– ซาอุดีอาระเบียประกาศเดินหน้าเก็บ VAT เพิ่ม 3 เท่า จากเดิมที่อัตรา 5% สู่ระดับ 15% ในเดือนกรกฎาคม รวมถึงลดงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐลงมาที่ 26.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10% จากเป้าหมายการใช้จ่ายในปี 2020 ที่มีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากราคานํ้ามันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของประเทศ ได้ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
– สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ว่า เขารู้สึกไม่เป็นกังวลกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 3 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงที่ผ่านมา เพราะอัตราดอกเบี้ย ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ตํ่า และที่ผ่านมาได้อาศัยประโยชน์จากการกู้ยืมในระยะยาว เพื่อทำให้แน่ใจว่างบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ จะคงอยู่อย่างยาวนาน โดยที่ไม่ถูกกดดันจากการกู้ยืมในระยะสั้น
– วานนี้ S&P Global บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ออกแถลงการณ์ถึงอันดับความน่าเชื่อถือในอนาคตว่า รัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น สืบเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มต้นทุนทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ S&P ได้ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือไปแล้ว 90 ประเทศ และปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหรือแนวโน้มความน่าเชื่อถือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว
– ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาชิคาโก ให้สัมภาษณ์ว่า Fed มีแนวโน้มจะตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียง 0% ต่อไป เพื่อสร้างสภาวะที่เกื้อหนุนต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม Fed จะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ
– บริษัท Chesapeake Energy Corp ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทกำลังพิจารณายื่นเรื่องต่อศาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการล้มละลายจากภาวะหนี้สูง หลังจากราคาน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทระบุว่า จะไม่สามารถชำระหนี้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
ภาวะตลาดเมื่อวานนี้
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัวโดยมีแรงกดดันจากการเปิดเศรษฐกิจที่ไวเกินไปโดยที่ยังไม่มียารักษา ซึ่งอาจทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยได้ อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มสุขภาพและเทคโนโลยีพอพยุงตลาดไว้ได้บ้าง เช่น หุ้น Apple พุ่ง 1.57% และหุ้น Gilead Sciences พุ่ง 4.27% เป็นต้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจำนวนผู้ติดโควิด-19 ในเยอรมนีเพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา
– สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังยอดผู้ติดโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศเพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งสร้างความวิตกว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 และส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ซึ่งทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
สหรัฐฯ
– Dow 30 อยู่ที่ 24221.99 ลดลง -109.33 (-0.45%)
– S&P 500 อยู่ที่ 2930.19 เพิ่มขึ้น 0.39 (0.01%)
– Nasdaq อยู่ที่ 9192.34 เพิ่มขึ้น 71.02 (0.78%)
ยุโรป
– DAX อยู่ที่ 10824.99 ลดลง -79.49 (-0.73%)
– FTSE 100 อยู่ที่ 5939.73 เพิ่มขึ้น 3.75 (0.06%)
– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2883.75 ลดลง -24.36 (-0.84%)
– FTSE MIB อยู่ที่ 17381.36 ลดลง -57.94 (-0.33%)
เอเชีย
– Nikkei 225 อยู่ที่ 20390.66 เพิ่มขึ้น 211.57 (1.05%)
– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5461.2 เพิ่มขึ้น 70.1 (1.3%)
– Shanghai อยู่ที่ 2894.8 ลดลง -0.54 (-0.02%)
– SZSE Component อยู่ที่ 10969.28 ลดลง -32.3 (-0.29%)
– China A50 อยู่ที่ 13532.25 เพิ่มขึ้น 5.97 (0.04%)
– Hang Seng อยู่ที่ 24602.06 เพิ่มขึ้น 371.89 (1.53%)
– Taiwan Weighted อยู่ที่ 11013.26 เพิ่มขึ้น 111.84 (1.03%)
– SET อยู่ที่ 1287.3 เพิ่มขึ้น 21.28 (1.68%)
– KOSPI อยู่ที่ 1935.4 ลดลง -10.42 (-0.54%)
– IDX Composite อยู่ที่ 4630.07 ลดลง -9.04 (-0.19%)
– BSE Sensex อยู่ที่ 31561.22 ลดลง -81.48 (-0.26%)
– PSEi Composite อยู่ที่ 5667.93 เพิ่มขึ้น 45.99 (0.82%)
Commodity
– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 24.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 (-1.32%)
– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 30.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.82 (-2.65%)
– ราคาทองคำอยู่ที่ 1697.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -5.3 (-0.31%)
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters