- เมื่อวานนี้ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาฯ ประกอบไปด้วย ตัวเลข Building Permits เดือนมกราคม ประกาศออกมาที่ 1.551 ล้านหลัง (MoM) ดีกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.450 ล้านหลัง ขณะที่ตัวเลข Housing Starts เดือนมกราคม อยู่ที่ระดับ -3.6% (MoM) ดีกว่าที่คาดการณ์ที่ -30.7% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.5% (MoM) ดีกว่าที่คาดการณ์ที่ 0.1% (MoM) และ 2.1% (YoY) ดีกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.6% (YoY) และดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.5% (MoM) ดีกว่าคาดการณ์ที่ 0.1% (MoM) และ 1.7% (YoY) ดีกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.3% (YoY)
- Fed ยังคงมีมุมมองบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ Fed ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งในภาคบริโภคที่ยังดีอยู่ การจ้างงานที่ขยายตัว แต่อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังต้องหารือการแก้ไขสถานการณ์ต่อไป และการคงดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำยังสมเหตุสมผลอยู่ ส่งผลให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- เมื่อคืนนี้ตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ เกิดภาวะ Inverted Yield Curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 3 เดือน มีผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็น 1 ในสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าหลังจากตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ ทำ Inverted Yield Curve โดยเฉลี่ยราว 22 เดือน สหรัฐฯ ก็จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- IMF ชี้ไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ คริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยจีนได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานจนทำให้เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
- จีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Loan Prime Rate (LPR) อีกครั้ง แบ่งเป็น LPR ระยะ 1 ปี ปรับลดลง 0.10% ที่ระดับ 4.05% สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ และลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.05% ที่ระดับ 4.75% โดยมีจุดประสงค์เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่ฉุดเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างรุนแรง
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้น ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ทำ New High ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง จากการคลายความกังวลที่เศรษฐกิจอาจชะลอตัว สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น และทำ New High เช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาอาจไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นอีกครั้ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากการที่ตลาดคลายความกังวลจากผลกระทบของโควิด-19 ที่เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้เศรษฐกิจอาจไม่ได้ชะลอตัวอย่างที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ปริมาณความต้องการน้ำมันยังคงมีอยู่ ลดความกังวลที่น้ำมันจะล้นตลาดได้ ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการที่นักลงทุนลงทุนในทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วน เพื่อถัวเฉลี่ยความเสี่ยง และจับตาดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกต่อไป
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 2,9348.03 เพิ่มขึ้น 115.84 (0.4%)
- S&P 500 ปิดที่ 3,386.15 เพิ่มขึ้น 15.86 (0.47%)
- Nasdaq ปิดที่ 9,817.18 เพิ่มขึ้น 84.44 (0.87%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 1,3789 เพิ่มขึ้น 107.81 (0.79%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7,457.02 เพิ่มขึ้น 75.01 (1.02%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3,865.18 เพิ่มขึ้น 28.64 (0.75%)
- FTSE MIB ปิดที่ 2,5477.55 เพิ่มขึ้น 254.04 (1.01%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23,400.70 จุด เพิ่มขึ้น 206.90 จุด (+0.89%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,144.60 จุด เพิ่มขึ้น 30.90 จุด (+0.43%)
- Shanghai ปิดที่ 2,975.40 จุด ลดลง 9.57 จุด (-0.32%)
- SZSE Component ปิดที่ 11,235.60 จุด ลดลง 70.89 จุด (-0.63%)
- China A50 ปิดที่ 13,750.45 จุด เพิ่มขึ้น 38.32 จุด (+0.28%)
- Hang Seng ปิดที่ 27,655.81 จุด เพิ่มขึ้น 125.61 จุด (+0.46%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11,758.84 จุด เพิ่มขึ้น 109.86 จุด (+0.94%)
- SET ปิดที่ 1,505.54 จุด ลดลง 8.14 จุด (-0.54%)
- KOSPI ปิดที่ 2,210.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.46 จุด (+0.07%)
- IDX Composite ปิดที่ 5,928.79 จุด เพิ่มขึ้น 41.83 จุด (+0.71%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41,323.00 จุด เพิ่มขึ้น 428.62 จุด (+1.05%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7,396.94 จุด เพิ่มขึ้น 74.05 จุด (+1.01%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 53.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (2.4%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 59.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (2.4%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1,611.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (0.51%)
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters