ในขณะที่ชาติตะวันตกตื่นตัวกับ ‘Body Positivity’ หรือการปรับทัศนคติด้านบวกต่อเรือนร่างกันมาพักใหญ่ แต่เอเชียยังคงไล่หลัง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการวางขอบเขตความงามของเพศหญิงเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด แม้จะค่อยๆ เปิดกว้างขึ้นตามกาลเวลา

และขณะที่เวทีนางงามจักรวาลปิดฉากลง เพื่อนบ้านของเราอย่างสิงคโปร์ก็ยังคงพูดถึงนางงามคนหนึ่งที่แม้เธอจะไม่ได้ผ่านเวทีนางสาวสิงคโปร์ หรือผ่านการตอบคำถามกับสตีฟ ฮาร์วีย์ บนเวที แต่ ฟิโอนา ทัน (Fiona Tan) กุมหัวใจคนมากมาย เพราะเธอคือเจ้าของสองมงกุฎ Miss Top of the World Plus Size 2016 และ Miss Plus Size of the World 2016 ทั้งยังเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่คว้ามงกุฎดังกล่าวมาครอง ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทัศนคติความงามอนุรักษนิยมแบบเอเชีย และปีนี้เธอผันตัวมาเป็นผู้จัดการประกวด Miss Top of the World Plus Size 2017 ด้วยตัวเองเสียด้วย

ฉันว่าโลกนี้คงไม่รู้จักคำว่า ‘ขี้เหร่’ หากคนทุกคนเปิดตาเปิดใจยอมรับในความแตกต่างของอีกคน และมันไม่เกี่ยวว่าคุณจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คุณรู้สึกอย่างไรต่างหาก

ไม่มีใครคิดว่าช่างแต่งหน้าวัย 30 ปีจากสิงคโปร์ ผู้เคยถูกตราหน้าจากครอบครัวว่า ‘ใครจะอยากจ้างเธอ เพราะเธออ้วน’ วันหนึ่งเธอจะได้รับมงกุฎนางงามมาประดับเป็นศรีแก่ตระกูล แต่ฟิโอนาก็ทำสำเร็จด้วยการเป็นผู้ชนะเวทีประกวด Miss Top of the World Plus Size ในปี 2016 ที่ลัตเวียมาครอง โดยเอาชนะผู้เข้าแข่งขันอีก 9 ชาติที่เหลือ

การแข่งขันดังกล่าวไม่ต่างอะไรจากเวทีนางงามที่เรารู้จัก โดยมีการใส่ชุดว่ายน้ำ การแสดงความสามารถด้านต่างๆ และการนำเสนอบุคลิกภาพผ่านการสัมภาษณ์และตอบคำถามก่อนกรรมการจะตัดสินรอบสุดท้าย ซึ่งประเทศอื่นๆ ที่ส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน เช่น อินเดีย ลัตเวีย รัสเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า ไทย ฯลฯ

แต่การแข่งขันประกวดนางงามดังกล่าวบอกอะไรกับเราบ้างถึงมุมมองสังคม ฟิโอนา ทัน ตอบคำถามเหล่านี้กับ THE STANDARD

คุณมีใครเป็นแรงบันดาลใจที่ช่วยเรื่องทัศนคติด้านความงามไหม
ฉันไม่ได้ชื่นชมใครเป็นพิเศษ เพราะคนทุกคนมีความสวยงาม บอบบาง และเข้มแข็งในแบบของตัวเอง และความงามเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลมากกว่า

ค่านิยมแบบเอเชียที่มักมองว่าผู้หญิงต้องผอม ตัวเล็ก บอบบาง ส่งผลกระทบอย่างไรกับทัศนคติที่คุณมองตัวเองบ้าง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าค่านิยมนี้ไม่ส่งผลอะไรกับฉันเลย แต่เรียกว่ากระทบไม่เยอะมากกว่า ตอนฉันยังเด็กมันยากกว่านี้ เพราะเวลาเจอญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อนเก่า พวกเขาชอบถามแต่ว่า ‘เมื่อไรจะลดน้ำหนักจ๊ะ’ และมีคนเคยบอกฉันว่า ‘ฉันนึกว่าเธอไปเรียนเมืองนอก พอกลับมาแล้วจะหายอ้วนเสียอีก!’ เวลาเจอคำพูดพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันกระทบคุณแน่นอน กระทั่งฉันบินไปดูดไขมันที่เมืองไทยเพื่อที่จะได้กลายเป็นผู้หญิงเอเชียไซส์ปกติธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่มันไม่ง่าย ด้วยความที่ฉันไม่ใช่คนตัวเล็ก ฉันสูงสำหรับคนเอเชีย นั่นทำให้รู้สึกว่าถึงคุณจะเดินตามกฎเกณฑ์สังคมด้วยการเป็นผู้หญิงตัวเล็ก แล้วคุณทำสำเร็จด้วย แต่มันไม่ได้แปลว่าคุณจะมีความสุข ฉันลองมาแล้ว มันไม่ใช่

คนเอเชียมักแสดงความเห็นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคนอื่น หรือมองว่าคนอ้วนมักเกี่ยวข้องกับความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา หรือการไม่ดูแลตัวเอง

คุณเคยโดนเพื่อนแกล้งหรือโดนล้อบ้างไหม แล้วมีวิธีรับมือกับมันอย่างไร

แน่นอนสิ ฉันเคยโดนล้อมาก่อนโดยเฉพาะสมัยประถม เพื่อนผู้ชายชอบล้อฉัน เรียกฉันต่างๆ นานา แต่อาจจะเป็นความโชคดีมั้งคะที่ฉันค่อนข้างคิดบวกและไม่ใส่ใจกับมัน ฉันจะมองว่า ‘พวกเธอทำตัวไร้สาระ ฉันไม่ใช่คนประเภทนั้น’ แต่อย่าลืมว่าตอนคุณเป็นเด็กก็ต้องมีหัวเสียหรือเศร้าบ้างเพราะคำพูดแทงใจเหล่านั้น แต่ฉันจะพยายามเอาชนะมัน สลัดมันทิ้งแล้วลืมๆ มันไปเสีย และสุดท้ายฉันก็พบว่าแท้จริงแล้วคนอื่นๆ ชอบฉัน เพราะฉันเป็นคนนิสัยดีและคิดบวก นั่นกลายเป็นข้อดีไปเลย เพราะใครจะอยากอยู่กับคนคิดลบๆ ได้ตลอดกัน นั่นทำให้ฉันอยากทำให้คนอื่นมองข้ามรูปร่างและชอบในแบบที่ฉันเป็น และฉันรู้สึกโชคดีกว่าคนอื่นๆ ที่มีชีวิตลำบากกว่าตั้งเยอะ ฉันมีครอบครัวที่ให้ความรักความอบอุ่น ดังนั้นฉันควรจะรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่มีอยู่ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉันรับมือกับความคิดลบๆ ที่คนอื่นโยนเข้ามาหาฉันตลอดมา

ความมั่นใจเหลือล้นอันน่าทึ่งที่คุณพกอยู่กับตัวนี้มาจากไหนกันคะ

เรื่องยากที่สุดของการเป็นผู้หญิงพลัสไซส์ในสิงคโปร์คืออยากแต่งตัวดีๆ เหมือนกับคนตัวเล็กๆ แต่กลับไม่มีไซส์ให้คุณใส่ และฉันจะไม่ยอมแพ้กับอะไรแบบนั้น ฉันเลยสั่งออนไลน์บ้าง หาวิธีแต่งหน้าบ้าง การทำให้ตัวเองดูดีมันกลายเป็นสิ่งที่ฉันถนัด และมันส่งผลกับความมั่นใจของฉันด้วย สิ่งพวกนี้ทำให้ฉันอยากเอาชนะอะไรที่มาขวางความพยายาม แทนที่จะก้มหน้ายอมรับมันไป

แล้วคุณคิดว่าคนเอเชียอย่างพวกเราควรเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับความสวยเพอร์เฟกต์อย่างไร

เราต้องเริ่มจากการให้ความรู้คนเสียก่อน ให้ได้เห็นอะไรที่แตกต่าง ใครเป็นคนตัดสินว่าใครสวยไม่สวย หรือใครเป็นคนวางมาตรฐานความสวยว่าต้องเป็นแบบไหน ต้องผอมเท่านั้นหรือไม่ ฉันเชื่อว่ามีคนที่ไม่ได้ตัวเล็กจิ๋วหรือผอมสเลนเดอร์ที่มีความสวยในแบบของเขาเองเหมือนกัน ดังนั้นมันเป็นเรื่องของการได้รู้ได้เห็นมากกว่า เพราะการเปลี่ยนคนหรือเปลี่ยนแปลงสังคมมันไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่ฉันทำคือการปลุกให้คนรับรู้ ได้เห็นคนที่ไม่ได้สวยตามพิมพ์นิยมกับเขาบ้าง

คนเอเชียควรจะเปิดใจรับในความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเพศ ขนาดตัว หรือสีผิวก็ตาม เพราะพวกเรามักนึกคิดและทำอะไรกันเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะในทางพฤติกรรม ขณะที่ถ้ามองตะวันตก คนจะเชิดชูความเป็นเอกลักษณ์ของปัจเจกบุคคลมากกว่า คนหมู่มากมักมองว่าความแตกต่างเป็นสิ่งที่ผิดแปลก นั่นทำให้คุณอาจรู้สึกไร้ที่ยืนในสังคม ดังนั้นการให้พื้นที่ให้คนได้เห็นในความ ‘ไม่เหมือน’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

คนเอเชียควรจะเปิดใจรับในความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเพศ ขนาดตัว หรือสีผิวก็ตาม เพราะพวกเรามักนึกคิดและทำอะไรกันเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะในทางพฤติกรรม

บทเรียนที่คุณได้รับจากการประกวดคืออะไร

ทั้งการประกวดและการจัดประกวดเอง ฉันเรียนรู้ว่าจริงๆ ฉันมีความสามารถในการจัดการเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นได้ในชีวิต รวมถึงรับมือกับสถานการณ์หลายๆ อย่างได้พร้อมกันโดยที่ไม่คิดมาก่อนว่าฉันจะทำได้ และได้เรียนรู้วิธีทำงานกับคนต่างวัฒนธรรม พื้นฐาน วัย รวมถึงสังคมและค่านิยมที่ต่างกันคนละขั้ว และการได้เห็นผู้หญิงจากคนละหัวมุมโลกยืนหยัดเพื่อผู้หญิง (พลัสไซส์) ด้วยกันเอง แล้วส่งต่อพลังที่เกื้อหนุนกัน มันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจและเป็นตัวอย่างที่ดีกับเด็กสาวทุกคน

คุณมีอาหารจานโปรดไหม

ฉันชอบหมี่ป๊อก (Mee Pok) อาหารสิงคโปร์ที่เป็นบะหมี่เส้นแบนใส่หมูสับรสเผ็ด เป็นจานที่อยากกินเวลาเดินทางไกลบ้าน

แล้วคุณมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

ฉันออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ส่วนตัว แล้วก็ชอบเรียนเต้นด้วย ถึงแม้ช่วงนี้จะยุ่งกับการจัดงานประกวดจนไม่ค่อยมีเวลาก็ตาม และฉันก็พยายามกินอาหารที่ดีและดื่มน้ำให้มากในแต่ละวัน

คุณอยากแบ่งปันเคล็ดลับอะไรให้กับเด็กสาวที่อาจไม่ได้มีความงามตรงตามพิมพ์นิยมของสังคมที่พวกเขาอยู่บ้าง

ฉันว่าโลกนี้คงไม่รู้จักคำว่า ‘ขี้เหร่’ หากคนทุกคนเปิดตาเปิดใจยอมรับในความแตกต่างของอีกคน และมันไม่เกี่ยวว่าคุณจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คุณรู้สึกอย่างไรต่างหาก ถ้าคุณรู้ว่าคุณก็งดงามในแบบของคุณ จะไม่มีใครมาเปลี่ยนแนวคิดของคุณได้เลย ตราบใดที่คุณมีความแข็งแกร่งในความเชื่อมั่นนั้น และใช้สิ่งนั้นทำให้คนอื่นรอบตัวขอบคุณและรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ แล้วคุณจะมีความสุข และความสุขนั้นจะส่งผ่านไปหาคนอื่นๆ ด้วย หากรู้ว่าคุณก็ยังสวยงามแม้จะอายุ 70 เข้าไปแล้ว คนอื่นก็จะรู้สึกเช่นนั้นด้วย ส่วนในเอเชียที่คนมักจะแสดงความเห็นเสมอเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคนอื่น หรือมองว่าคนอ้วนมักเกี่ยวข้องกับความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา หรือการไม่ดูแลตัวเอง เราไม่ควรคิดว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของความคิดนั้น เลิกคิดเสียว่า ‘คนคนนั้นเขามีปัญหาอะไรกับเรา’ แล้วถามตัวเองว่า ‘ฉันจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร’ จะดีกว่า