต้องติดตามต่อไปว่าสมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัวคาร์ดาเชียนและเจนเนอร์จะออกมาพูดถึงประเด็นนี้หรือไม่ และถึงขั้นฟ้องร้อง Forbes ไหม เพราะข่าวแบบนี้ถือว่าสามารถส่งผลด้านลบต่อภาพลักษณ์และความมั่นคงของครอบครัวและบริษัทอื่นๆ ในอาณาจักรหมื่นล้านของตระกูลนี้ได้ไม่มากก็น้อย
ภาพ: Dimitrios Kambouris / Getty Images for The Met Museum / Vogue
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.forbes.com/sites/chasewithorn/2020/05/29/inside-kylie-jennerss-web-of-lies-and-why-shes-no-longer-a-billionaire/#5905976f25f7
- https://twitter.com/KylieJenner