- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 1.415 ล้านตำแหน่ง ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.434 ล้านตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง ขณะที่อังกฤษมีกำหนดการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารอังกฤษ (BoE) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.10% ต่อไป แต่นักลงทุนยังคงจับตาดูท่าทีในการแถลงการณ์ เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อไปในอนาคต
- วานนี้สถาบัน ISM ของสหรัฐฯ ประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing PMI) ประจำเดือนกรกฎาคม ออกมาที่ 58.1 จุด สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 55.0 จุด จากครั้งก่อนหน้าที่ 57.1 จุด สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายรัฐใหญ่ๆ ที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาดในครั้งนี้ มาจากพัฒนาการของวัคซีน และยารักษาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงอัตราการตายที่ลดลง ส่งผลให้โอกาสปิดเมืองอยู่ในระดับที่ต่ำ ขณะที่การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคม ประกาศออกมาที่ระดับ 167,000 ตำแหน่งเท่านั้น ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.5 ล้านตำแหน่ง หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.314 ล้านตำแหน่ง โดยเป็นการจ้างงานในภาคการบริการเป็นหลักที่ขยายตัวถึง 166,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการจ้างงานขยายตัวเพียง 1,000 ตำแหน่งเท่านั้น
- วานนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 7-0 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น หลังคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกันกับภาวะเงินบาทแข็งค่า ที่สร้างแรงกดดันต่อภาคการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพคล่องที่ล้นระบบทั่วโลก ซึ่ง กนง. จะติดตามและดูแลเสถียรภาพของเงินบาทอย่างใกล้ชิดต่อไป พร้อมแสดงความเห็นต่อการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ว่า สถาบันการเงินควรเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจให้เหมาะกับรายได้และความสามารถในการชำระปัจจุบัน และย้ำว่าภาครัฐฯ จะเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องช่วยกระตุ้นการจ้างงานเพื่อให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
- วานนี้สำนักงานข่าว CNBC รายงานว่า โรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และ หลิวเฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน มีแผนว่าจะกลับมาเจรจากรณีสงครามการค้าในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ โดยวาระจะประกอบไปด้วยการทบทวนและประเมินความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทางการจีนนั้นยังคงมีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่ได้ตกลงกันเอาไว้ โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงมกราคม รวมไปถึงการเกิดกรณีกระชับอำนาจบนฮ่องกงของจีน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนย่ำแย่ลงในช่วงที่ผ่านมา
- บริษัท Johnson & Johnson (J&J) ออกแถลงการณ์ว่า J&J นั้นสามารถบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ได้เป็นที่เรียบร้อย โดย J&J จะเดินหน้าทดลองวัคซีน ซึ่งมีกำหนดการทดลองครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ เพื่อผลิตให้รัฐบาลสหรัฐฯ กว่า 100 ล้านโดส พร้อมทั้งระบุว่า J&J ตั้งเป้าที่จะผลิตวัคซีนให้ได้มากกว่า 1,000 ล้านโดสในปี 2021
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นทั่วโลกยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำโดยสหรัฐฯ และยุโรป จากพัฒนาการด้านวัคซีนที่คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งสะท้อนออกมาทางดัชนี PMI ที่ดีกว่าคาดในหลากหลายภูมิภาคในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ตัวเลขการจ้างงานจะออกมาต่ำกว่าคาดก็ตาม
- สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่ฟื้นตัว จากแนวโน้มความต้องการบริโภคที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนราคาทองคำได้ต่อเนื่อง
สหรัฐฯ
- Dow Jones อยู่ที่ 27201.52 เพิ่มขึ้น 373.05 (1.39%)
- S&P 500 อยู่ที่ 3327.77 เพิ่มขึ้น 21.26 (0.64%)
- Nasdaq อยู่ที่ 10998.4 เพิ่มขึ้น 57.23 (0.52%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 12660.25 เพิ่มขึ้น 59.38 (0.47%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 6104.72 เพิ่มขึ้น 68.72 (1.14%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3268.38 เพิ่มขึ้น 14.09 (0.43%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 19740.2 เพิ่มขึ้น 126.25 (0.64%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 22514.85 ลดลง -58.81 (-0.26%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 6001.3 ลดลง -36.3 (-0.6%)
- Shanghai อยู่ที่ 3377.56 เพิ่มขึ้น 5.88 (0.17%)
- SZSE Component อยู่ที่ 13960.93 เพิ่มขึ้น 100.47 (0.72%)
- China A50 อยู่ที่ 15374.96 ลดลง -119.63 (-0.77%)
- Hang Seng อยู่ที่ 25102.54 เพิ่มขึ้น 155.91 (0.62%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 12802.3 เพิ่มขึ้น 92.38 (0.73%)
- SET อยู่ที่ 1337.35 เพิ่มขึ้น 6.54 (0.49%)
- KOSPI อยู่ที่ 2311.86 เพิ่มขึ้น 31.89 (1.4%)
- IDX Composite อยู่ที่ 5127.05 เพิ่มขึ้น 52.05 (1.03%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 37663.33 ลดลง -24.58 (-0.07%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5833.58 เพิ่มขึ้น 58.08 (1.01%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 42.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.7 (1.69%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 45.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.01 (2.28%)
- ราคาทองคำ อยู่ที่ 2,036.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.24 (0.76%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters