– จับตาตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขสำคัญด้านตลาดแรงงาน ประกอบไปด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 3 ล้านตำแหน่ง ฟื้นตัวจากช่วงก่อนหน้าที่โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งมีการปลดคนงานกว่า 23 ล้านตำแหน่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 13 สู่ระดับ 1.35 ล้านคน สืบเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ทำให้ตลาดแรงงานกลับมาฟื้นตัว และเริ่มขยายการจ้างงาน เพื่อรองรับการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานประจำเดือนมิถุนายนที่มีกำหนดจะประกาศวันนี้เช่นเดียวกัน อาจลดลงมาเหลือ 12.3% จาก 13.3% ในเดือนก่อนหน้า
– ไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯ เผยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ ซึ่งร่วมพัฒนากับ BioNtec มีผลการทดลองที่น่าพอใจ จากการทดลองโดยให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีและไม่ติดโควิด-19 45 คน แบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ประกอบไปด้วย กลุ่ม 24 คนได้รับวัคซีนทดสอบในโดสที่ต่างกัน 2 โดส, กลุ่ม 12 คนได้รับวัคซีนโดสที่สูงมากแต่แค่โดสเดียว, กลุ่ม 9 คนได้รับยาหลอก (Dummy Injection) พบว่า กลุ่ม 24 คนซึ่งได้รับวัคซีนต่างกัน 2 โดส เป็นเวลา 28 วัน จะทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยที่มีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยหากได้รับยาในปริมาณที่มากไป โดยทางบริษัทคาดหวังว่าจะผลิตวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดสภายในปีนี้ และขยายเป็น 1,200 ล้านโดสภายในปี 2021
– วานนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมายให้อำนาจการลงโทษธนาคารที่ทำธุรกรรมกับเจ้าหน้าที่จีนที่สนับสนุนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง หลังจากที่ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านวุฒิสภาในสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ เหนือกรณีฮ่องกงกลับมาปะทุอีกครั้ง
– สหรัฐฯ จีน และเยอรมนี ประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing PMI) จากสถาบัน ISM, ไฉซิน และ Markit ตามลำดับ ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ทั้ง 3 ประเทศ โดยในส่วนของสหรัฐฯ และจีนนั้นอยู่ในแดนขยายตัวที่ 52.6 และ 51.2 จุด ตามลำดับ ขณะที่เยอรมนียังอยู่ในแดนหดตัวที่ 45.2 จุด ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทั้ง 3 ประเทศ สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจและกิจกรรมด้านการผลิตในภาคอุตสาหกรรมว่าจะกลับมามีแนวโน้มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง
– ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เผยแพร่รายงานการประชุมที่จัดขึ้นในช่วงวันที่ 9-10 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า กรรมการ Fed ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าจะต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนมากขึ้นให้กับตลาดการเงิน เกี่ยวกับแนวทางการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อให้ตลาดรับทราบข้อมูลมากขึ้นว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ Fed จำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% หรือต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมทั้งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มองว่ามีโอกาสสูงที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ส่งผลให้ Fed จะยังใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว และบรรลุเป้าหมายของ Fed ในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของราคา อย่างไรก็ตาม กรรมการ Fed บางคนเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นเวลานานนั้นอาจสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพด้านการเงินต่อไป
ภาวะตลาดวานนี้
– ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากรายงานการประชุมของ Fed ยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติมที่ชัดเจน เว้นแต่การเน้นไปยังการสื่อสารกับตลาดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนี Nasdaq สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง หลังจากไฟเซอร์ประกาศผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ที่น่าพอใจ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในแถบเอเชียที่ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกัน จากความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2 สวนทางตลาดหุ้นจีนขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นแรงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือบริษัทขนาดเล็ก และการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ออกมาดีกว่าคาด
สหรัฐฯ
– Dow Jones อยู่ที่ 25734.97 ลดลง -77.91 (-0.3%)
– S&P 500 อยู่ที่ 3115.86 เพิ่มขึ้น 15.57 (0.5%)
– Nasdaq อยู่ที่ 10154.63 เพิ่มขึ้น 95.86 (0.95%)
ยุโรป
– DAX อยู่ที่ 12260.57 ลดลง -50.36 (-0.41%)
– FTSE 100 อยู่ที่ 6157.96 ลดลง -11.78 (-0.19%)
– Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3228.45 ลดลง -5.62 (-0.17%)
– FTSE MIB อยู่ที่ 19330.88 ลดลง -44.64 (-0.23%)
เอเชีย
– Nikkei 225 อยู่ที่ 22121.73 ลดลง -166.41 (-0.75%)
– S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5934.4 เพิ่มขึ้น 36.5 (0.62%)
– Shanghai อยู่ที่ 3025.25 ลดลง -0.73 (-0.02%)
– SZSE Component อยู่ที่ 12112.96 เพิ่มขึ้น 120.62 (1.01%)
– China A50 อยู่ที่ 14325.29 เพิ่มขึ้น 363.42 (2.6%)
– Hang Seng อยู่ที่ 24427.19 เพิ่มขึ้น 125.91 (0.52%)
– Taiwan Weighted อยู่ที่ 11703.42 เพิ่มขึ้น 82.18 (0.71%)
– SET อยู่ที่ 1349.44 เพิ่มขึ้น 10.41 (0.78%)
– KOSPI อยู่ที่ 2106.7 ลดลง -1.63 (-0.008%)
– IDX Composite อยู่ที่ 4914.39 เพิ่มขึ้น 9 (0.18%)
– BSE Sensex อยู่ที่ 35414.45 เพิ่มขึ้น 498.65 (1.43%)
– PSEi Composite อยู่ที่ 6209.71 เพิ่มขึ้น 1.99 (0.03%)
Commodity
– ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.24 (0.61%)
– ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 42.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.96 (2.33%)
– ราคาทองคำ อยู่ที่ 1768.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -13.29 (-0.75%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters