×

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง หลังสภาล่างเปิดฉากสอบสวนเพื่อถอดถอนทรัมป์, จับตา กนง. ประชุมวันนี้ คาดคงดอกเบี้ย: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (25 ก.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
25.09.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง หลังสภาล่างเตรียมถอดถอนทรัมป์ โดยดัชนี Nasdaq ร่วงกว่า 1.46% เช่นเดียวกับดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวลง 0.84% หลังประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เปิดฉากสอบสวนเพื่อถอดถอนจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากการสั่งระงับจ่ายเงินอุดหนุนทางการทหารแก่ประเทศยูเครน และกดดันให้ทางประธานาธิบดียูเครนสอบสวน โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนเกิดกระแสเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายงานการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีประเทศอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการพูดคุยกับรัสเซีย

 

  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ นอกจากประเด็นการเมืองภายในสหรัฐฯ แล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนกันยายน ลดลงสู่ระดับ 125.1 จุด จาก 134.2 จุด เมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 133.5 จุด และเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน เป็นปัจจัยกดดันหุ้น Amazon ให้ลดลงถึง 2.45% เมื่อคืนนี้

.

  • จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กนง. จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อรอดูผลของการปรับลดในรอบที่ผ่านมา และรอดูว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยนำมาใช้ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด

 

  • เริ่มแล้วมาตรการ ชิมช้อปใช้ เปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 23 กันยายน โดยได้มีการลงทะเบียนจนเต็มโควตาวันละ 1 ล้านคนในช่วงครึ่งวันแรก โดยมาตรการดังกล่าวภาครัฐใช้วงเงิน 20,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะสามารถกระตุ้น GDP เพิ่มขึ้น 0.1-0.2 % ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบเป็นเม็ดเงินจาก GDP มูลค่า 17 ล้านล้านบาท มาตรการดังกล่าวมีผลต่อ GDP 17,000-34,000 ล้านบาท โดยกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการ การค้า กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งสนามบิน โรงแรม รถเช่า บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

  • อี้กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ยืนยันว่าจีนไม่มีความจำเป็นที่จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงินเหมือนกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ เนื่องจากมีวิธีที่ดีกว่า คือ การลดปริมาณเงินสำรองของธนาคาร เพื่อให้ธนาคารมีกำลังการปล่อยกู้ได้มากขึ้น รวมถึงการควบคุมอัตราดอกเบี้ย LPR ซึ่งนโยบายทางการเงินของจีนจะยึดหลักการทางการเงินปกติ เพื่อให้จีนสามารถขยายนโยบายการเงินได้นานที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และการดำรงชีวิตของผู้คน

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียปรับตัวในทิศทางผสมผสาน ยังขาดปัจจัยกำหนดทิศทางตลาด ด้านหุ้นไทย นักวิเคราะห์ชี้ กองทุนอยู่ในช่วงปรับพอร์ตเพื่อรอคำนวณการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น AWC หรือ Asset World Corporation ที่อยู่ในช่วงเปิด IPO ซึ่งหลังเปิดซื้อขายในตลาด จะเพิ่มเข้าสู่ SET50 ทันที ซึ่งจะทำให้หุ้นเดิมในดัชนีถูกลดน้ำหนักลง จึงสร้างแรงกดกันให้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ในช่วงที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคาดว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากกองทุน Active Fund ขณะที่ Passive Fund ยังจำเป็นต้องรอน้ำหนักที่แน่ชัดในดัชนีก่อนที่จะมีการปรับสัดส่วนพอร์ตอีกครั้ง ซึ่งวานนี้ SET ปิดที่ 1630.5 จุด เพิ่มขึ้น 7.71 จุด (+0.48%) จากแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยเป็นปัจจัยสำคัญ

 

  • ประเด็นทางเมืองสหรัฐฯ กลายเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลต่อตลาดหุ้นอีกครั้ง หลังกระแสข่าวการถอดถอน โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง Under Perform กว่าตลาดอื่นๆ ทั่วโลก โดย Dow 30 (-0.53%), S&P 500 (-0.77%) และ Nasdaq (-1.46%) พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของดัชนี VIX Index ที่ปรับตัวขึ้นสูงถึง (+14.35%) สู่ระดับ 17.05 จุด ขณะที่ราคาทองคำจ่อทดสอบ 1,540 หรือปรับตัวขึ้นถึง +8.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.650% หรือลดลง (-3.45%) และ 2 ปี อยู่ที่ 1.628 หรือลดลง (-2.47%) จ่อเกิดเป็น Inverted Yield Curve อีกครั้ง 

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 26807.77 ลดลง -142.22 (-0.53%)
  • S&P 500 ปิดที่ 2968.7 ลดลง -23.07 (-0.77%)
  • Nasdaq ปิดที่ 7993.63 ลดลง -118.83 (-1.46%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 12307.15 ลดลง -35.18 (-0.29%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7291.43 ลดลง -34.65 (-0.47%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3532.05 ลดลง -4.92 (-0.14%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 21901.01 เพิ่มขึ้น 1.13 (0.01%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 22098.84 เพิ่มขึ้น 19.75 (0.09%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6748.9 ลดลง -0.8 (-0.01%)
  • Shanghai ปิดที่ 2985.34 เพิ่มขึ้น 8.26 (0.28%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9811.38 เพิ่มขึ้น 30.24 (0.31%)
  • China A50 ปิดที่ 13742.52 เพิ่มขึ้น 45.92 (0.34%)
  • Hang Seng ปิดที่ 26281 เพิ่มขึ้น 58.6 (0.22%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 10918.01 ลดลง -1.01 (-0.01%)
  • SET ปิดที่ 1630.5 เพิ่มขึ้น 7.71 (0.48%)
  • KOSPI ปิดที่ 2101.04 เพิ่มขึ้น 9.34 (0.45%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6137.61 ลดลง -68.59 (-1.11%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 39097.14 เพิ่มขึ้น 7.11 (0.02%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7893.94 เพิ่มขึ้น 26.43 (0.34%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 56.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.84 (-3.14%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 62.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -2.12 (-3.27%)
  • ราคาทองคำปิดที่ 1539.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.75 (0.51%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

ที่มา: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X