×

ทรัมป์เลื่อนเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ, พาวเวลล์ชี้ Fed ยังหนุนเศรษฐกิจได้อีก เรียกร้องสภาคองเกรสรีบผ่านมาตรการคลัง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (7 ต.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
07.10.2020
  • LOADING...
  • จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้เยอรมนีมีกำหนดประกาศดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 1.5%MoM ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.2%MoM จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

 

  • วานนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แถลงแสดงความคิดเห็นว่าการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไปนั้นมีผลเสียน้อยกว่าการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบตึงตัวเกินไป เพราะหากสภาพการเงินตึงตัวมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดการตึงตัวของสภาพคล่องในระดับครัวเรือนและการล้มละลายของบริษัท ซึ่งจะสร้างผลเสียต่อความสามารถในการผลิต กดดันค่าแรง และทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ ในทางตรงกันข้าม หากผ่อนคลายมาตรการทางการเงินมากเกินไปจะส่งผลร้ายเพียงทำให้มาตรการเหล่านั้นสูญเปล่าเท่านั้น พร้อมกันนี้พาวเวลล์ยังเรียกร้องให้รัฐสภาผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งระบบ เนื่องจากนโยบายการเงินสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าการใช้จ่ายจากรัฐบาลในภาวะปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Fed ยังมีช่องว่างดำเนินนโยบายการเงินได้อีก

 

  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความระบุว่าเขาได้สั่งยุติการเจรจาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองพรรคเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่การเจรจายืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน และมีการให้ข่าวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาระบุว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว โดยทรัมป์ระบุว่ารัฐบาลท้องถิ่นฝั่งพรรคเดโมแครตบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมมาก ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาโควิด-19 แต่อย่างใด เขาจึงปฏิเสธการเจรจาดังกล่าว และจะกลับมาพิจารณาอีกครั้งทันทีที่ชนะการเลือกตั้ง ท่าทีดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อสถานการณ์การลงทุนและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในคืนที่ผ่านมา

 

  • คริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกแถลงการณ์ระบุว่าแม้เศรษฐกิจทั่วโลกจะยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่อยู่ในแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังแตะระดับต่ำสุดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายระลอก และความพยายามในการคิดค้นวัคซีนจำนวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มหดตัวน้อยลง

 

  • โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ให้สัมภาษณ์ว่าหากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีเชื้อโควิด-19 อยู่ ก็ควรที่จะเลื่อนหรือยกเลิกการดีเบตที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคมนี้เพื่อความปลอดภัย เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก ด้าน ทิม เมอร์ทอช โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ ระบุว่าทรัมป์จะแข็งแรงดีเมื่อถึงเวลานั้น และพร้อมที่จะเข้าร่วมดีเบตอย่างแน่นอน

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง หลังทรัมป์ประกาศชัดเจนให้เลื่อนการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจออกไปจนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ รวมทั้งปัจจัยกดดันจากตัวเลขตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐฯ ที่ออกมาน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจอาจไม่ฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ สวนทางกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาแข็งแกร่ง รวมทั้งความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลง Brexit ที่ใกล้จะบรรลุผลแล้ว 

 

  • สัญญาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดความกังวลที่อาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูประเด็นมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ข้อสรุป รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 27,772.76 ลดลง 375.88 (-1.34%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3,360.95 ลดลง 47.68 (-1.4%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 11,154.6 ลดลง 177.88 (-1.57%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12,906.02 เพิ่มขึ้น 77.71 (+0.61%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 5,949.94 เพิ่มขึ้น 7 (+0.12%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3,233.3 เพิ่มขึ้น 13.08 (+0.41%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19,429.81 เพิ่มขึ้น 164.3 (+0.85%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 23,433.73 เพิ่มขึ้น 121.59 (+0.52%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5,962.1 เพิ่มขึ้น 20.5 (+0.35%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3,218.05 ลดลง 6.31 (-0.2%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 12,907.45 ลดลง 0 (0%)
  • China A50 อยู่ที่ 15,209.27 เพิ่มขึ้น 19.39 (+0.13%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 23,980.65 เพิ่มขึ้น 212.87 (+0.9%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12,704.23 เพิ่มขึ้น 155.95 (+1.24%)
  • SET อยู่ที่ 1,250.15 เพิ่มขึ้น 7.16 (+0.58%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2,365.9 เพิ่มขึ้น 7.9 (+0.34%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 4,999.22 เพิ่มขึ้น 40.45 (+0.82%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 39,574.57 เพิ่มขึ้น 600.87 (+1.54%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 5,910.64 ลดลง 28.31 (-0.48%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 39.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.17 (+5.86%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 41.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.23 (+5.68%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1,880.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.17 (+0.75%)

 

finnomena

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising