×

การลุกฮือโค่นอำนาจโค้ชฮอร์เก ซามเปาลีของนักเตะอาร์เจนตินา

25.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 MINS READ
  • เกิดกระแสข่าวลือว่านักฟุตบอลอาร์เจนตินาก่อหวอดปฏิวัติภายใน โค่นล้มอำนาจของฮอร์เก ซามเปาลี ด้วยการเตรียมเลือกผู้เล่น 11 ตัวจริงในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกับทีมชาติไนจีเรียกันเอง
  • ซามเปาลีได้รับความไว้ใจให้เข้ามากุมบังเหียนทัพฟ้าขาวเมื่อปี 2016 จากผลงานการพาทีมชาติชิลีคว้าแชมป์โคปา อเมริกา สมัยแรกของประเทศ โดยเอาชนะอาร์เจนตินาจากการดวลจุดโทษในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่หลังจากนั้นผลงานของอาร์เจนตินาก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ลงเล่น 13 นัด ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 3
  • ล่าสุด ฮาเวียร์ มาสเคราโน ผู้เล่นประสบการณ์สูงของทีม ได้ออกมาตอบโต้ข่าวลือปฏิวัติภายในว่าไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด เพราะหากนักเตะในทีมรู้สึกไม่สบายใจก็จะรีบปรึกษากับโค้ชทันที ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นตัวจริงหรือตัวสำรอง

ผลงานการเสมอและแพ้อย่างละนัด เก็บได้เพียงแค่แต้มเดียวในฟุตบอลโลกปีนี้จนสุ่มเสี่ยงตกรอบแบ่งกลุ่มของอาร์เจนตินา คือเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยด้วยประการทั้งปวง

 

รองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 เล่นได้อย่างย่ำแย่ผิดฟอร์มจนถูกวิจารณ์อย่างหนัก นักเตะในทีมทั้ง 23 คนมีความเข้าใจซึ่งกันและกันต่ำ ไม่สมราคาเต็งแชมป์ ซ้ำร้ายระบบในทีมก็ยังไม่เอื้ออำนวยให้ 11 ผู้เล่นตัวจริงรีดศักยภาพตัวเองออกมาได้เลย

 

เหลียวไปมองดูผู้เล่นความหวังอันดับหนึ่งของทีม ‘ลิโอเนล เมสซี’ ยิ่งอาการหนักไปกันใหญ่ เพราะตลอด 180 นาทีที่เขาลงเล่น สีหน้าดาวเตะฟ้าประทานจากบาร์เซโลนากลับเต็มไปด้วยความทุกข์ โดยเฉพาะความกดดันจากคนในชาติกว่า 44.6 ล้านคนที่เจ้าตัวต้องแบกไว้คนเดียว

 

 

ผลงานแย่ที่สุดของแชมป์โลก 2 สมัย (1978, 1986) คือการจอดที่รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งต้องย้อนกลับไปไกลถึง 16 ปีที่แล้วในฟุตบอลโลก 2002 ที่เก็บได้เพียงแค่ 4 แต้มจากการลงเล่น 3 นัด

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ขุนพลทัพฟ้าขาวก็การันตีผลงานเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อยมาได้ตลอด

 

แต่ปีนี้พวกเขาอาจไม่โชคดีเช่นนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำทัพของหัวเรือวัย 58 ปีที่ไร้ซึ่งศักยภาพและความสามารถในการแก้เกมอย่าง ‘ฮอร์เก ซามเปาลี’ จนล่าสุดมีข่าวลือเล็ดลอดออกมาจากแคมป์เก็บตัว La Albiceleste ว่านักเตะในทีมเริ่มคิดการใหญ่เตรียมก่อกบฏโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินากันแล้ว

 

 

หนึ่งในแหล่งข่าวที่เปิดประเด็นการก่อกบฏของนักฟุตบอลอาร์เจนตินาคือ Mootaz Chehade นักข่าวกีฬาจากเว็บไซต์ VAVEL.com รวมถึงเว็บไซต์ Dailymail ท่ีอ้างว่าขุนพลฟ้าขาวจำนวน 23 คนจะเป็นคนจัดทีมกันเองในแมตช์สุดท้ายที่ลงดวลแข้งกับทีมชาติไนจีเรีย วันพุธที่ 27 มิถุนายนนี้ เวลา 01.00 น.

 

อาร์เจนตินาไม่มีทางเลือกสถานอื่นแล้ว โจทย์บังคับข้อเดียวที่ต้องทำให้สำเร็จคือเอาชนะไนจีเรียให้ได้ แล้วหวังพึ่ง ‘ดวง’ ให้โครเอเชียไม่โอนอ่อนต่อไอซ์แลนด์ เพื่อที่ตัวเองจะได้พลิกสถานการณ์ผ่านเข้ารอบ

 

 

ทำไมซามเปาลีถึงล้มเหลว

ซามเปาลีเข้ามารับหน้าที่กุมบังเหียนทีมชาติอาร์เจนตินาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2017 นับรวมจนถึงปัจจุบันก็ผ่านมาแล้วประมาณ 1 ปีกับอีก 1 เดือนเศษๆ พอดี

 

แต่ผลงานโดยรวมของอดีตกุนซือเซบียาในนามหัวเรือทัพฟ้าขาวกลับไม่สู้ดีสักเท่าไร คุมทีมลงแข่งไป 13 นัด ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 3 เปอร์เซ็นต์การชนะต่ำที่สุดในบรรดาทุกทีมที่เคยคุมที่ 46.15%

 

โดยเฉพาะในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ที่เกือบไม่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว (ผลงานคุมทีมของซามเปาลีในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แข่ง 4 นัด เสมอ 3 ชนะแค่ 1)

 

เชื่อกันว่าผลงานเข้าตาสมาคมฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาที่ทำให้ซามเปาลีได้มาลงเอยกับชาติบ้านเกิดต้องย้อนกลับไปในปี 2015 ที่พาชิลียันเสมอฟ้าขาวได้ใน 90 นาที ก่อนไปชนะการดวลจุดโทษ 4-1 คว้าแชมป์โคปา อเมริกา สมัยแรกของประเทศได้สำเร็จ (ปีถัดมา ชิลีภายใต้การนำทัพของฮวน อันโตนิโอ ปิซซี (ปัจจุบันคุมซาอุดีอาระเบีย) พาชีลีคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ได้ด้วยการชนะจุดโทษทีมชาติอาร์เจนตินา 4-2)

 

แต่เมื่อมาคุมทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ใช่แค่บารมีที่มีไม่พอ การจัด 11 ตัวแรกและการเลือกผู้เล่นมาติดทีมชาติก็ขัดใจแฟนบอลจำนวนไม่น้อย

 

ซามเปาลีเลือกไม่หนีบตัวจบสกอร์ฟอร์มฮอตจากสโมสรอินเตอร์ มิลาน ‘เมาโร อิคาร์ดี’ ติดทีมชุดนี้มาด้วย โดยฤดูกาลล่าสุดเขาลงเล่นในลีกไป 34 นัด ยิงได้ถึง 29 ประตู

 

กรณีของอิคาร์ดีอาจเข้าใจได้อยู่ เพราะผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าของทีมแทบจะทับกันตายจนไม่มีที่ว่างเหลืออยู่แล้ว แถมฟอร์มในนามทีมชาติของเจ้าตัวก็ยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ลงเล่นไป 4 นัด ยิงไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว แต่การมีอิคาร์ดีเป็นออปชันเสริมลงมาพลิกเกมก็ย่อมดีกว่าขาดเขาเป็นไหนๆ

 

ยิ่งไปกว่านั้น เปาโล ดีบาลา ก็เป็นผู้เล่นอีกคนที่ถูกซามเปาลีหมางเมิน แม้ดาวเตะวัย 24 ปีจากยูเวนตุสจะได้รับการคาดหวังว่าเตรียมขึ้นมาเป็นสตาร์อันดับต้นๆ ของโลกในวันข้างหน้าก็ตาม

 

โค้ชวัย 58 ปียังสร้างเซอร์ไพรส์อีกสเตปด้วยการเลือกฝากความหวังกับผู้เล่นอย่างมักซิมิิลิอาโน เมซา ให้ลงเล่นในตำแหน่งตัวจริงทั้งสองเกม ซึ่งผลงานในสนามของเมซาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ดีพอจะติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดนี้ด้วยซ้ำ

 

การตัดสินใจเลือก 11 ตัวแรกว่าไม่ดีแล้ว การแก้เกมยิ่งพิลึกชอบกล โดยเฉพาะนัดแรกที่ทำได้แค่เสมอกับไอซ์แลนด์ กว่าจะเปลี่ยนตัวเอากอนซาโล อิกวาอิน ลงมาก็ปาไปนาทีที่ 84

 

เมื่อศูนย์หน้าจากยูเวนตุสเหลือเวลาแค่ 6 นาทีเพื่อกอบกู้สถานการณ์ แน่นอนว่าอิกวาอินย่อมมีเวลาไม่พอก่อร่างสร้างปาฏิหาริย์

 

ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตู ต้องบอกว่าซามเปาลีโชคร้ายจริงๆ เพราะนายทวารมือหนึ่ง ‘เซร์คิโอ โรเมโร’ ดันมาเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มได้แค่ไม่กี่วัน การเลือกวิลลี กาบาเยโร ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขา

 

แม้แบ็กอัพมือกาวจากเชลซีรายนี้จะเล่นผิดพลาดจนสร้างความเสียหายราคาแพงให้กับทีมจนแพ้โครเอเชียแบบกู่ไม่กลับ 0-3

 

กระแสข่าวการก่อปฏิวัติโค่นล้มอำนาจซามเปาลีของทัพนักเตะอาร์เจนตินาที่เกิดขึ้นในเวลานี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด โดยเฉพาะเมื่อวัดจากประสิทธิภาพของทีมที่ย่ำแย่พิกลพิการในชั่วโมงนี้

 

 

มาสเคราโนนำทีมโต้ ‘ก่อปฏิวัติ’ ไม่ใช่เรื่องจริง แจงสัมพันธ์ผู้เล่น-โค้ชยังปกติเหมือนเดิม

เมื่อกระแสข่าวเชิงลบแพร่สะพัดอย่างหนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮาเวียร์ มาสเคราโน กองกลางตัวรับประสบการณ์สูงวัย 34 ปีจึงต้องรีบออกมาปฏิเสธข่าวลือทั้งหมดเพื่อรักษาสมดุลทีมและกอบกู้สถานการณ์ที่เริ่มแย่ลงทุกขณะ

 

“ความสัมพันธ์ระหว่างเราและโค้ชยังปกติดี

 

“แน่นอนว่าถ้าพวกเรารู้สีกไม่สบายใจอะไรก็จะบอกให้โค้ชรู้ทันที ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เล่นตัวจริงในสนามหรือผู้เล่นสำรอง มีความเข้าใจที่ผิดเกิดขึ้นจำนวนไม่น้อยกับทีมและผู้เล่นชุดนี้”

 

มาสเคราโนเชื่อว่าในเวลานี้ทีมจะต้องรวมใจกัน ต้องมองโลกในแง่ดีเพื่อพลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายกลับมาให้ได้

 

“เราต้องมองโลกในแง่ดีมากๆ พวกเราคือรองแชมป์ฟุตบอลโลกปีที่แล้ว (2014) และเราจะต้องโชว์ศักยภาพนั้นออกมา”

 

ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าข่าวลือการก่อกบฏของนักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นเรื่องจริงแค่ไหน ขณะที่ในประวัติศาสตร์โลกลูกหนังที่ผ่านมา แม้กรณีการต่อต้านอำนาจผู้คุมทีมสโมสรจะมีให้เห็นอยู่บ้างจนเกิดเป็นสำนวน ‘เล่นไล่โค้ช’ อยู่บ่อยๆ

 

แต่กับกรณีทีมชาติอาร์เจนตินา ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครต่อต้านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มแฟนบอลเลือดฟ้าขาว

 

หากผลงานนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มยังแย่อีกจนแพ้ไนจีเรียและพลาดคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย บางทีซามเปาลีอาจไม่ต้องรอให้นักเตะเล่นไล่เขาก็ได้ เพราะสมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินาเองก็คงจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising