- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้ธนาคารกลางรัสเซียมีกำหนดการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.0% สู่ระดับ 4.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กดดันเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในปริมาณที่สูงอย่างรัสเซีย ซึ่งราคาตกต่ำจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
- กรมศุลกากรจีนแถลงข่าวเช้าวันนี้ ระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากบริษัท Toennies Group ของเยอรมนี หลังจากบริษัทตรวจพบว่าคนงานในโรงงานบรรจุเนื้ออย่างน้อย 657 คนติดโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการปนเปื้อนในเนื้อสัตว์
- ศาลฎีกาสหรัฐฯ ลงมติ 5 ต่อ 4 เสียงชี้ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามยกเลิกโครงการ Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) ที่ออกในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความคุ้มครองการเนรเทศผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายตั้งแต่เป็นเยาวชนที่เข้าหลักเกณฑ์ประมาณ 700,000 รายนั้น เป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุผล กระทำตามอำเภอใจ และขาดการพิจารณาอย่างเพียงพอ
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกออกมาที่ระดับ 1.508 ล้านราย ลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 1.566 ล้านราย เป็นการลดลง 13 สัปดาห์ต่อเนื่อง แต่ยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.3 ล้านราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง 62,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้าสู่ระดับ 20.5 ล้านราย รับแนวโน้มการเปิดเมืองในอนาคต
- เมื่อวานนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.10% พร้อมเพิ่มปริมาณการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) 100,000 ล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้สินทรัพย์ภายใต้การถือครองสะสมของ BOE โดยรวมอยู่ที่ 745,000 ล้านปอนด์ จากแนวโน้มการหดตัวทางเศรษฐกิจ แม้ส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีกว่าคาดก็ตาม พร้อมประเมินว่าการเข้าซื้อสินทรัพย์จำนวน 745,000 ล้านปอนด์จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ในช่วงสิ้นปี 2020 และประเมินว่าเสถียรภาพของสภาพคล่องอยู่ในระดับที่ดีแล้ว จึงจะปรับลดความเร็วในการเข้าซื้อสินทรัพย์ลง แต่หากสภาพคล่องเริ่มส่งสัญญาณมีปัญหาอีกครั้ง ก็พร้อมที่จะกลับมาเร่งการซื้อสินทรัพย์ต่อไป
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ของ โควิด-19 ในจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปิดเมืองเป็นวงกว้างและสร้างแรงกดดันเศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้เกิดแรงเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและตราสารหนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นระหว่างวัน
- ก่อนที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวลงตามในช่วงกลางคืนจากความกังวลดังกล่าว แม้ว่าผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติด้านภูมิแพ้และโรคระบาดของสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าอาจไม่จำเป็นต้องปิดเมือง แม้จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 2 ก็ตาม นอกจากนี้แรงกดดันในตลาดยังมาจากความผิดหวังต่อตัวเลขการจ้างงานที่แม้จะลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 13 แต่ก็สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 26080.1 ลดลง -39.51 (-0.15%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3115.34 เพิ่มขึ้น 1.85 (0.06%)
- Nasdaq อยู่ที่ 9943.05 เพิ่มขึ้น 32.52 (0.33%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12281.53 ลดลง -100.61 (-0.81%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6224.07 ลดลง -29.18 (-0.47%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3249.9 ลดลง -17.36 (-0.53%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19485.76 ลดลง -100.13 (-0.51%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 22355.46 ลดลง -100.3 (-0.45%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5936.5 ลดลง -55.3 (-0.92%)
- Shanghai อยู่ที่ 2939.32 เพิ่มขึ้น 3.44 (0.12%)
- SZSE Component อยู่ที่ 11494.55 เพิ่มขึ้น 73.72 (0.65%)
- China A50 อยู่ที่ 13731.43 เพิ่มขึ้น 79.89 (0.59%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24464.94 ลดลง -16.47 (-0.07%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 11548.33 เพิ่มขึ้น 13.74 (0.12%)
- SET อยู่ที่ 1372.98 ลดลง -3.2 (-0.23%)
- KOSPI อยู่ที่ 2133.48 ลดลง -7.57 (-0.35%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4925.25 ลดลง -62.53 (-1.25%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 34208.05 เพิ่มขึ้น 700.13 (2.09%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 6348.45 เพิ่มขึ้น 66.44 (1.06%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.77 (4.72%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 41.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.83 (2.05%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1723.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -4.07 (-0.24%)
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters