- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งเป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำเดือนสิงหาคม โดยคาดว่าจะขยายตัว 0.2%MoM ขยายตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.6%MoM แต่ยังคงสามารถอยู่ในแดนขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา
- วานนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ซึ่งเป็นระดับทื่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ อันประกอบไปด้วย อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0%, ดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ECB ยังมีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมิถุนายน 2021 หรือจนกว่า ECB เห็นว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไป พร้อมกันนี้ ECB ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปนั้นจะหดตัว 8.0% ในปี 2020 หดตัวน้อยลงกว่าการคาดการณ์ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่หดตัว 8.7% ด้านอัตราเงินเฟ้อยังคงคาดการณ์ว่าอยู่ในระดับ 0.3% ในปี 2020 และ 1.0% ในปี 2021 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายต่อเนื่อง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ออกมาที่ 8.84 แสนราย ขยายตัวเพิ่มขึ้นและมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 8.46 แสนราย แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 8.84 แสนราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่องขยายตัวขึ้น 1.31 แสนราย เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ โดยที่การฟื้นตัวของตลาดแรงงานคิดเป็นการฟื้นตัวเพียง 54.8% ของภาวะก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เท่านั้น และนำมาโดยการจ้างงานแบบพาร์ตไทม์ที่ 68.1% สะท้อนภาวะตลาดแรงงานในภาพรวมที่ยังไม่มั่นคงในสหรัฐฯ
- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่าได้เพิกถอนวีซ่าของนักศึกษาและนักวิจัยจีนไปแล้วมากกว่า 1,000 คน ตามการประกาศของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ลงนามในช่วงวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง โดยระบุว่านักศึกษาจีนเหล่านี้เข้ามาในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายขโมยทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับจีนทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร โดยเป้าหมายการเพิกถอนวีซ่าครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่นักเรียนชาวจีนที่เคยศึกษาในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดแอกประชาชนจีน อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่านักศึกษาและนักวิจัยชาวจีนกว่า 1,000 คนที่ถูกเพิกถอนวีซ่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยของพลเมืองจีนมากกว่า 3.6 แสนคนที่ศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ด้านจีนแถลงการณ์ตอบโต้ว่าการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการข่มเหงทางการเมืองและเลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติและสีผิว
- ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมออนไลน์กับรัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน เรียกร้องให้อาเซียนทบทวนความสัมพันธ์กับจีนและลดความสัมพันธ์กับจีนลง เพื่อสร้างแรงกดดันต่อจีนในกรณีพิพาทเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เรื้อรังอย่างยาวนานและปะทุขึ้นอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดอีกครั้ง
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงหลังนักลงทุนกังวลความล่าช้าในการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปมาหลายสัปดาห์แล้ว รวมไปถึงตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ด้วย สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเช่นกัน หลังนักลงทุนผิดหวังกับการประชุม ECB ที่ไม่มีมาตรการอะไรใหม่ๆ ออกมา โดยทาง ECB ระบุว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอแล้ว ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงจากความกังวลที่มาตรการที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 2.032 ล้านบาร์เรล สวนทางกันกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงที่ 0.391 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากปัจจัยดังกล่าว
ภาวะตลาดวานนี้
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 27,534.58 ลดลง 405.89 (-1.45%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3,339.19 ลดลง 59.77 (-1.76%)
- Nasdaq อยู่ที่ 10,919.59 ลดลง 221.97 (-1.99%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 13,202.42 ลดลง 34.79 (-0.26%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6,003.32 ลดลง 9.52 (-0.16%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,312.77 ลดลง 12.06 (-0.36%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19,820.22 เพิ่มขึ้น 48.9 (+0.25%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 23,235.47 เพิ่มขึ้น 202.93 (+0.88%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5,908.5 เพิ่มขึ้น 29.9 (+0.51%)
- Shanghai อยู่ที่ 3,234.82 ลดลง 19.8 (-0.61%)
- SZSE Component อยู่ที่ 12,742.85 ลดลง 118.9 (-0.92%)
- China A50 อยู่ที่ 15,269.12 เพิ่มขึ้น 80.64 (+0.53%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24,313.54 ลดลง 155.39 (-0.64%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,691.75 เพิ่มขึ้น 83.17 (+0.66%)
- SET อยู่ที่ 1,290.09 ลดลง 3.31 (-0.26%)
- KOSPI อยู่ที่ 2,396.48 เพิ่มขึ้น 20.67 (+0.87%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4,891.46 ลดลง 257.92 (-5.01%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 38,840.32 เพิ่มขึ้น 646.4 (+1.69%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5,902.39 ลดลง 30.45 (-0.51%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 37.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.45 (-1.19%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 39.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.92 (-2.26%)
- ราคาทองคำอยู่ที่ 1,944.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 3.43 (-0.18%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters