‘วรภัค ธันยาวงษ์’ รมช.คลัง นั่งประธานคณะทำงานจัดการปัญหาสแกมเมอร์ ด้านตรวจสอบเส้นทางการเงิน ‘วรภัค’ รับเคยให้คำปรึกษาด้วยวาจากับ ยิม เลียก (Yim Leak) เรื่องการตั้งธนาคารในกัมพูชาเท่านั้น พร้อมปัดเอี่ยวขบวนการสีเทา
วันนี้ (20 ตุลาคม) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่าทางฝั่งกระทรวงคลังได้จัดคณะทำงาน ซึ่งมี ‘วรภัค ธันยาวงษ์’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นั่งเป็นประธานคณะทำงานจัดการปัญหาสแกมเมอร์แล้ว เพื่อตรวจสอบในด้านช่องทางการเงิน โดยมี ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงพาณิชย์ นั่งอยู่ในคณะทำงานนี้ด้วย
ดร.เอกนิติอธิบายเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาสแกมเมอร์จะดำเนินเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ฝั่งระบุตัวตนสแกมเมอร์ และฝั่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าอาจมีการทับกันของเงินเทาหรือไม่
โดยฝั่งระบุตัวตนสแกมเมอร์ จะมี อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน โดยมีกรมการปกครองเป็นฝ่ายเลขานุการ
ส่วนกระทรวงการคลังจะประสานงานกับคณะกรรมการ Connect the Dot ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เพื่อนำข้อมูลหลายจุดจากแต่ละหน่วยงานมาเชื่อมโยงกัน ในการตรวจสอบการทับกันของเงินเทา
ท้ายสุดแล้ว ดร.เอกนิติระบุว่า จะมีการนำข้อมูลทางการเงินที่คลังดูแล และการระบุตัวตน ซึ่งมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ช่วยดูแล มาประกบกันอีกที
ตั้งเป้ารู้ผลภายในเดือน ธ.ค. 68
สำหรับกรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมการ Connect the Dot ดร.เอกนิติกล่าวว่า “ได้มีการคุยเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้เข้าใจว่าจะมีการคุยกันอีกครั้งนึง ไทม์ไลน์ยังไงต้องให้สอดคล้องกับคณะสแกมเมอร์ที่จะประชุมบ่ายนี้ด้วย ยังไงเราตั้งทาร์เก็ตในธันวาต้องให้รู้เรื่อง”
เมื่อถูกถามว่า จะเป็นอุปสรรคในการตรวจสอบหรือไม่ หลังมีข้อกล่าวหาว่า รัฐมนตรีเข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ ทาง ดร.เอกนิติกล่าวว่า “ต้องแยกสองส่วน อันนี้เราดูเรื่องการเงิน กระทรวงการคลังดูเรื่องการเงิน ช่องทางการเงิน ส่วนช่องทางตัวตน หรือนอมินีอะไรต่างๆ ก็เป็นอีกช่องทางนึง เพราะงั้นวันนี้เราต้องดูตามอำนาจหน้าที่เรา”
รมช.คลัง ปัดเอี่ยวเงินเทา
วรภัค รมช.คลัง ตอบผู้สื่อข่าว สำหรับกรณีถูกเชื่อมโยงกับขบวนการต่างๆ ว่า ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวไปแล้วครบทุกประเด็น ตั้งแต่วันที่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
โดยระบุว่า มีส่วนที่เกี่ยวข้องเล็กน้อย คือเคยซื้อหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด จริง และได้ขายไปในภายหลัง ให้กับ ช่วงชัย นะวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และไม่ได้ขายหุ้นให้ใครอื่นอีก
“ผมเคยซื้อหุ้นของฟินันซ่า แล้วก็ขายไปแล้ว หลังจากนั้นเขาไปขายให้ใครอีกผมก็ไม่ทราบ เขาก็หาว่าไปโยงใยกับกลุ่มกองทุนนู่นนี่ เราก็ไม่ทราบว่ากองทุนนั้นไปพัวพันอะไรยังไง แต่ผมได้ขายหุ้นให้คุณช่วงชัย ไม่ได้ขายให้ใครเลย”
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อถูกสอบถามว่า จะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ เมื่อมีการรายงานว่า มีอดีตข้าราชการกระทรวงการคลังพัวพันกับ เบน สมิธ ตัวการสำคัญของกลุ่มสแกมเมอร์ที่มีถิ่นฐานในชายแดนไทย-กัมพูชา
วรภัคกล่าวว่า “ท่านอื่นเนี่ยผมไม่ทราบ แต่ผมชี้แจงแล้วในสภา ผมไม่เคยเป็นกรรมการของธนาคารใดๆ ในกัมพูชาเลย และไม่เคยได้รับผลตอบแทนใดๆ ตัวประธานกรรมการ มิสซิง แล เคยมาขอคำปรึกษาด้วยวาจา (เกี่ยวกับการตั้งธนาคารในกัมพูชา) ก็ให้คำปรึกษาเท่านั้น แต่ไม่เคยรับตำแหน่งใดๆ ไม่เคยเป็นกรรมการ กรรมการบริหาร หรือได้รับค่าตอบแทนใดๆ เลย”
เมื่อถูกถามว่าได้รู้จักหรือคุ้นเคยกับ ยิม เลียก ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในบัญชีที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าใช้ BIC Bank เป็นช่องทางฟอกเงินสแกมเมอร์จากทั้งคนไทยและกัมพูชาหรือไม่
วรภัคกล่าวต่อว่า “ก็มีคนเคยพามาให้แนะนำว่า (ยิม เลียก) จะตั้งแบงก์ มาขอคำปรึกษา ผมก็ให้คำปรึกษาด้วยวาจาเท่านั้นเอง แล้วตั้งแต่ออกจากธนาคารกรุงไทย ทาง McKinsey ก็ให้ผมเป็นที่ปรึกษาแบงก์ต่างๆ หลายแบงก์นะครับ ทั้งแบงก์ในอินโดนีเซีย แบงก์ในเวียดนามก็มีเยอะแยะ”
เมื่อถูกถามว่า จะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่กล่าวหาว่า มีเอี่ยวกับขบวนการต่างๆ วรภัคตอบว่า “ก็กำลังดูอยู่”
