‘ฟู้ดแพชชั่น’ ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อคุ้นหู บาร์บีคิวพลาซ่า, ฌานา และเรดซัน ประกาศกลยุทธ์ Go Beyond สำหรับขยายธุรกิจ เล็งบุกอาเซียนให้ครบ 7 ประเทศ พร้อมนำ ‘หมูกระทะ-ก๋วยเตี๋ยวเรือ’ เป็น Soft Power สร้างกระแส
ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของปี 2565 ถือได้ว่าผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายและสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างรายได้และกำไรได้อย่างรวดเร็ว โดย 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงกว่าปี 2564 มากถึง 80% คิดเป็นรายได้ 2,700 ล้านบาท ถือว่าใกล้เคียงรายได้ก่อนสถานการณ์โควิดในปี 2563
โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจร้านอาหารในเครือ ได้แก่ บาร์บีคิวพลาซ่า 2,606 ล้านบาท ฌานา 9 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอื่นๆ 85 ล้านบาท เช่น ธุรกิจร้านรูปแบบใหม่ ธุรกิจต่างประเทศ ธุรกิจสินค้าสำเร็จรูป เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กลับมาตามคำเรียกร้อง! ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ ประกาศขาย ‘น้ำจิ้มในตำนาน’ ที่มาเป็นขวด อยู่ได้นาน 1 ปี ประเดิมผ่าน Lazada 11.11 นี้
- Bar B Q Plaza จับมือห่านคู่ แปลงร่าง ‘บาร์บีกอน’ ไปปรากฏตัวบน ‘เสื้อยืด’
- ร้านอาหารบนห้างทิพย์! ฟู้ดแพชชั่นจับมือ AIS เปิด ‘Bar B Q Plaza Virtual Restaurant’ หวังโกยลูกค้าใหม่สู้วิกฤตโควิด
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟู้ดแพชชั่นสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างรายได้ได้อย่างรวดเร็ว คือการออกแบบระบบการทำงานและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเรื่องเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถใช้ Data ในการตัดสินใจและออกโปรโมชันที่โดนใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยปีที่ผ่านมาเราสามารถออกโปรโมชันได้มากกว่า 50 โปรโมชัน และแต่ละโปรโมชันมีความ Dynamic คือออกในช่วงสั้นๆ 7 วัน, 14 วัน และ 30 วัน และปรับเปลี่ยนตามกลุ่มประเภทลูกค้าแบบ Personalize Offering”
สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจของฟู้ดแพชชั่นในปี 2565 ได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 3,500 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าในปี 2566 ฟู้ดแพชชั่นจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 3,800 ล้านบาท ด้วยการขยายโอกาสการรับประทานให้มากกว่าการนั่งรับประทานที่ร้านและในห้าง แผนขยายสาขาในประเทศไทยรวมทุกแบรนด์มากกว่า 30 สาขา
โดยจะมีการใช้หุ่นยนต์ Gon Bot มาให้บริการภายในร้าน เพื่อให้บริการใน 60 สาขา การปรับปรุงสาขาเดิมกว่า 50% ของสาขาทั้งหมดให้เป็นสาขาที่ไม่ต้องใช้เงินสด (Cashless) ล่าสุดยังได้นำ ‘เรดซัน’ ซึ่งเป็นร้านอาหารเกาหลี เปิดโมเดลใหม่ ‘เต็นท์แดง’ ใจกลางสยามสแควร์
เนื่องจากเล็งเห็นว่าสยามสแควร์เป็นศูนย์รวมผู้คนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Gen Z หรือผู้ที่ชื่นชอบความเป็นเกาหลี ทั้งอาหาร ศิลปิน K-Pop หรือซีรีส์ก็ตาม กลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มาใช้บริการ และถ้าโมเดลใหม่นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า คาดว่าจะมีการขยายโมเดลนี้เพิ่มอีกแน่นอนในอนาคต
“ปีหน้าความท้าทายมีหลายเรื่องทั้ง
- เศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อ ที่ส่งผลกระทบกับกำลังซื้อผู้บริโภค
- ความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
- ราคาวัตถุดิบ และ
- การขาดแคลนบุคลากร”
อย่างไรก็ตาม ในไทยถือว่า ‘ฟู้ดแพชชั่น’ นั้นแข็งเกร่งแล้ว แต่ยังไม่พอ เพราะขุมทรัพย์ที่แท้จริงนั้นอยู่ในต่างประเทศที่มีโอกาสเติบโตได้สูง ซึ่งฟู้ดแพชชั่นวางเป้าที่จะขยายให้ครบ 7 ประเทศในอาเซียน ได้แก่
– มาเลเซีย 27 สาขา จากปัจจุบันมี 21 สาขา
– กัมพูชา 9 สาขา จากปัจจุบัน 6 สาขา
– อินโดนีเซีย 4 สาขา จากปัจจุบัน 3 สาขา
– สปป.ลาว 3 สาขา แห่งแรกเปิดในปี 2566 นี้
– สิงคโปร์ (ยังไม่เคยไป) 2 สาขา
– เวียดนาม (ยังไม่เคยไป) 1 สาขา
– ฟิลิปปินส์ (ยังไม่เคยไป) 1 สาขา
“ปีนี้ได้ขยายฝั่งมาเลเซียตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศกัมพูชา และประเทศล่าสุด สปป.ลาว โดยเฉพาะที่ สปป.ลาว จะเป็นสาขา Standalone ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดมา โดยใช้พื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 30 สาขา และในปี 2565 มีรายได้รวมของสาขาในต่างประเทศกว่า 425 ล้านบาท”
ปีหน้าฟู้ดแพชชั่นวางแผนขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มอีก 4 สาขา โดยนอกจากจะใช้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักแล้ว หนึ่งในเบื้องหลังคือการนำ Soft Power อย่าง ‘หมูกระทะ-ก๋วยเตี๋ยวเรือ’ เป็นตัวชูโรงเพื่อสร้างกระแส โดยอาจจะทำออกมาในรูปแบบของเมนูหรือซอส เพื่อทำให้ลูกค้าที่กินแล้วนึกถึงประเทศไทยทันที
“เราหวังว่าธุรกิจต่างประเทศจะสร้างยอดขายได้ 800 ล้านบาท ภายในปี 2568 จากยอดขายตั้งเป้ารวมทั้งหมด 4,500 ล้านบาท” ชาตยากล่าว