เข้าสู่วันที่ 2 ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 อย่างเป็นทางการก็มีแมตช์ที่น่าติดตาม รวมถึงคู่บิ๊กแมตช์หยุดโลกให้เราได้รับชมกันแล้ว!
วันนี้ (15 มิ.ย.) มีการแข่งขันด้วยกันถึง 3 คู่ เริ่มจากคู่หัวค่ำเป็นการพบกันของทีมชาติอียิปต์และอุรุกวัยในกลุ่ม A เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องอมรินทร์ทีวี
ไฮไลต์อยู่ที่การสลัดปัญหาอาการบาดเจ็บของสตาร์ลูกหนังของโลกคนปัจจุบัน ‘โมฮัมเหม็ด ซาลาห์’ ลงมาช่วยทัพอียิปต์ต่อกรกับ ‘จอมโหด’ อุรุกวัยที่อัดแน่นไปด้วยขุมกำลังศักยภาพสูงอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี, ดิเอโก โกดิน รวมถึงสองดาวรุ่งในแดนกลางอย่าง โรดริโก เบนตันกูร์ และลูคัส ตอร์เรรา (แฟนอาร์เซนอลต้องจับตารายหลังไว้ให้ดี เพราะกำลังมีข่าวหนาหูว่าจะย้ายมาร่วมทัพกันเนอร์ส)
ซึ่งการที่รัสเซียสามารถยำใหญ่เอาชนะซาอุดีอาระเบียในนัดเปิดสนามไปได้ถึง 5-0 ก็น่าจะโยนความกดดันไปให้กับอียิปต์และอุรุกวัยต้องรีบเก็บ 3 คะแนนให้ได้เร็วที่สุด
คู่ต่อมาเป็นการพบกันของทีมในกลุ่ม B ระหว่างตัวแทนจากกาฬทวีป ‘โมร็อกโก’ ที่มี อามีน ฮาริต เพชรเม็ดงามวัย 20 ปี จากชาลเก 04 เป็นตัวชูโรง และตัวแทนจากทวีปเอเชีย ‘อิหร่าน’ กับกองหน้าตัวความหวัง ซาร์ดาร์ อัซมูน เริ่มลงสนามคิกออฟในเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง ททบ. 5
‘โปรตุเกสปะทะสเปน’ ความท้าทายของโรนัลโด และสภาวะเสี่ยงทายแบบเหรียญสองด้านที่แชมป์โลก 1 สมัยต้องเผชิญ
คู่ดึกสุดเป็นการพบกันระหว่างสเปนและโปรตุเกส (กลุ่ม B) คือหนึ่งในคู่ใหญ่รอบแบ่งกลุ่มที่ทุกคนต้องห้ามพลาดเด็ดขาด! (ตรงกับเวลาที่ไทย เช้าวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน เวลา 01.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U)
การพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม แม้ชื่อชั้นผู้เล่นและจำนวนถ้วยรางวัลของสเปนจะเป็นต่อเหนือโปรตุเกสอยู่เล็กน้อย แต่ต้องบอกว่าทั้งคู่ข่มกันแบบกินไม่ลงเลยจริงๆ โดยสเปนชนะไปได้ทั้งหมด 3 แมตช์ (1 ใน 3 แมตช์นี้เป็นการชนะจุดโทษหลังต่อเวลาพิเศษครบ 120 นาที) ส่วนโปรตุเกสชนะไป 2 ครั้ง
ด้านความพร้อมของทั้งสองทีม โปรตุเกสจะเตรียมใช้งาน คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมวัย 33 ปีที่เพิ่งลงเล่นในเกมนัดอุ่นเครื่องกับแอลจีเรียไปได้แค่ 74 นาทีมาช่วยนำทัพอีกครั้ง เสริมด้วยขุมกำลังอายุน้อย แบร์นาโด ซิลวา, อังเดร ซิลวา, บรูโน เฟอร์นานเดส หรือกอนซาโล กูเอเดส
บอลโลกในครั้งนี้ยังเป็นบททดสอบและการพิสูจน์ตัวเองของโรนัลโดกับโจทย์ใหญ่กว่าเดิมที่ต้องคว้าแชมป์โลกมาครองให้ได้ หลัง 2 ปีที่แล้วสามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ใหญ่อย่าง ‘ยูโร 2016’ มาครองประเดิมโทรฟีแรกอย่างเป็นทางการในนามทีมชาติได้สำเร็จ
ซึ่งถ้าจะให้รออีก 4 ปีกว่าบอลโลก 2022 จะเวียนกันมาแข่งอีกครั้ง ตอนนั้นโรนัลโดคงเข้าสู่ช่วงบั้นปลายการค้าแข้งจนเลยจุดพีกไปแล้วก็ได้…
ขณะที่ ‘ทัพกระทิงดุ’ ต้องมาโชคร้ายสุดๆ เพราะอดีตโค้ชทีมชาติอย่าง ยูเลน โลเปเตกี ถูกปลดออกจากทีมได้เพียงแค่ 2 วันก่อนทีมจะลงแข่ง! สืบเนื่องจากกรณีสโมสรเรอัล มาดริด ทำผิดมารยาท ประกาศแต่งตั้งโค้ชวัย 51 ปีขึ้นเป็นผู้จัดการสโมสรล่วงหน้าทั้งๆ ที่ทัวร์นาเมนต์ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ
แถม หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ยังบอกอีกด้วยว่าทางสหพันธ์เพิ่งจะทราบข่าวการแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ของราชันชุดขาวก่อนจะมีประกาศอย่างเป็นทางการออกมาได้เพียงแค่ 5 นาที
โชคดีที่ได้อัศวินขี่ม้าขาว ‘เฟร์นานโด เอียร์โร’ อดีตผู้อำนวยการกีฬาฟุตบอลทีมชาติสเปน ขึ้นมานั่งเป็นกุนซือทีมชาติคนใหม่ทันการณ์
ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดและตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทีมต่อจากนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการวัดดวงจากเหรียญสองด้านที่ออกได้ทั้งหน้า ‘ดีขึ้น’ เพราะผู้เล่นทั้ง 23 คนในทีมจะกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง หรือ ‘แย่ลง’ เนื่องจากทุกคนสูญเสียกำลังใจและแนวทางการเล่นที่ถูกวางไว้
“สเปนยังคงคอนเซปต์การเล่นฟุตบอลสวยงามไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง” สาสน์ท้ารบจากเอียร์โร
เฟร์นานโด เอียร์โร และเซร์คิโอ รามอส โค้ชทีมชาติสเปนและกัปตันวัย 32 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในช่วงแถลงข่าวกับสื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) โดยระบุว่าทีมชาติสเปนยังคงกำลังใจดีเหมือนเคย พร้อมยึดมั่นตามแนวทางที่วางเอาไว้ และจะสู้เพื่อเป้าหมายเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เอียร์โรให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เราจะไม่ยอมให้ปัญหาใดๆ มาเบี่ยงเบนสไตล์การเล่นฟุตบอลที่ยึดมั่นกันมาเป็นเวลานานจนถึงตอนนี้เป็นอันขาด คุณจะได้เห็นสเปนในแบบที่คุ้นเคย ทีมฟุตบอลที่มักจะระเบิดฟอร์มได้โดดเด่น เล่นฟุตบอลด้วยความสวยงาม เรามีกลยุทธ์และเป้าหมายในใจที่ชัดเจนมากๆ ทุกคนทำงานอย่างหนักมา 2 สัปดาห์ติดต่อกันก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
“สเปนยังมีสตาฟฟ์โค้ชในทีมอีกเป็นจำนวนมาก มีหลักการที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง และเราก็จะไม่เปลี่ยนสิ่งต่างๆ เหล่านั้นในชั่วข้ามคืน
พร้อมกันนี้เอียร์โรยังกล่าวถึงโปรตุเกสว่าเป็นทีมที่สเปนให้ความเคารพเป็นอย่างมาก เพราะมีหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกอย่างโรนัลโดและ ‘เฟร์นานโด ซานโตส’ โค้ชมากประสบการณ์คอยหนุนหลัง แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกทีม
ด้านกัปตันทีมจากเรอัล มาดริด กล่าวชมโค้ชคนใหม่ว่าเป็นผู้เล่นต้นแบบที่โดดเด่น ซึ่งตนได้ชื่นชมมาเป็นเวลานานแล้ว
“เขาคือผู้เล่นที่โดดเด่นที่เราชื่นชมมาโดยตลอด และยังรู้จักพวกเราทุกคนเป็นอย่างดี (นักฟุตบอลสเปนในทีม) เอียร์โรคือหนึ่งในแคนดิเดตที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งโค้ชทีมชาติสเปน
“ผมหวังว่ามันจะช่วยให้ทีมของเรายังคงเดินตามความฝันและความทะเยอทะยานได้เหมือนเดิม และจะไม่ส่งผลกระทบกับทีมของเราไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดก็ตาม
“ผมกำลังแบก (ความหวัง) ประเทศสเปนทั้งประเทศ ทีมทั้งทีม และมันยังมีเรื่องอีกมากมายที่เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กัน ผมเชื่อว่าฟุตบอลจะสอนเราในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และผมคิดว่านี่คือโอกาสของทุกคนที่จะเรียนรู้และเติบโต เราต้องโฟกัสไปที่เป้าหมายเดียวกัน ไม่มีสิ่งใดจะมาเปลี่ยนแปลงมันได้”
งานนี้ต้องมาลุ้นกันว่าโปรตุเกสหรือสเปนใครจะเป็นฝ่ายเข้าวิน ผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ดูทรงแล้วเกมนัดนี้น่าจะการันตีความสนุกระดับ 5 ดาวแน่นอน!
อ้างอิง:
- Reuters
- www.uefa.com/uefaeuro/season=2016/teams/index.html
- www.whoscored.com/Matches/1249919/Show/International-FIFA-World-Cup-2018-Portugal-Spain
- ปัจจุบันหลุยส์ ซัวเรส คือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอุรุกวัย ด้วยจำนวนสกอร์ 51 ลูกจากการลงสนามทั้งหมด 98 นัด
- ในสมัยที่ยังค้าแข้ง เอียร์โรเล่นในตำแหน่งกองหลัง มีสไตล์การเล่นที่ดุดันและจัดจ้านมากๆ โดยเคยยิงได้มากถึง 21 ประตูจากการลงเล่น 37 นัดในฤดูกาล 1991-1992 ทั้งๆ ที่เล่นเป็นกองหลัง!