- ยุโรปชื่นมื่น หลัง Brexit มีทางออก โดยวานนี้ โดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป (European Council) เผยบรรลุข้อตกลง Brexit เบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อย โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวมีการยกเลิกเงื่อนไข Backstop ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับพรมแดนไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โดยแทนที่ด้วย New Protocol ซึ่งจะส่งผลให้ไอร์แลนด์เหนือยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบศุลกากรสหราชอาณาจักร และจะเป็นประตูทางเข้าสู่ตลาดร่วมของสหภาพยุโรป โดยจะไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับหรือพิธีการตรวจศุลกากรที่พรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์
- ตุรกีหยุดยิง 120 ชั่วโมง หลังทรัมป์เดินหน้าเจรจา หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดกรณีตุรกีโจมตีชาวเคิร์ดในพื้นที่ซีเรียปะทุขึ้น ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากตุรกี 50% เพื่อตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว และส่ง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ไปเจรจาที่ตุรกียาวถึง 5 ชั่วโมง ส่งผลให้ทางตุรกียอมรับข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 120 ชั่วโมง เพื่อเปิดทางให้กลุ่มชาวเคิร์ดถอนกำลังได้อย่างปลอดภัย ขณะที่สหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการต่างๆ หากสถานการณ์เป็นไปอย่างสงบเมื่อครบ 120 ชั่วโมง
- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจจีน วันนี้ทางการจีนมีกำหนดประกาศตัวเลข GDP Q3/19 ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6.1% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 6.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สืบเนื่องจากความตึงเครียดกรณีสงครามการค้าและการควบคุมการใช้สินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการประกาศตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.0% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
- จีนส่งสัญญาณเดินหน้าเจรจาการค้าต่อ โดย เกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างต้องการข้อตกลงเพื่อจบสงครามการค้า ซึ่งจีนหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อไปถึงเป้าหมายสุดท้ายก็คือการยกเลิกการกีดกันทางการค้าทั้งหมดที่เกิดขึ้น
- IMF เตือนลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจเพิ่มความเสี่ยง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุในรายงาน Global Financial Stability Report ว่า กรณีสงครามการค้าและความตึงเครียดการเมืองระหว่างประเทศทั่วโลก เป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การทำเช่นนั้นกลับยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบเศรษฐกิจและทำให้ระดับหนี้คุณภาพต่ำปรับสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเปราะบางให้กับระบบการเงิน โดย IMF ประเมินว่า 40% ของหนี้ภาคเอกชนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก (ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าตอนวิกฤตการเงินปี 2008-2009) อาจอยู่ในภาวะเสี่ยงซึ่งอาจก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้งได้
สภาวะตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones ปิดบวกเล็กน้อย แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะแย่ลง แต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแกร่ง อีกทั้งสหรัฐฯ กับตุรกียังบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย ทำให้นักลงทุนเริ่มคลายกังวล
- ด้านตลาดฝั่งยุโรป ปิดลบเล็กน้อย หลังจากตลาดรับข่าวเรื่อง Brexit ที่ได้บรรลุข้อตกลงระหว่าง EU กับ อังกฤษ แต่นักลงทุนยังคงจับตามองประเด็นนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากยังต้องผ่านรัฐสภาอังกฤษและลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังจากที่ยืดเยื้อมานาน
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แต่สต๊อกน้ำมันเบนซินกับดีเซลเหลือน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ บวกกับค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงทำให้ราคาน้ำมันฟื้นกลับมา
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่ดีตามคาดการณ์
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 27025.88 เพิ่มขึ้น 23.9 (0.09%)
- S&P 500 ปิดที่ 2997.95 เพิ่มขึ้น 8.26 (0.28%)
- Nasdaq ปิดที่ 8156.85 เพิ่มขึ้น 32.67 (0.4%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 12654.95 ลดลง -15.16 (-0.12%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7182.32 เพิ่มขึ้น 14.37 (0.2%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3588.62 ลดลง -10.63 (-0.3%)
- FTSE MIB ปิดที่ 22375.67 ลดลง -52.42 (-0.23%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 22451.86 ลดลง -21.06 (-0.09%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6684.7 ลดลง -51.8 (-0.77%)
- Shanghai ปิดที่ 2977.33 ลดลง -1.38 (-0.05%)
- SZSE Component ปิดที่ 9645.39 เพิ่มขึ้น 3.33 (0.04%)
- China A50 ปิดที่ 14098.5 เพิ่มขึ้น 38.28 (0.27%)
- Hang Seng ปิดที่ 26848.49 เพิ่มขึ้น 184.21 (0.69%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11186.88 เพิ่มขึ้น 24.05 (0.22%)
- SET ปิดที่ 1632.8 ลดลง -1.66 (-0.1%)
- KOSPI ปิดที่ 2077.94 ลดลง -4.89 (-0.23%)
- IDX Composite ปิดที่ 6181.01 เพิ่มขึ้น 11.42 (0.19%)
- BSE Sensex ปิดที่ 39052.06 เพิ่มขึ้น 453.07 (1.17%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7930.55 เพิ่มขึ้น 15.25 (0.19%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 53.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.16 (0.3%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.16 (0.27%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1498.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.55 (0.3%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing