Fed มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้น: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 มิ.ย. 2562)

ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดถึงมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์เทียบกับทั่วโลก และต้นทุนทางการเงินในการถือครองทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับ 96.925 จุดเช้านี้ พร้อมกันกับมีแรงเข้าซื้อ ETF ทองคำปริมาณมากจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนอีกครั้ง

มติคงดอกเบี้ยคง Fed หนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงสุด 34 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,393.27 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ (+2.9%) ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 63 เดือนหรือ 5 ปี ก่อนที่จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,378.25 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ในเช้าวันนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.977% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 สะท้อนมุมมองนักลงทุนที่คาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจากท่าทีของ FOMC ล่าสุด

จับตาแถลงการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากภาคการบริโภคและการส่งออกของญี่ปุ่นยังส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกดดันอัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดความคาดหวังให้ BOJ ให้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม หรือเพิ่มมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์ว่าการแถลงในวันนี้จะเป็นการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดิมเพื่อจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้มีความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะตัดสินใจใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นอยู่ในระดับ -0.1% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลเสียต่อกำไรของบริษัทในกลุ่มการเงิน การธนาคาร และประกันภัยได้ ทำให้ BOJ จะต้องใคร่ครวญอย่างระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆ ไป

จับตาท่าทีนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) หลังจากความไม่แน่นอนในกรณี Brexit ได้กดดันสหราชอาณาจักรมาอย่างยาวนาน โดยสหราชอาณาจักรได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปี 2018 ที่ผ่านมาสู่ระดับ 0.75% เพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ แต่ในครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOE จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มมีการส่งสัญญาณเพิ่มมาตรการทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากอัตราการบริโภคและการจ้างงานเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเชื่อว่าตนมีอำนาจในการแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Fed โดยเขาย้ำว่าเขามีอำนาจเต็มในการปลดและแต่งตั้งประธาน Fed หลังทรัมป์มองว่า FOMC ควรมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและป้องกันการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ต่อไป อย่างไรก็ตาม เจอโรม เพาเวลล์ ยืนยันว่าโดยกฎหมายแล้วเขามีวาระอยู่ที่ 4 ปีเต็ม และมั่นใจว่าจะสามารถอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ เนื่องจากตนทำทุกอย่างตามที่สมควรแล้ว

สภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นยืนเหนือ 1,700 จุด ปิดที่ระดับ 1,705 จุด (+1.33%) ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่พากันปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% โดยมูลค่าการซื้อขายวานนี้อยู่ที่ 107,568.94 ล้านบาท นำโดยนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 9,348.97 ล้านบาท ส่วนผู้ขายสุทธิเพียงกลุ่มเดียวคือนักลงทุนในประเทศด้วยมูลค่า 13,537.21 ล้านบาท
ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ AOT อนุมัติผลการประมูลให้สิทธิเอกชนประกอบกิจการจํานวน 3 โครงการ โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นผู้ชนะประมูลทั้งหมด รวมมูลค่าราว 23,000 ล้านบาท ส่งผลให้วานนี้ราคาหุ้น AOT ปิดที่ 73.75 ปรับเพิ่มขึ้น 5.75 บาท (+8.46%) และมีมูลค่าการซื้อขายอันดับ 1 ที่ 23,117.15 ล้านบาท

ยุโรป

STOXX600 ปิดที่ 378.46 ลดลง 0.45 (-0.09%)
DAX ปิดที่ 12,308.53 ลดลง 23.22 (-0.19%)
FTSE 100 ปิดที่ 7,403.54 ลดลง 39.50 (-0.53%)
FTSE MIB ปิดที่ 21,221.38 เพิ่มขึ้น 87.60 (+0.41%)

เอเชีย

S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,648.10 เพิ่มขึ้น 78.10 (+1.19%)
KOSPI ปิดที่ 2,124.78 เพิ่มขึ้น 26.07 (+1.24%)
Shanghai ปิดที่ 2,917.80 เพิ่มขึ้น 27.64 (+0.96%)
Hang Seng ปิดที่ 28,202.14 เพิ่มขึ้น 703.37 (+2.56%)
BSE Sensex ปิดที่ 39,112.74 เพิ่มขึ้น 66.40 (+0.17%)
Nikkei ปิดที่ 21,351.08 เพิ่มขึ้น 378.37 (+1.80%)
SET ปิดที่ 1,705.98 เพิ่มขึ้น 22.38 (+1.33%)

อเมริกา

DOW30 ปิดที่ 26,504.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.46 (+0.15%)
S&P500 ปิดที่ 2,926.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 (+0.30%)
NASDAQ ปิดที่ 7,987.32 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 (+0.42%)

Commodities

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 53.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.9 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,348.8 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ finno.me/dailyupdate