เกิดกระแสข่าวฮือฮาในวงการฟุตบอลอีกครั้ง และเป็นข่าวที่ถูกจับตามองอย่างยิ่งเพราะมีผลกระทบต่อทั้งวงการโดยถ้วนหน้า เมื่อทางด้านสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติยุโรป (UEFA) เตรียมที่จะทำการยกเลิกกฎการเงิน Financial Fair Play ที่ใช้มาเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อจะปรับไปใช้กฎการเงินในรูปแบบใหม่แทน
โดยประเด็นใหญ่ที่ถูกจับตามองอย่างมากคือการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เป็นการทำเพื่อ ‘เอื้อประโยชน์’ แก่ทีมใหญ่ หรือหากให้พูดชัดกว่านั้นคือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ทีมมหาเศรษฐีที่จะสามารถใช้อำนาจทางการเงินที่ไร้ขีดจำกัดในการครองโลกฟุตบอลหรือไม่?
เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ โดยคนแรกที่มีการเปิดเผยเรื่องนี้คือ ทันเครดี พัลเมรี ผู้สื่อข่าวของ beIN SPORTS ซึ่งเคยทำงานให้กับ CNN และ Gazzetta dello Sport
ข้อความสั้นๆ ไม่ถึง 280 ตัวอักษรที่พัลเมรีทวีตสั่นสะเทือนไปทั้งวงการมีดังนี้
“ยูฟ่าเป่านกหวีดสุดท้ายให้แก่กฎ Financial Fair Play จะมีการประกาศกฎในการควบคุมการเงินใหม่ที่จะให้อิสระในการซื้อแก่สโมสรต่างๆ มากขึ้น”
สำหรับกฎการเงินเดิมอย่าง Financial Fair Play หรือ FFP เริ่มต้นบังคับใช้มาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 โดยมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันไม่ให้สโมสรต่างๆ เกิดการใช้จ่ายมากเกินไปจนทำให้สามารถ ‘ซื้อความสำเร็จและถ้วยรางวัล’ ได้ และเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาวของเกมฟุตบอล
กฎ FFP มีรายละเอียดที่ซับซ้อน แต่สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายที่สุดคือ ‘จะใช้เท่าไร ต้องหามาได้เท่านั้น’ คือห้ามเป็นหนี้จนเกินความสามารถที่จะชำระได้โดยรายรับของสโมสรเอง
อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา กฎ FFP ไม่สามารถควบคุมวงการฟุตบอลได้อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งแม้จะเคยสามารถ ‘ลงดาบ’ สโมสรอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ดาบประกาศิตนั้นไม่คมพอที่จะทำให้สโมสรที่มีแบ็กอัพทางการเงินแข็งแกร่งยำเกรง
ในทางตรงกันข้าม สโมสรทั้งหลายต่างพยายามมองหา ‘ช่องว่าง’ ของกฎเพื่อชิงความได้เปรียบเสมอ โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่ทำให้กฎ FFP และยูฟ่าถูกวิพากษ์อย่างมาก คือเรื่องการสั่งแบนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในความผิดข้อหาการปลอมแปลงเอกสารเรื่องรายได้ของสโมสร ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในเครือของเจ้าของสโมสรเอง เข้าทำนองกระเป๋าซ้าย-กระเป๋าขวา
ยูฟ่าลงโทษสโมสรดังของอังกฤษขั้นรุนแรงทั้งการตัดสิทธิ์จากการเล่นในรายการสโมสรยุโรปเป็นเวลา 2 ปีและการปรับเงิน แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นความผิดพลาดเมื่อทางด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยื่นอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) และเป็นฝ่ายชนะในการอุทธรณ์ แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตในคณะผู้ตัดสินคดีนี้ก็ตาม
เรื่องนี้ทำให้ FFP ถูกมองว่าเป็นกฎไร้น้ำยา เป็นกระบี่ทื่อที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป ซึ่งแม้แต่ในยูฟ่าเองก็มองว่าการใช้เกณฑ์ ‘ไม่ขาดทุน’ เป็นตัวชี้วัดว่าทำผิดหรือไม่ เป็นการพุ่งเป้าที่ไร้ความหมาย
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักสาเหตุเดียวที่ทำให้ยูฟ่าตัดสินใจที่จะทำการยกเลิกกฎนี้และตั้งกฎใหม่ที่มีความยืดหยุ่นขึ้นมา
สิ่งที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้คือผลกระทบจากโควิด-19 ที่รุนแรงมหาศาลในระดับที่ ‘โลกฟุตบอลไม่เคยพบเจอมาก่อน’
พัลเมรีในฐานะคนเปิดเผยเรื่องนี้เป็นคนแรกได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในที่มาที่ไปของเรื่องนี้ในรายการ White & Jordan Show ทางสถานีวิทยุกีฬาอันดับหนึ่งของโลก talkSPORT ว่า “มันเป็นความคิดที่ยูฟ่าคิดอย่างจริงจังมาสักพัก”
“สถานการณ์โควิด-19 ได้ผลักดันให้เรื่องนี้ก้าวไปข้างหน้า มันจะเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลายาวนาน ไม่ได้แปลว่าถ้าวันนี้กดตกลงแล้วในวันพรุ่งนี้ทุกสโมสรจะสามารถใช้เงินได้แบบไม่อั้น มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ยูฟ่าต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนมากขึ้น หาวิธีการควบคุมที่จะไม่จำกัดการอัดเงินเข้ามาในระบบ
“กฎ Financial Fair Play นั้นเป็นความคิดที่เกิดมาในยุคของ มิเชล พลาตินี แต่ว่าสถานการณ์ทางการเงินในเวลานี้แตกต่างจากเดิมแล้ว เราทุกคนรู้ว่าเกมฟุตบอลไม่เคยตกอยู่ในวิกฤตขนาดนี้ ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องไม่ฉลาดนักที่จะจำกัดการลงทุนสำหรับสโมสรที่สามารถจะลงทุนได้ เพราะการลงทุนนั้นจะหมายถึงสโมสรที่เป็นผู้ขายก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย”
บทสรุปสุดท้ายจากพัลเมรีในเรื่องนี้คือ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้หมายความว่า FFP จะสิ้นสุดทันทีและทุกคนจะสามารถใช้จ่ายเท่าไรก็ได้ มันแค่จะมีอิสระมากขึ้น แต่ก็จะเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลายาวนาน โดยที่สุดท้ายแล้วผลประโยชน์จะตกอยู่กับทุกคน
ขณะที่ทางด้าน ไซมอน จอร์แดน หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ และเคยเป็นอดีตเจ้าของสโมสรคริสตัล พาเลซ ย้ำให้ทุกคนเห็นภาพอีกครั้งว่า ที่ผ่านมากฎ FFP ไม่ได้ล้มเหลว และสโมสรต่างๆ ก็ไม่ควรที่จะพึ่งพาเรื่องการระดมทุนจากบุคคลได้
สำหรับจอร์แดน FFP มีไว้เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าเกมฟุตบอลจะคงอยู่อย่างยั่งยืน สโมสรฟุตบอลต้องยืนบนลำแข้งของตัวเองให้ได้ และที่ผ่านมาก็ได้เห็นแล้วว่าหากเจ้าของสโมสรใดที่ไม่สามารถบริหารได้ก็จะต้องไปจากวงการฟุตบอล เหมือน เอลลิส ชอร์ต ของซันเดอร์แลนด์ หรือ แรนดี เลอร์เนอร์ ที่กลายเป็นอดีตเจ้าของแอสตัน วิลลา
ขณะที่ทางด้านยูฟ่าโดย อันเดรีย ทราเวอร์โซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและความมั่นคงทางการเงิน กล่าวในระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างยูฟ่าและสหภาพยุโรป ยอมรับว่าการหาทางออกในเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สามารถตีความได้ว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่กฎใหม่คือการผ่อนปรนมากขึ้น
“โควิด-19 ได้ทำให้เกิดวิกฤตในการหารายได้ และส่งผลกระทบอย่างมากต่อสภาพคล่องของสโมสร มันเป็นวิกฤตที่แตกต่างจากทุกวิกฤตที่เราเคยเผชิญมาก่อน ในสถานการณ์แบบนี้ที่สโมสรต่างประสบปัญหาทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบากในการที่จะทำตามกฎของเราได้
“ผมคิดว่าโดยพื้นฐานกฎสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้ พวกเขาต้องปรับเปลี่ยนตามบริบทการบริหารของสโมสร กฎการทำให้ไม่ขาดทุนนั้นดูเหมือนมันจะกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว มันเป็นการประเมินตามสถานการณ์ในอดีต (ดูจากตัวเลขกำไรและตัวเลขการขาดทุนในช่วง 3 ฤดูกาลก่อนหน้า) แต่โรคระบาดนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง และการมองย้อนกลับไปในอดีตเป็นการกระทำที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด
“เช่นนั้นบางทีกฎควรจะมุ่งมาที่ปัจจุบันและอนาคตมากขึ้น และควรจะพุ่งเป้ามาที่การแข่งขันในระดับที่สูงของเรื่องค่าเหนื่อยและตลาดการซื้อขาย แต่การหาทางออกไม่ใช่เรื่องง่าย”
ดังนั้นโดยสรุปแล้วเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎการเงินขึ้นอย่างแน่นอน
โดยที่ยูฟ่ามีเป้าหมายในการที่จะทำให้สโมสรทุกแห่งสามารถปรับตัวและเอาตัวรอดในสถานการณ์ปัจจุบันให้ได้ เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาและกลบจุดอ่อนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
จากการดูตัวเลขบัญชี ทางออกที่มีการคาดกันไว้อาจจะเป็นการกำหนดเพดานค่าเหนื่อย (Salary Cap) รวมถึงค่าตัวในการย้ายทีมของผู้เล่นแทน
เรื่องนี้ต้องว่ากันอีกสักพักใหญ่กว่าจะได้เห็นกัน แต่อย่างน้อยที่สุดเสียงนกหวีดแรกจากยูฟ่าได้ดังขึ้นแล้ว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/football/2021/mar/25/football-financial-fair-play-rules-to-be-ripped-up-after-covid-crisis
- https://www.marca.com/en/football/champions-league/opinion/2021/03/15/604f9df4e2704e4c6e8b4572.html
- https://www.si.com/soccer/chelsea/news/financial-fair-play-set-to-be-scrapped-chelsea-to-be-given-more-freedom-in-150m-transfer-pursuit-of-erling-haaland
https://talksport.com/football/854528/uefa-financial-fair-play-rules-simon-jordan/ - https://twitter.com/tancredipalmeri/status/1374636735112560642?s=20