หลังจากมีกระแสข่าวว่า The Japan Times สื่อชั้นนำของญี่ปุ่นรายงานว่า ไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่นำเข้าสินค้าประมงจากจังหวัดฟุกุชิมะ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตกัมมันตรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่สืบเนื่องจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 โดยสินค้าล็อตแรกเดินทางถึงท่าเรือไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนตื่นตระหนก
ล่าสุดบ่ายวันนี้ (6 มี.ค.) อย. จับมือกรมประมง แจงเรื่องปลานำเข้าจากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง เป็นไปตามข้อกำหนดประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ขอผู้บริโภคอย่าวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย เพราะการนำเข้าปลาจากทุกประเทศ เจ้าหน้าที่ด่านประมงมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมทั้ง อย. ยังทำหน้าที่เฝ้าระวังตรวจสอบมิให้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคในประเทศอย่างเข้มงวด แต่หากพบการปนเปื้อนที่เป็นอันตรายก็จะสั่งเรียกคืนหรือระงับการนำเข้าทันที
นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง ร่วมกันแถลงข่าวว่า ขอชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนทราบว่า อย. ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร โดย อย. ได้ถ่ายโอนภารกิจการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูปให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ สินค้าประมง เนื้อสัตว์ ปศุสัตว์ อาหารทะเล ถั่วธัญพืช เครื่องเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยมาตรการควบคุมอาหารที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมี 2 มาตรการ ได้แก่
- การกำหนดปริมาณการปนเปื้อนกัมมันตรังสี โดยมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีกำหนดให้ปนเปื้อนได้ไม่เกิน ไอโอดีน-131 ไม่เกิน 100 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือเบคเคอเรลต่อลิตร, ซีเซียม-134 และ ซีเซียม-137 รวมกันไม่เกิน 500 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม หรือเบคเคอเรลต่อลิตร
- การกำหนดชนิดอาหารและพื้นที่เสี่ยงในการนำเข้า จะต้องมีหลักฐานในการระบุประเภทปริมาณอาหารจากประเทศต้นทางแสดงที่ด่านนำเข้าทุกครั้ง
อย. ได้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่น โดยผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ซี่งสถานทูตญี่ปุ่นได้แจ้งให้ทราบว่า ประเทศญี่ปุ่นมีมาตรการจัดการกับสินค้าที่ตรวจพบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีอย่างเข้มงวด โดยหากตรวจพบอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานอาหารจากพื้นที่นั้น จะถูกควบคุมและทำลายโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระจายสินค้าไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ อย. ได้ตรวจสอบผลการเฝ้าระวังในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น มีการเก็บตัวอย่างปลาและผลิตภัณฑ์ประมงจากเมืองฟุกุชิมะ จำนวน 7,408 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนเกินเกณฑ์ 8 ตัวอย่าง เป็นปลา Whitespotted Char 4 ตัวอย่าง และ Cherry Salmon 4 ตัวอย่าง ส่วนปลานำเข้าเป็นปลากลุ่มปลาตาเดียว ไม่ใช่ปลาที่มีปัญหาดังกล่าว
ผลการตรวจเฝ้าระวังที่ดำเนินการโดย อย. ในกรณีผลิตภัณฑ์ประมงที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2554 ไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกินมาตรฐานแต่อย่างใด และทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการสุ่มตรวจสารกัมมันตรังสีในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2559 ไม่พบการปนเปื้อนสารซีเซียม-137 เช่นกัน
เลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า อย. ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเฝ้าระวังอาหารที่นำเข้าอย่างเข้มงวด ซึ่งหากพบการปนเปื้อนจะใช้มาตรการส่งคืนหรือทำลายทันที ขอให้ประชาชนวางใจในการดำเนินงาน หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์อาหารใดสงสัยว่าจะเป็นอันตราย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด