ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในสัปดาห์หน้าจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อยืนยันการคัดค้านการจัดเก็บภาษีขายหุ้น (Financial Transaction Tax: FTT) โดยจะเป็นการเข้าพบครั้งแรกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือเพื่อชี้แจงเหตุผลที่ FETCO คัดค้านการเก็บภาษีขายหุ้นไปแล้ว
ทั้งนี้ หากคลังยืนยันตามแนวทางเดิม ก็อาจต้องกลับมาหารือกันในเรื่องของอัตราภาษีที่เหมาะสมและรูปแบบการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีการหารือกันภายใน FETCO แต่อย่างใด
“ส่วนเรื่องที่ว่าควรจัดเก็บภาษีในอัตราเท่าไรและจัดเก็บอย่างไร เรายังไม่ได้หารือกันตรงนั้น เพราะจุดยืนของ FETCO คือ ไม่ควรมีการจัดเก็บภาษีขายหุ้น” ไพบูลย์กล่าว
ก่อนหน้านี้ FETCO ได้ชี้แจงเกี่ยวกับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษี FTT ในมิติต้นทุนการซื้อขายของนักลงทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่มีการซื้อขายถี่ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้สภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยเพิ่ม หรือ Program Trading (PT) โดยการจัดภาษี FTT จะทำให้ต้นทุนซื้อขายของนักลงทุน PT เพิ่มขึ้น 170% ถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก และอาจทำให้นักลงทุน PT หันไปลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอื่นหรือในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ แทนได้
ทั้งนี้ ปัจจุบันนักลงทุน PT มีต้นทุนในการทำธุรกรรมซื้อหุ้น 0.03% ต่อรายการ และต้นทุนในการทำธุรกรรมขายหุ้น 0.03% ต่อรายการ รวมเป็น 0.06% ในการซื้อและขายหุ้นไทย การจัดเก็บภาษี FTT ในอัตรา 0.1% จะส่งผลให้ต้นทุนนักลงทุน PT ในการซื้อและขายเพิ่มเป็น 0.13% โดยปัจจุบันธุรกรรมจากนักลงทุน PT คิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์
“ในมุมของนักลงทุน ตลาดหุ้นไทยไม่ใช่ตลาดหุ้นเดียวในโลก นักลงทุนต่างชาติมีตัวเลือกในการลงทุนค่อนข้างมาก ทั้งตลาดหุ้นต่างประเทศที่ไม่มีการเก็บภาษีและตลาดคริปโต การที่ต้นทุนการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยของเขาเพิ่มขึ้น ก็ทำให้เขาต้องคิดใหม่อีกครั้งว่าจะยังลงทุนในตลาดหุ้นอยู่หรือไม่” ไพบูลย์กล่าว
ไพบูลย์กล่าวเพิ่มว่า อยากให้มองถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ในมุมของการเป็นแหล่งระดมทุนของภาคธุรกิจที่สามารถนำเงินระดมทุนไปต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชน และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจมากกว่า ซึ่งคลังเองก็จะสามารถจัดเก็บภาษีนิติบุคคลได้เพิ่มขึ้น จึงมองว่ากลไกด้านการระดมทุนนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างรายได้ให้ภาครัฐ เห็นได้จากผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลมากขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเข้าตลาด และในแต่ละปี 30% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่รัฐบาลจัดเก็บได้มาจากเพียง 800 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เทียบกับนิติบุคคลทั้งประเทศกว่า 1.6 ล้านบริษัท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- บอร์ด ‘FETCO’ หารือค้านเก็บภาษีขายหุ้นสัปดาห์หน้า ก่อนส่งหนังสือชี้แจงคลัง พร้อมเผยดัชนีเชื่อมั่น นลท. 3 เดือนข้างหน้ายัง ‘ร้อนแรง’
- สรุปครบ ภาษีขายหุ้น ‘ใครได้-ใครเสีย’ นักลงทุนโดนผลกระทบอะไรบ้าง
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP