×

คลังเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเงินหมุนเวียนกว่า 2 แสนล้านบาท: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (16 ส.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
16.08.2019
  • LOADING...
  • ประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ 1) ตัวเลขดัชนีราคาบ้านจีน ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยเดือนกรกฎาคม ขยายตัวเพียง 9.7% ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 10.3% ส่วนตัวเลขขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 อยู่ที่ระดับ 10.7% 2) อังกฤษเปิดเผยดัชนียอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคม ขยายตัว 0.2% มากกว่าคาดจากระดับ -0.2% แต่ยังอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง 3) สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขดัชนียอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคม ขยายตัว 0.7% มากกว่าคาดจากระดับ 0.3% ขณะที่ตัวเลขดัชนียอดค้าปลีกสินค้าพื้นฐานเดือนกรกฎาคม ขยายตัว 1.0% มากกว่าคาดเช่นกันที่ระดับ 0.4%

 

  • ฮ่องกงยังตึงเครียด ภาพถ่ายดาวเทียมเผยยานยนต์หุ้มเกราะและกำลังทหารจีนราว 500 คันจอดอยู่ในสนามกีฬา Shenzhen Bay Sports Center ซึ่งห่างจากพรมแดนฮ่องกงเพียง 1 กิโลเมตร สร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารจากทางการจีนเพื่อเข้าควบคุมการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ซึ่งอาจส่งผลให้เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกระดับการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่าทางการจีนจะไม่ใช้กำลังทางทหารหากไม่จำเป็น และการเคลื่อนกำลังเข้าสู่สนามกีฬานั้นอาจไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากบริเวณพรมแดนเอง และในพื้นที่ฮ่องกงได้มีค่ายทหารของจีนตั้งอยู่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะสงบลงได้ หากประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนมีการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยตรง

 

  • รัฐบาลเดินหน้าแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดสร้างเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 200,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย มาตรการร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในส่วนของสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง, มาตรการแจกเงินพิเศษแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งออกเป็น 1) แจกเงินพิเศษบัตรคนจน 2 เดือน เดือนละ 500 บาท รวม 1,000 บาท 2) แจกเงินบรรเทาค่าใช้จ่ายแก่ผู้สูงอายุและบัตรคนจน 2 เดือน เดือนละ 500 บาท รวม 1,000 บาท 3) แจกเงินช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรให้แก่ผู้ถือบัตรคนจนที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดที่มีอายุ 0-6 ปี เพิ่มเดือนละ 300 บาท เป็นเวลา 2 เดือนรวม 600 บาท, มาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค และการลงทุนในประเทศ ผ่านทางการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง และเงินทุนสนับสนุน SMEs และ sSME ในการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบ

 

  • ECB ส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดย ออลลี เรห์น สมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (Governing Council member ECB) และผู้ว่าการธนาคารกลางฟินแลนด์ ระบุว่า ECB ต้องเร่งใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ ทั้งในกรณีของการใช้มาตรการ QE ควบคู่ไปกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมไปถึงปรับเงื่อนไขโครงการวงเงินกู้พิเศษ (TLTRO-III) ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจธนาคารมากกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการทยอยดำเนินการทีละน้อย พร้อมระบุด้วยว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB น่าจะเห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลักษณะนี้

 

  • เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกครั้ง โดยกองทัพเกาหลีใต้รายงานว่า เช้าวันนี้เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกสองลูกไปตกในน่านน้ำตะวันออกของเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกมองว่าเป็นมาตรการตอบโต้การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพื่อสร้างข้อต่อรอง และเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ กลับมาเดินหน้าเจรจาสันติภาพอีกครั้ง หลังจากที่การเจรจาครั้งก่อนหน้ายุติลงโดยที่ไม่สามารถหาข้อสรุปอย่างเป็นทางการได้

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นยังคงได้รับแรงกดดัน ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผสมผสาน แบ่งเป็น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และไทย ปรับตัวในแดนลบ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงยังสามารถปรับตัวขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งภายในฮ่องกง ในส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป กลับมาอยู่ในกรอบความผันผวนระดับปกติ หลังจากสื่อต่างประเทศพากันรายงานข่าวท่าทีการกลับมาหาทางเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และจีน พร้อมกันนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่าง Walmart ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และการขยายตัวของตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคมที่สูงกว่าคาด บ่งชี้ถึงการบริโภคในประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัว อย่างไรก็ตาม ความกังวลในตลาดยังไม่มีท่าทีผ่อนคลาย และทิศทางเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยยังอยู่ในแนวโน้มที่สูง ล่าสุดราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,530 ดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.495% (-5.82%) และอายุ 2 ปีอยู่ที่ 1.469% (-6.83%) แม้จะกลับมามีผลตอบแทนสูงกว่าบอนด์อายุ 2 ปีอีกครั้ง แต่อัตราผลตอบแทนก็ยังอยู่ในแนวโน้มลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ล่าสุดปรับตัวลงมาที่ 1.948% (-3.88%) บ่งชี้ถึงความกังวล และมุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อระยะยาวที่มีโอกาสไม่ถึงกรอบเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

 

ยุโรป

  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3282.78 ลดลง -5.92 (-0.18%)
  • DAX ปิดที่ 11412.67 ลดลง -79.99 (-0.7%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7067.01 ลดลง -80.87 (-1.13%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 20020.28 ลดลง -519.15 (-2.53%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 20405.65 ลดลง -249.48 (-1.21%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6408.1 ลดลง -187.8 (-2.85%)
  • Shanghai ปิดที่ 2815.8 เพิ่มขึ้น 6.88 (0.25%)
  • Hang Seng ปิดที่ 25495.46 เพิ่มขึ้น 193.18 (0.76%)
  • SET ปิดที่ 1604.03 ลดลง -15.42 (-0.95%)
  • *KOSPI วันหยุด*
  • *BSE Sensex วันหยุด*

 

อเมริกา

  • Dow 30 ปิดที่ 25579.39 เพิ่มขึ้น 99.97 (0.39%)
  • S&P 500 ปิดที่ 2846.5 เพิ่มขึ้น 5.9 (0.21%)
  • Nasdaq ปิดที่ 7766.62 ลดลง -7.32 (-0.09%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 54.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.64 (-1.16%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 58.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -1.23 (-2.07%)
  • ราคาทองคำ Gold ปิดที่ 1535.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.30 (0.47%)

 

 

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X