- รัสเซียเผยใกล้บรรลุดีลสงครามน้ำมันกับซาอุดีอาระเบีย โดยวานนี้ คิริล ดมิเทรียฟ ผู้บริหารกองทุนการลงทุนโดยตรงรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ว่า สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย มีการเจรจาที่คืบหน้าไปมาก โดย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้เสนอให้มีการลดกำลังการผลิตรวมกันที่ราว 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่ตลาดและทุกฝ่ายต่างเข้าใจดีว่า ข้อตกลงระหว่างกันนั้นเป็นเรื่องจำเป็นในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด อย่างไรก็ตามการเจรจาดังกล่าวยังคงต้องจับตาต่อไป หลังยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) มีแผนให้เงินกู้ยืมกว่า 1 แสนล้านยูโร เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการจ้างงานของบริษัทต่างๆในอิตาลี สเปน และกลุ่มประเทศสมาชิกอีกหลายประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้ชื่อโครงการ ‘Sure Project’ หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปถูกวิจารณ์ว่ามีความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล่าช้า และน้อยเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
- Samsung คาดการณ์กำไร Q1/2020 ขยายตัวดี แม้โควิด-19 ระบาด โดยเป็นผลกำไรจากการดำเนินการ (Operating Profit) ที่ระดับ 6.4 ล้านล้านวอน (5.2 พันล้านดอลลาร์) ขยายตัว 3.2% (YoY) แม้โควิด-19 จะสร้างแรงกดดันต่อการบริโภคทั่วโลกก็ตาม
- บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อสัปดาห์ก่อน มีอาการทรุดลงและต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู โดยล่าสุดจอห์นสันได้เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันจันทร์ว่า “สภาพจิตใจตนยังพร้อมอยู่ และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเพื่อช่วยประชาชนทุกคนจากการแพร่ระบาดของไวรัส”
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยเตรียมเข้าอุ้มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) หลังเผชิญปัญหาเงินทุนไหลออก และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติได้ถอนเงินทุนออกจากตลาดเกิดใหม่รวม 92,500 ล้านดอลลาร์ เทียบกับตอนวิกฤตปี 2008 ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ โดยอาจส่งผลให้ค่าเงินในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลง บวกกับภาระหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศที่ราวๆ 13% ของหนี้สินทั้งหมด จึงอาจทำให้หนี้ต่างประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
ภาวะตลาดวานนี้
- จากจำนวนผู้ติดโควิด-19 ทางฝั่งตะวันตกเริ่มลดลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมไปถึงตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากความคาดหวังว่าการแพร่ระบาดจะเริ่มลดลง และสามารถควบควมคุมสถานการณ์ได้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง
- ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงแรงกว่า 8% จากความยืดเยื้อของการประชุมของกลุ่ม OPEC และรัสเซีย ที่ยังไม่ได้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตจนต้องเลื่อนประชุมออกไป ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น และสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนของผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
สหรัฐฯ
- Dow 30 อยู่ที่ 22679.99 เพิ่มขึ้น 1627.46 (7.73%)
- S&P 500 อยู่ที่ 2663.68 เพิ่มขึ้น 175.03 (7.03%)
- Nasdaq อยู่ที่ 7913.24 เพิ่มขึ้น 540.15 (7.33%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 10072.5 เพิ่มขึ้น 546.73 (5.74%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5542.1 เพิ่มขึ้น 126.6 (2.34%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2795.97 เพิ่มขึ้น 132.98 (4.99%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 16891.65 เพิ่มขึ้น 507.3 (3.1%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 18576.3 เพิ่มขึ้น 756.11 (4.24%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5286.8 เพิ่มขึ้น 219.3 (4.33%)
- Shanghai อยู่ที่ 2763.99 ลดลง -16.65 (-0.6%)
- SZSE Component อยู่ที่ 10110.11 ลดลง -69.09 (-0.68%)
- China A50 อยู่ที่ 12698.12 ลดลง -66.53 (-0.52%)
- Hang Seng อยู่ที่ 23749.12 เพิ่มขึ้น 513.01 (2.21%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 9818.74 เพิ่มขึ้น 155.11 (1.61%)
- SET **ปิดทำการ**
- KOSPI อยู่ที่ 1791.88 เพิ่มขึ้น 66.44 (3.85%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4811.83 เพิ่มขึ้น 188.4 (4.07%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 27590.95 ลดลง -674.36 (-2.39%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5570.81 เพิ่มขึ้น 223.84 (4.19%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 26.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 53.35 (3.32%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 33.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.78 (-2.29%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 1662.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 53.35 (3.32%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters