- โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลามถึงสหรัฐฯ โดยวานนี้สาธารณสุขสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ เป็นรายแรก โดยชายคนดังกล่าวเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าเป็นแหล่งต้นตอของไวรัส ข่าวดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อภาวะการลงทุนในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว
- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.43 ล้านหลัง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.35 ล้านหลัง หรือคิดเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.3% ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว -1.7%
- โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้หารือกันทางโทรศัพท์ และเห็นพ้องกันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ และฝรั่งเศสจะเลื่อนเวลาการเก็บภาษีดิจิทัลไปจนสิ้นปี 2020 เพื่อหารือข้อตกลงให้ลุล่วงก่อนที่จะมีการพิจารณาการเก็บภาษีอีกครั้ง โดยภาษีดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเก็บรายได้ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Facebook, Google, Amazon และอื่นๆ ที่มีรายได้มาจากประเทศฝรั่งเศสจำนวน 3%
- เยอรมนีฟื้นตัวต่อเนื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นดีกว่าคาด วานนี้สถาบัน ZEW ประกาศดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี (ZEW Economic Sentiment) ออกมาที่ 26.7 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จากระดับ 15.0 จุด โดยเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือนที่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 0 จุด 2 เดือนต่อเนื่องได้ สะท้อนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง สอดคล้องไปกับตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ
.
- BOJ คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ระบุพร้อมกระตุ้นหากจำเป็น วานนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% ต่อไป โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี หลังจากได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังของ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามมุมมองด้านอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ โดยมีการปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 1% ในปี 2020 สวนทางกับการคาดการณ์ GDP ที่ปรับขึ้นมาสู่ระดับ 0.9%
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลง หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่าพบผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ รายแรก เบื้องต้นพบว่าผู้ติดเชื้อดังกล่าวเคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นของจีน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลงแรง นำโดยหุ้น United Airlines ดิ่งลง 4.4%, หุ้น American Airlines ดิ่งลง 4.2% เป็นต้น ประกอบกับการปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจโลกของ IMF ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเช่นกัน จากการที่นักลงทุนเริ่มกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกอย่างเช่นข้อพิพาทเรื่องการเก็บภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรปที่ถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาดูประเด็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดเหตุซ้ำรอยโรค SARS ที่เคยเกิดในปี 2546
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากการที่นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลงในปีนี้ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันลดลง และอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาในจีน ซึ่งอาจส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดลง
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 29196.04 ลดลง -152.06 (-0.52%)
- S&P 500 ปิดที่ 3320.79 ลดลง -8.83 (-0.27%)
- Nasdaq ปิดที่ 9370.81 ลดลง -18.14 (-0.19%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13555.87 เพิ่มขึ้น 6.93 (0.05%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7610.7 ลดลง -40.74 (-0.53%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3789.12 ลดลง -9.91 (-0.26%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23845.28 ลดลง -157.17 (-0.65%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23864.56 ลดลง -218.95 (-0.91%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 7066.3 ลดลง -13.2 (-0.19%)
- Shanghai ปิดที่ 3052.14 ลดลง -43.64 (-1.4%)
- SZSE Component ปิดที่ 10896.55 ลดลง -219.33 (-1.97%)
- China A50 ปิดที่ 14165.76 ลดลง -281.6 (-1.95%)
- Hang Seng ปิดที่ 27985.33 ลดลง -788.67 (-2.74%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 12118.71 เพิ่มขึ้น 28.42 (0.24%)
- SET ปิดที่ 1574.94 ลดลง -14.17 (-0.89%)
- KOSPI ปิดที่ 2239.69 ลดลง -22.95 (-1.01%)
- IDX Composite ปิดที่ 6238.15 ลดลง -6.89 (-0.11%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41323.81 ลดลง -205.1 (-0.49%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7466.65 ลดลง -85.95 (-1.14%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 58.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.2 (-0.3%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 64.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.26 (-0.4%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1557.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -2.4 (-0.15%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters