- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมทั้งระบุว่า Fed จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว และจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมด เช่น การผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา ซึ่งเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุด รวมไปถึงการเสริมสภาพคล่องผ่านตลาด Repo เพื่อให้เกิดการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงินการลงทุนเอาไว้จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว และเงินเฟ้อกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% อีกครั้ง
- บริษัท Gilead Sciences รายงานความคืบหน้าการพัฒนายารักษาไวรัสโคโรนา โดยหลังจากทดลองใช้ในผู้ป่วยพบว่า 50% ของผู้ป่วยทั้งหมดที่ได้รับยาต่อเนื่อง 5 วันมีอาการดีขึ้น โดยมากกว่าครึ่งสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 2 สัปดาห์
- สหรัฐฯ อาจนำเข้าน้ำมันอีกครั้ง หลัง 6 บริษัท Shale Oil อาจลดกำลังการผลิตจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า 6 ผู้ผลิตนํ้ามัน Shale Oil รายใหญ่ในสหรัฐฯ อาจลดกำลังการผลิตนํ้ามันเพิ่มอีก 300,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 900,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้ หลังจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมาปริมาณการผลิตต่อวันสูงสุดที่ 13.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ราคานํ้ามันจะลดลงอย่างมากจากอุปสงค์ที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง จะส่งผลให้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก กลับกลายมาเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอีกครั้ง
.
- สหรัฐฯ ประกาศ GDP Q1/2020 ออกมาที่ -4.8% แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ -3.5% สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ Q1/2014 ที่ระดับ -1.1% และเป็นการหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตซับไพรม์ เนื่องจากโควิด-19 กดดันการค้าระหว่างประเทศทั่วโลก รวมไปถึงการบริโภคภายในประเทศที่ชะงักจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้การบริโภค การนำเข้า-ส่งออก และสั่งซื้อสินค้าคงคลังหดตัวประมาณ 7-15% ในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ช่วยลดผลกระทบดังกล่าวได้บางส่วน ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว แม้จะยังไม่มีการประกาศ GDP ในไตรมาสถัดไปก็ตาม โดยมีมุมมองเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากไวรัสโคโรนาในไตรมาสที่ 1 เกี่ยวเนื่องเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นผลกระทบที่เหลืออาจรุนแรงกว่าคาด
- Microsoft รายงานผลประกอบการ Q1/2020 มีรายได้ 35,020 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15% (YoY) มากกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 33,660 ล้านดอลลาร์ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับกำไรที่ประกาศออกมาที่ 10,800 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวกว่า 22% (YoY) ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นที่ประกาศออกมาที่ 1.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยมีรายได้ในส่วนของ Cloud ที่ขยายตัว 27.2% (YoY) ขณะที่ Facebook รายงานรายได้ออกมาที่ 17,740 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 17,410 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อยที่ 1.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม หุ้น Facebook ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ จากการที่รายได้จากโฆษณานั้นมีเสถียรภาพมากขึ้น ไม่กระทบรุนแรง
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- จากความคืบหน้าของการผลิตยารักษาโควิด-19 ของบริษัท Gilead Sciences ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นฟูในเร็วๆ นี้
- สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ออกมาน้อยกว่าคาด แสดงถึงปริมาณน้ำมันในตลาดเริ่มลดลง คลายความกังวลที่ปริมาณน้ำมันจะล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นฟูในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา
สหรัฐฯ
- Dow 30 อยู่ที่ 24633.86 เพิ่มขึ้น 532.31 (2.21%)
- S&P 500 อยู่ที่ 2939.51 เพิ่มขึ้น 76.12 (2.66%)
- Nasdaq อยู่ที่ 8914.71 เพิ่มขึ้น 306.98 (3.57%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 11107.74 เพิ่มขึ้น 312.11 (2.89%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6115.25 เพิ่มขึ้น 156.75 (2.63%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2996.08 เพิ่มขึ้น 64.02 (2.18%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 18067.29 เพิ่มขึ้น 390.14 (2.21%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 19771.19 ลดลง -12.03 (-0.06%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5393.4 เพิ่มขึ้น 80.3 (1.51%)
- Shanghai อยู่ที่ 2822.44 เพิ่มขึ้น 12.42 (0.44%)
- SZSE Component อยู่ที่ 10514.17 เพิ่มขึ้น 13.03 (0.12%)
- China A50 อยู่ที่ 13387.85 เพิ่มขึ้น 100.68 (0.76%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24643.59 เพิ่มขึ้น 67.63 (0.28%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 10772.22 เพิ่มขึ้น 156.16 (1.47%)
- SET อยู่ที่ 1282.68 เพิ่มขึ้น 7.69 (0.6%)
- KOSPI อยู่ที่ 1947.56 เพิ่มขึ้น 13.47 (0.7%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4567.32 เพิ่มขึ้น 37.77 (0.83%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 32720.16 เพิ่มขึ้น 605.64 (1.89%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5643.97 ลดลง 0 (0%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.66 (29.66%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 24.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.95 (19.31%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1714.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.48 (0.32%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters