จีนเตรียมยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากสหรัฐฯ เริ่ม 2 มี.ค. นี้, อัตราการว่างงานในฮ่องกงแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (19 ก.พ. 2563)

เยอรมนีเปิดเผยตัวเลข German ZEW Economic Sentiment เดือนกุมภาพันธ์ที่ 8.7 จุด ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 21.5 จุด ส่วนยุโรปเปิดเผยตัวเลข ZEW Economic Sentiment เดือนกุมภาพันธ์ที่ 10.4 จุด ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 30.0 จุด ขณะที่สหราชอาณาจักรเปิดเผยอัตราการว่างงานเดือนธันวาคมที่ระดับ 3.8% เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยคืนนี้ทางการสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบไปด้วย ตัวเลข Building Permits เดือนมกราคม โดยตลาดคาดว่าจะหดตัว -0.1% (MoM) อยู่ที่ 1.450 ล้านหลัง และตัวเลข Housing Starts เดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าจะหดตัว -30.7% (MoM) อยู่ที่ 1.425 ล้านหลัง ขณะเดียวกันยังมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) เดือนมกราคม โดยคาดการณ์ว่าดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.1% (MoM) และ 1.6% (YoY) ส่วนดัชนี Core PPI เพิ่มขึ้น 0.1% (MoM) และ 1.3% (YoY)

จีนเตรียมยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เริ่ม 2 มีนาคมนี้ คณะกรรมาธิการด้านภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนประกาศเตรียมรับคำร้องจากบริษัทสัญชาติจีนที่ต้องการขอรับการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จำนวน 696 รายการ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ โดยการประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงการค้าเฟส 1 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

HSBC อาจปลดพนักงานกว่า 35,000 ตำแหน่ง ตามแผนปรับโครงสร้างทางธุรกิจเพื่อให้มีความคล่องตัวและดำเนินธุรกิจหลักที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะปรับลดขนาดสินทรัพย์ลงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดสัดส่วนธุรกิจในภาควาณิชธนกิจ รวมถึงปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับลดพนักงานลงเป็นจำนวนกว่า 35,000 ตำแหน่ง

อัตราการว่างงานในฮ่องกงสูงสุดในรอบ 3 ปี กระทรวงแรงงานและสวัสดิการฮ่องกงเปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในฮ่องกงและทำให้อัตราการว่างงานของฮ่องกงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 3.4% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 5.2%

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้

ดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ปรับตัวลง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากผลกระทบของโรคโควิด-19 โดยทาง Apple คาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2/2020 ตามปีงบบริษัทอาจไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ในตอนแรก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนอีกครั้ง ส่งผลให้หุ้น Apple ร่วง 1.83% และหุ้นกลุ่มผลิตชิ้นส่วนให้ Apple ก็ร่วงตามไปด้วย อาทิ หุ้น Qualcomm ร่วง 1.75% สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลข German ZEW Economic Sentiment เดือนกุมภาพันธ์ออกมาที่ 8.7 จุด ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 21.5 จุดค่อนข้างมาก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมาจากความกังวลดังกล่าว

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากความคาดหวังที่กลุ่ม OPEC จะลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 6 แสนบาร์เรลต่อวัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ต่ำจนเกินไป สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันลดลง ด้านราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงจากความกังวลผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทต่างๆ ทั่วโลกออกมาแย่ได้ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเพื่อจับตาดูสถานการณ์ต่อไป

สหรัฐฯ

Dow 30 ปิดที่ 29,232.19 ลดลง 165.89 (-0.56%)
S&P 500 ปิดที่ 3,370.29 ลดลง 9.87 (-0.29%)
Nasdaq ปิดที่ 9,732.74 เพิ่มขึ้น 1.57 (+0.02%)

ยุโรป

DAX ปิดที่ 13,681.19 ลดลง 102.7 (-0.75%)
FTSE 100 ปิดที่ 7,382.01 ลดลง 51.24 (-0.69%)
Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3,836.54 ลดลง 16.73 (-0.43%)
FTSE MIB ปิดที่ 25,223.51 เพิ่มขึ้น 102.97 (+0.41%)

เอเชีย

Nikkei 225 ปิดที่ 23,290.5 เพิ่มขึ้น 96.7 จุด (+0.42%)
S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,113.70 ลดลง 11.40 จุด (-0.16%)
Shanghai ปิดที่ 2,984.97 เพิ่มขึ้น 1.35 จุด (+0.05%)
SZSE Component ปิดที่ 11,306.49 เพิ่มขึ้น 64.99 จุด (+0.58%)
China A50 ปิดที่ 13,712.13 ลดลง 147.1 จุด (-1.06%)
Hang Seng ปิดที่ 27,530.2 ลดลง 429.4 จุด (-1.54%)
Taiwan Weighted ปิดที่ 11,648.98 ลดลง 114.53 จุด (-0.97%)
SET ปิดที่ 1,513.68 ลดลง 13.57 จุด (-0.89%)
KOSPI ปิดที่ 2,208.88 ลดลง 33.29 จุด (-1.48%)
IDX Composite ปิดที่ 5,886.96 เพิ่มขึ้น 19.44 จุด (+0.33%)
BSE Sensex ปิดที่ 40,894.38 ลดลง 161.31 จุด (-0.39%)
PSEi Composite ปิดที่ 7,322.89 ลดลง 3.96 จุด (-0.05%)

Commodity

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 52.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (0.00%)
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 57.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (0.75%)
ราคาทองคำปิดที่ 1603.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1.08%)