กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการตีพิมพ์และเตรียมวางจำหน่าย หนังสือ ‘Fire and Fury: Inside the Trump White House’ ของนักข่าวชื่อดังอย่าง ไมเคิล วูล์ฟ (Michael Wolff) ที่รวบรวมเรื่องราวและบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากบรรดาอดีตคนวงในที่เคยร่วมงานกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่ช่วงหาเสียงจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ
โดยทีมนักกฎหมายของทรัมป์พยายามที่จะขัดขวางการตีพิมพ์ ซึ่งวูล์ฟยืนยันว่า หนังสือเล่มดังกล่าวของเขาจะวางจำหน่ายให้ทุกคนได้จับจองเป็นเจ้าของกันในวันศุกร์นี้ (5 ม.ค.) ทางทีมนักกฎหมายและทำเนียบขาวได้โต้แย้งถึงประเด็นความถูกต้องของเนื้อความที่อยู่ภายในหนังสือ ที่อาจจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวประธานาธิบดีทรัมป์
หนึ่งในบุคคลที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในหนังสือเล่มดังกล่าวนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอดีตกุนซือใหญ่อย่าง สตีฟ แบนนอน (Steve Bannon) ที่คอยให้คำปรึกษาและวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ ให้ทีมงานของทรัมป์ และถูกทรัมป์ไล่ออกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั่นเอง
เมื่อสื่อทราบเรื่องนี้ จึงถามทรัมป์ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวเขาและอดีตกุนซือรายนี้ และคิดเห็นอย่างไรหากแบนนอนกำลังทรยศเขา โดยทรัมป์ระบุว่า “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เขายังกล่าวเรียกผมว่า เป็นชายผู้ยิ่งใหญ่และบอกว่า เขาสนับสนุนผมตลอดมาอยู่เลย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างจะเปลี่ยนสีเปลี่ยนโทนเสียงเร็วไปหน่อย” อีกทั้งยังเคยกล่าวว่า นายแบนนอนเสียสติไปแล้วหลังจากที่สูญเสียตำแหน่งในทำเนียบขาว
หนังสือเล่มนี้แฉอะไรเกี่ยวกับทรัมป์บ้าง เช่น
- บทสัมภาษณ์ของแบนนอน ให้ภาพของทรัมป์ในลักษณ์ของคนขายชาติ (treasonous) อีกทั้งยังอ้างอีกว่า ทรัมป์ใช้ตึก Trump Tower เป็นสถานที่นัดพบระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทีมหาเสียงของทรัมป์และรัสเซีย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือลูกชายคนโตของทรัมป์ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนโดยโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสืบหาความจริงเกี่ยวกับกรณีที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด และมีส่วนทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งหรือไม่
- ทีมงานของโดนัลด์ ทรัมป์รู้สึกช็อกและตกใจที่ทีมของเขาชนะการเลือกตั้ง
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์รู้สึกไม่พอใจบรรดาเซเลบริตี้ระดับ A ลิสต์ที่ดูแคลนไม่เข้าร่วมงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของเขาเมื่อช่วงต้นปี 2017
- อิวองกา ทรัมป์ และ จาเร็ด คุชเนอร์ ผู้เป็นสามี กำลังวางแผนร่วมกันที่จะส่งอิวองกาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ซึ่งเธอเคยพูดติดตลกว่า “ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ไม่ใช่ฮิลลารี แต่หวังว่าจะเป็นอิวองกา ทรัมป์คนนี้”
- อิวองกา เคยทำทรงผมเลียนแบบพ่อของเธอ และบ่อยครั้งที่เธอมักจะนำเรื่องการเซตผมของพ่อไปพูดให้เพื่อนๆ ของเธอฟัง
นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์และเรื่องราวมากมายอีกกว่า 200 เรื่องเกี่ยวกับทรัมป์ ในช่วงการทำงานในปีแรกนี้ โดยยังไม่แน่ชัดถึงความถูกต้องของเนื้อหา แต่การเผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้จะสั่นคลอนเก้าอี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่มากก็น้อย
Photo: AFP
อ้างอิง: