×

Finnoventure Fund I กองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกในไทย โอกาสรับผลตอบแทนสูง พร้อมการเข้าถึงข้อมูลเทคโนโลยีและนวัตกรรมก่อนใคร [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
28.10.2021
  • LOADING...
Finnoventure Fund I

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ‘ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I’ (Finnoventure Fund I) คือกองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกโดยธนาคารไทย เปิดให้กับนักลงทุนองค์กรและนักลงทุนรายย่อยระดับ Ultra High Net Worth เข้าร่วม
  • มี ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในสตาร์ทอัพเป็นผู้ดูแล
  • กองทุนนี้มีมูลค่าขนาด 3 พันล้านบาท มุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดับ Series A ขึ้นไป เน้นลงทุนในกลุ่มฟินเทค, อีคอมเมิร์ซ, ออโตโมทีฟ (ยานยนต์) และกลุ่มสตาร์ทอัพที่อาจฟื้นตัวเร็วหรือได้รับโอกาสทางธุรกิจในช่วงโควิด ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หรือที่เรียกว่า Post-Pandemic Boom Startup
  • สิ่งสำคัญที่สุดของฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I คือไม่ได้ให้โอกาสด้านผลตอบแทนเท่านั้น แต่เป็นโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำไปต่อยอดในธุรกิจอีกด้วย

ท่ามกลางการเติบโตของการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2558 ที่สตาร์ทอัพไทยแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การลงทุนเติบโตกว่า 3 เท่าจากปกติ 

 

มีนักลงทุนมากมาย รวมถึงองค์กรธุรกิจที่อยากลงทุนในสตาร์ทอัพ แต่การเข้าลงทุนด้วยตัวเองไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ยังมีอุปสรรคสำคัญที่เป็นกำแพงมาขวางกั้นการลงทุนนั่นคือ ความรู้ความเข้าใจในธุรกิจสตาร์ทอัพ จึงทำให้ไม่สามารถเลือกหรือเข้าถึงสตาร์ทอัพได้

 

ภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้คือ ‘องค์กรขนาดใหญ่’ ที่อยากลงทุนในสตาร์ทอัพบางแห่งยังไม่มีทีมงาน ‘บริหารจัดการการลงทุนในสตาร์ทอัพ’ (Venture Capital) ซึ่งการจะมีทีมงานเหล่านี้ไว้ในองค์กรถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง เพราะต้องมีทีมงานมืออาชีพที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสตาร์ทอัพ หรือบางแห่งอาจจะมีทีมงานแล้ว แต่ยังไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก

 

ขณะที่ ‘นักลงทุนรายย่อย’ ระดับ Ultra High Net Worth หลายคนก็อยากเป็น ‘Angel Investor’ แต่ที่ผ่านมาการลงทุนในระดับ Series A หรือ Series B มักไม่ค่อยเปิดให้กลุ่ม Angel ลงทุน ซึ่งหากต้องการลงทุนในสตาร์ทอัพเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องลงทุนในกลุ่มที่มีศักยภาพก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการ เช่น Grab หรือ Flash Express แต่ก็ต้องลงตั้งแต่ช่วง Early Stage ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก

 

Finnoventure Fund I

 

‘ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I’ (Finnoventure Fund I) กองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกของไทย จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นการกำจัดอุปสรรคในการลงทุนให้กับนักลงทุนองค์กรใหญ่และนักลงทุนรายย่อยระดับ Ultra High Net Worth โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในสตาร์ทอัพแต่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการเลือกสตาร์ทอัพได้เข้าลงทุน โดยมี ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในสตาร์ทอัพเป็นผู้ดูแล

 

ศักยภาพของ ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ 

กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัท Venture Capital ภายใต้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ต้องบอกว่า กรุงศรี ฟินโนเวต ไม่ได้โนเนมในแวดวงสตาร์ทอัพ เพราะถือเป็น CVC (Corporate Venture Capital) เจ้าแรกๆ ในประเทศไทย ได้คลุกคลีกับการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยมาตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ก็กว่า 6 ปีแล้ว 

 

กรุงศรี ฟินโนเวต ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม 1.0 ที่หลายองค์กรที่ต้องการเดินหน้าองค์กรเข้าสู่นวัตกรรมจะจัดทำโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ เพื่อให้ได้เริ่มสัมผัสการทำงานแบบสตาร์ทอัพ จากนั้นเดินต่อสู่ยุค 2.0 ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพและการร่วมเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพในการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดธุรกิจต่างๆ และวันนี้ กรุงศรี ฟินโนเวต กำลังก้าวสู่ยุค 3.0 ต่อยอดไปสู่การลงทุนในระดับกองทุน

 

กรุงศรี ฟินโนเวต สนับสนุนให้เกิดการทำงานระหว่างธนาคารกรุงศรีและสตาร์ทอัพ จนกลายเป็นธนาคารที่ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพ 63 บริษัท 106 โปรเจกต์ และส่งเสริมการทำงานด้านดิจิทัลของกรุงศรีและบริษัทในเครือถึง 37 หน่วยธุรกิจ ขณะที่กรุงศรี ฟินโนเวต นั้นได้ลงทุนใน 15 กิจการสตาร์ทอัพ รวมเงินลงทุนมากกว่า 1.6 พันล้านบาท

 

จากประสบการณ์การลงทุนมานานกว่า 4 ปี ทำให้กรุงศรี ฟินโนเวต พร้อมจะนำความเชี่ยวชาญต่อยอดไปสู่การลงทุนในระดับกองทุน เพื่อที่จะสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ในขณะเดียวกันก็สร้างผลตอบแทนและการเติบโตทางธุรกิจให้กับนักลงทุนด้วย 

 

แท็กมือไปเป็น ‘ทีม’

เมื่อพูดถึงกองทุนสตาร์ทอัพในโลก ทั่วไปมักจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพโดยสถาบันการเงินหรือองค์กรขนาดใหญ่ตั้งขึ้นมาเอง แต่ไม่ใช่กับฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I เพราะความพิเศษของกองทุนนี้นอกจากจะได้มืออาชีพอย่างกรุงศรี ฟินโนเวต เข้ามาดูแลแล้ว สิ่งที่แตกต่างอีกเรื่องคือ ธีมของการลงทุนที่จะเน้น ‘Synergy’ หรือการผสานพลังความแข็งแกร่งทางธุรกิจร่วมกัน

 

“ที่ผ่านมา กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุนคนเดียว แต่ต่อไปเมื่อมีกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I เราจะไม่ได้ลงทุนคนเดียว แต่จะมีการแท็กทีมกันมา หมายความว่าแม้จะเป็นชื่อของกรุงศรี ฟินโนเวต ก็จริง แต่จะมีองค์กรขนาดใหญ่อีกอย่างน้อย 8 องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมด้วย และองค์กรเหล่านั้นไม่ได้เพียงลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนเป็นจำนวนเงินเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสในการนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพไปต่อยอดในธุรกิจได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นการผสานกำลังทั้งสองฝ่าย ทั้งนักลงทุนและสตาร์ทอัพที่จะร่วมกันสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ เพิ่มผลตอบแทนให้กับการลงทุน” แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าว 

 

Finnoventure Fund I

 

ขณะเดียวกันฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I นั้นถือเป็น ‘กองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกของธนาคารไทย’ ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยระดับ Ultra High Net Worth (UHNW) สามารถลงทุนได้ด้วย โดยผ่านการลงทุนในกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) ซึ่งจะลงใน ‘ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I’ โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนของการลงทุนสำหรับลูกค้ากลุ่ม UHNW อยู่ที่มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยจะเปิดให้ลงทุนในกองทุนดังกล่าวได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

 

การลงทุนก็ง่ายแสนง่าย เพราะสามารถเข้าซื้อได้เลยเหมือนการซื้อกองทุนต่างๆ แค่คลิกเดียวก็ทำให้เป็นผู้ถือหน่วยลงทุนที่เข้าถึงทั้งผลตอบแทนและสตาร์ทอัพเช่นเดียวกัน ซึ่งสำหรับนักลงทุนรายย่อยต้องบอกว่า นี่ถือเป็นการลดความเสี่ยงไปในตัว เพราะกรุงศรี ฟินโนเวต ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการคัดกรองสตาร์ทอัพเรียบร้อยแล้ว แถมยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนในระดับ Series A ได้อีกด้วย

 

การที่สตาร์ทอัพเดินทางมาถึง Series A ได้ก็แปลว่า สตาร์ทอัพรายนี้ ‘มีของ’ อยู่กับตัว และมีโอกาสสูงที่จะเติบโตและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ที่เข้ามาลงทุน 

 

ลงทุนในระดับ Series A ขึ้นไป

ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I จะเป็นเป็นกองทุนขนาด 3 พันล้านบาท โดยที่กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุน 5 ร้อยล้านบาท “เพื่อยืนยันว่าเราจะดูแลกองทุนนี้อย่างดีที่สุด เพราะส่วนใหญ่แล้วที่เราเห็นในวงการ Venture Capital ผู้ที่เป็นผู้ดูแลหน่วยลงทุนจะลงประมาณ 1-2% เอง แต่เราลงทุน 15% เอง เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจ

 

“วันนี้เราไม่ได้ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กรุงศรีเท่านั้น แต่ลงทุนเพื่อลูกค้าองค์กรที่เป็นลูกค้าของธนาคารกรุงศรีด้วย ถือได้ว่าอยู่ใน Ecosystem เดียวกัน นอกจากนี้การลงทุนจะแข็งแกร่งมากกว่าเดิม เพราะจะมี Strategic Investor เข้ามาด้วย นี่คือการต่อยอดของกรุงศรี ฟินโนเวต” 

 

สำหรับทิศทางนั้นจะมุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดับ Series A ขึ้นไป ซึ่งการที่สตาร์ทอัพเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เป็นการแสดงให้เห็นว่า สตาร์ทอัพพร้อมจะเติบโตและมีหนทางชัดเจนที่จะ Exit จากการเป็นสตาร์ทอัพ ไม่ว่าจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์หรือการถูกเทกโอเวอร์ ซึ่งการ Exit นั้นถือว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของสตาร์ทอัพแล้ว

 

“การที่สตาร์ทอัพสามารถ Exit ได้ จะทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจในการลงทุน เพราะเมื่อลงทุนเสร็จแล้วมีเส้นทางที่จะไปต่อได้ ขณะเดียวกันการที่เราลงในระดับระดับ Series A ขึ้นไป ก็ถือเป็นการปิดความเสี่ยงระดับหนึ่งว่า สตาร์ทอัพนี้สามารถขยายตลาดได้แน่นอน แต่มากหรือน้อยนั่นคือความท้าทาย”

 

Finnoventure Fund I

 

แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า แค่เดินทางมาถึง Series A ก็จะทำให้สตาร์ทอัพรายนั้นเตะตาจนกรุงศรี ฟินโนเวต จะเข้าไปลงทุน แต่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สตาร์ทอัพรายนั้นเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ จะต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องเติบโตต่อไปได้ในอนาคต โดยเฉพาะในยุคหลังโควิดที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

หลายสตาร์ทอัพในยุคก่อนโควิดอาจมีโมเดลธุรกิจที่ ‘ปัง’ เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าความปังนั้นจะยังอยู่หลังยุคโควิด ดังนั้นฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I จึงจะเน้นลงทุนในกลุ่มฟินเทค, อีคอมเมิร์ซ, ออโตโมทีฟ (ยานยนต์) ซึ่งประเมินแล้วว่าเป็นดาวจรัสแสงที่จะยังไม่หม่นหมองในเวลาอันใกล้นี้ กลับกันสตาร์ทอัพกลุ่มนี้กลับเปล่งแสงมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้การที่สตาร์ทอัพสามารถผ่านช่วงโควิดมาได้นั้นแสดงให้เห็นว่าสตาร์ทอัพนั้นแข็งแกร่งเพียงพอ

 

การลงทุนในสตาร์ทอัพเหล่านี้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี โดยแซมขยายความว่า สำหรับ ‘ฟินเทค’ นั้น แน่นอนว่ากรุงศรี ฟินโนเวต เป็นผู้เชี่ยวชาญและยังเห็นช่องทางการเติบโตในภูมิภาคนี้อีกมาก ซึ่งภูมิภาคนี้มีประชากรกว่า 650 ล้านคน มีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และความเข้าใจในเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

 

สำหรับ ‘อีคอมเมิร์ซ’ ยังเป็นธุรกิจที่ยังเติบโตได้อีกมาก เพราะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นยังมีสัดส่วนของอีคอมเมิร์ซเมื่อเทียบกับตลาดค้าปลีกรวมยังไม่ถึง 2% ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจีนที่มีสัดส่วนกว่า 25% หรือสหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนประมาณ 17-18% ดังนั้นอีคอมเมิร์ซยังมีโอกาสเติบโต และกรุงศรี ฟินโนเวต ก็มีเครื่องมืออีกมากมายที่จะเข้ามาช่วยให้อีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นไปอีก

 

ด้าน ‘ออโตโมทีฟ (ยานยนต์)’ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มาแรง เพราะเทรนด์ของรถยนต์ทั้งไฟฟ้าและอัตโนมัติกำลังมา ขณะเดียวกันกรุงศรีก็มี ‘กรุงศรีออโต้’ ที่มีส่วนแบ่งมากกว่า 1 ใน 3 ของตลาด ทำให้ต้องหาบริการที่เข้ามาตอบโจทย์บริการได้มากขึ้น เช่นเดียวกันธนาคารกรุงศรีมีลูกค้าที่เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะโรงงานผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่เกือบทุกแบรนด์เป็นลูกค้าธนาคารกรุงศรี ดังนั้นจึงต้องหาเทคโนโลยีมาช่วยพวกเขาเหล่านี้

 

“เรามีสัดส่วนของคนใช้รถยนต์มากกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน แต่ก็ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการเจริญเติบโตจึงเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะ เราจึงให้ความสนใจในธุรกิจเหล่านี้”

 

Finnoventure Fund I

 

ต้องสามารถ ‘ต่อยอด’ ได้ 

แซมย้ำว่า นอกจากจะลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการเติบโตแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ สามารถ ‘ต่อยอด’ ให้ผู้ลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกองทุนนี้มีธีมคือ Synergy Investment ดังนั้นจึงต้องนำมาต่อยอดได้ด้วย

 

“เราไม่ได้ไปลงทุนในเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงปิดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง เราจะลงทุนในสตาร์อัพที่เห็นถึงการการเติบโตได้อย่างชัดเจน มีลูกค้าใช้งาน เช่นเดียวกันเราก็มองหาการ Synergy ด้วย กลุ่มไหนที่ธนาคารยังไม่เคยมีก็จะเข้าไปลงทุน ดังนั้นเราจะปิดความเสี่ยงในหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างจากรายอื่นๆ ที่อาจลงทุนไปก่อนแล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง แต่เราเน้นปิดความเสี่ยงของเราก่อน ถ้าไม่ชัวร์จริงๆ ก็จะไม่ลง” 

 

ส่วนในแง่ผลตอบแทนของการลงทุนนั้น “ตั้งแต่เราลงทุนมาเฉลี่ยแล้วผลตอบแทนจะอยู่ในระดับเกินกว่ามาตรฐานและปกติแล้วจะโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นผลตอบแทนของฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I จึงจะไม่น้อยกว่านี้ เพราะพอร์ตที่เราเลือกมาเป็นกลุ่มที่แข็ง นอกจากนี้ยังมีสตาร์อัพอีกหลายแห่งที่มีศักยภาพและรอได้รับการลงทุน ซึ่งตอนนี้มีอยู่ในไปป์ไลน์แล้วกว่า 10 ธุรกิจสตาร์ทอัพ”

 

สำหรับนักลงทุนสถาบัน หรือองค์กรธุรกิจ นักลงทุนรายย่อย ประเภทกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่สนใจลงทุน ก้าวเข้าไปในโลกของดิจิทัลและเติบโตไปด้วยกันกับกรุงศรี ฟินโนเวต หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจการลงทุนใน ‘ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I’ สามารถติดต่อได้ที่ [email protected] หรือส่ง Inbox มาได้ที่ Facebook: Krungsri Finnovate

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X