×

IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก เหตุสงครามการค้ากระทบการเติบโต, Coca-Cola และ Visa ประกาศผลประกอบการดีเกินคาด: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (24 ก.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
24.07.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ชะลอตัว จับตา PMI สหรัฐฯ ยุโรป คืนนี้ โดยเมื่อคืนนี้มีประกาศยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐฯ (Existing Home Sales) เดือนมิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ 5.27 ล้านหลัง ลดลง 1.7% (MoM) ส่วนคืนนี้ต้องติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing PMI) เดือนกรกฎาคมของสถาบัน Markit ทั้งของเยอรมนี สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยนักวิเคราะห์คาดว่า PMI ของเยอรมนีและยุโรป ยังคงเคลื่อนไหวในแดนหดตัวที่ 45.2 และ 47.6 จุด ตามลำดับ ส่วนของสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 51.0 จุด ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.6 จุด

 

  • สหรัฐฯ-จีน ตอบโต้กันอีกครั้ง แม้เตรียมเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และโรเบิร์ต ไลต์ทิเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เตรียมเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับหลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งจะถือเป็นการเจรจาครั้งแรกนับตั้งแต่การพบกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในที่ประชุมซัมมิต G20 เมื่อเดือนก่อน ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่าสหรัฐฯ ได้ทำการคว่ำบาตรบริษัท จูไห่ เจิ้นหรง ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของรัฐบาลจีน หลังละเมิดข้อกำหนดสำหรับภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนเริ่มสอบสวนประเด็นการทุ่มตลาดสารโพรพานอลที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ที่ใช้สำหรับทำละลายหมึกพิมพ์สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร และผลิตยาปฏิชีวนะ

 

  • สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ (0.24%) หลังตลาดกังวลการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรของบอริส จอห์นสัน เพราะท่าทีที่แข็งกร้าวต่อสหภาพยุโรป ทำให้มีโอกาสที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวจาก EU ได้ไร้ข้อตกลง โดยจอห์นสันถือเป็นผู้รณรงค์คนสำคัญให้สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรป และที่ผ่านมาเขายืนกรานว่าจะให้สหราชอาณาจักรแยกตัวตามกำหนดเส้นตายวันที่ 31 ตุลาคมนี้ แม้ไม่มีข้อตกลงก็ตาม ขณะเดียวกันเขาก็คัดค้านการจัดการลงประชามติ Brexit รอบใหม่ด้วย

 

  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.2% จากเดิมที่ระดับ 3.3% เมื่อเดือนเมษายน และต่ำกว่าระดับ 3.5% ที่คาดไว้ในเดือนมกราคม โดยสาเหตุสำคัญคือความเสี่ยงหลักที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบด้วย ความไม่แน่นอนจากปัญหา Brexit, ความตึงเครียดทางการค้า, การกีดกันทางเทคโนโลยี และการลงทุนที่ชะลอตัว ขณะที่จีนและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ถูกปรับลดประมาณการเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวที่ 6.2% และ 4.1% ลดลง 0.1% และ 0.3% ตามลำดับ

 

  • Coca-Cola และ Visa ประกาศผลประกอบการดีเกินคาด โดยเมื่อคืนนี้ราคาหุ้น Coca-Cola บริษัทน้ำดำระดับโลกจากสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นกว่า 2% แตะระดับสูงสุดในรอบปี หลังเผยผลประกอบการไตรมาส 2 มีรายได้เพิ่มขึ้น 6% (YoY) อยู่ที่ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าคาดที่ระดับ 9,790 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 4% (YoY) สู่ระดับ 0.63 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.62 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ส่วน Visa บริษัท Payment Gateway ชั้นนำ เผยรายได้เพิ่มขึ้น 11% (YoY) สู่ระดับ 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าคาดที่ระดับ 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐร์ ส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 14% (YoY) อยู่ที่ 1.37 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.32 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น Visa ปรับตัวลงประมาณ 0.50% ในตลาดหลังเวลาทำการปกติ

 

สภาวะตลาดวานนี้

 

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาสดใส ขานรับรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ของหลายๆ บริษัททั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับปัจจัยบวกจาก 80% ของ 104 หุ้นบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศตัวเลขออกมาดีเกินคาด พร้อมขานรับข่าวการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งคลายความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ และภาวะ Government Shutdown ที่มักสร้างผลกระทบต่อ GDP สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นโดดเด่นเมื่อวานนี้ หลังผลประกอบการกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ออกมาดี แต่ถึงกระนั้นกลุ่มที่หนุนตลาดวานนี้กลับเป็นกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (STOXX Europe 600 Automobiles & Parts Index) ซึ่งปรับตัวขึ้นถึง 4% ประกอบกับกระแสคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลให้ STOXX600 ปิดที่ 391.54 เพิ่มขึ้น 3.80 (+0.98%) ถึงแม้มีแนวโน้มที่จะเกิด No-deal Brexit สูงขึ้น หลังบอริส จอห์นสัน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ก็ตาม 

 

ยุโรป

  • STOXX600 ปิดที่ 391.54 เพิ่มขึ้น 3.80 (+0.98%)
  • DAX ปิดที่ 12,490.74 เพิ่มขึ้น 201.34 (+1.64%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7,556.86 เพิ่มขึ้น 41.93 (+0.56%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 21,954.66 เพิ่มขึ้น 218.96 (+1.01%)

 

เอเชีย

  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,724.60 ลดลง 33.40 (-0.14%)
  • KOSPI ปิดที่ 2,093.34 ลดลง 1.02 (-0.05%)
  • Shanghai ปิดที่ 2,101.45 เพิ่มขึ้น 8.11 (+0.39%)
  • Hang Seng ปิดที่ 28,466.48 เพิ่มขึ้น 95.22 (+0.34%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 37,982.74 ลดลง 48.39 (-0.13%)
  • Nikkei ปิดที่ 21,620.88 เพิ่มขึ้น 204.09 (+0.95%)
  • SET ปิดที่ 1,724.87 ลดลง 2.76 (-0.16%)

 

อเมริกา

  • DOW30 ปิดที่ 27,350.34 เพิ่มขึ้น 178.44 (+0.66%)
  • S&P500 ปิดที่ 3,005.10 เพิ่มขึ้น 20.07 (+0.67%)
  • NASDAQ ปิดที่ 8,251.40 เพิ่มขึ้น 47.27 (+0.58%)

 

Commodities

  • ราคาน้ำมัน WTI ปิดที่ 56.93 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.71 (+1.26%)
  • ราคาน้ำมัน BRENT ปิดที่ 64.00 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.74 (+1.17%)
  • ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ 1,417.35 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 9.55 (-0.66%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • efinanceThai
  • AlphaStreet
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X