เฟอร์รารี x ลูอิส แฮมิลตัน กับอิมแพ็กต์ของการร่วมงานกันวันแรก

18 ล้านไลก์คือจำนวนไลก์ของการลงรูปเพียง 6 โพสต์บนแพลตฟอร์ม Instagram เพียงแพลตฟอร์มเดียวของ ลูอิส แฮมิลตัน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนับถึงแค่ช่วงเวลาที่กำลังพิมพ์ตัวอักษรตัวนี้อยู่ (เวลาราว 15.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2025) และตัวเลขยอดไลก์ของทั้ง 6 โพสต์นี้น่าจะพุ่งทะลุ 20 ล้านไลก์ได้ไม่ยากเย็น โดยน่าจะใช้เวลาอีกไม่นานหลังจากนี้

ภาพที่มียอดไลก์มากที่สุดในบรรดา 6 โพสต์ล่าสุดของแฮมิลตันคือภาพที่เขายืนอยู่หน้าบ้านของ เอ็นโซ เฟอร์รารี ในฟิออราโนโมเดเนเซ จังหวัดโมเดนา ในประเทศอิตาลี ภาพดังกล่าวมียอดไลก์รวม ณ ตอนที่เขียนบทความอยู่นี้ราว 5.4 ล้านไลก์ ซึ่งถามว่ามากแค่ไหน ถ้าตอบเป็นตัวเลขกลมๆ ก็ราว 3-5 เท่าของโพสต์ปกติที่แฮมิลตันลงใน Instagram

โดยทั่วไปโพสต์ของแฮมิลตันจะมียอดไลก์อยู่ที่ราวเกือบล้านหรืออาจจะถึงล้านต้นๆ แต่เฉพาะภาพของเขาที่บ้านของ เอ็นโซ เฟอร์รารี แค่โพสต์เดียว ซึ่งมีแค่ 1 ภาพ และข้อความสั้นๆ อีกแค่ไม่ถึง 500 ตัวอักษร กลายเป็นกระแสที่ทั่วโลก โดยเฉพาะแฟนๆ F1 พูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

และนี่ยังไม่นับภาพของเขาในชุดสีแดงของเฟอร์รารีหรือภาพของหมวกสีเหลืองในโลโก้ของเฟอร์รารีที่กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากด้วย

6 โพสต์ดังกล่าวจึงสร้างอิมแพ็กต์มากมายทั้งในโลกกีฬา มอเตอร์สปอร์ต และ F1 แต่เพราะอะไรการโพสต์ภาพเพียงไม่กี่ภาพของคนคนเดียว จึงสร้างผลกระทบได้มากมายขนาดนี้

📍 ภาพถ่ายที่ถูกออกแบบมาอย่างดี

ภาพของ เซอร์ลูอิส แฮมิลตัน ที่มาพร้อมกับเสื้อโค้ต Ferragamo ทรงสองแถวทับสูทวินเทจลายทางและเนกไทสีดำ รวมถึงเสื้อเชิ้ตเข้ารูปแขนยาว Ferrari Style ที่ถ่ายหน้าบ้านของ เอ็นโซ เฟอร์รารี ผู้ก่อตั้งแบรนด์รถหรู พร้อมกับรถรุ่น F40 สีแดงอันโด่งดัง น่าจะสะกดสายตาแฟนๆ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างทันทีที่เขาลงภาพ

แน่นอนว่าภาพนี้อาจจะไม่ได้ถูกพูดถึงขนาดนี้ ถ้าแฮมิลตันไม่ใช่สุดยอดนักขับแห่งยุค แต่ไม่ใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น ทว่าในภาพใบนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายทับซ้อนกันอยู่

ต้องขอบคุณความยอดเยี่ยมของ อีริค แมคนีล สไตลิสต์ของแฮมิลตัน ที่เลือกชุดนี้ เพราะชุดสไตล์เฟอร์รารีย่อมสร้างความประทับใจให้บรรดาติโฟซี (Tifosi – คำเรียกแฟนๆ เฟอร์รารี) ได้ทันที ทั้งที่ภาพใบนี้เป็นเพียงภาพแรกที่แฮมิลตันแสดงออกถึงความเป็นเฟอร์รารีอย่างชัดเจนผ่าน Instagram ของเขา

นอกจากนี้ยังมีการตีความภาพถ่ายถึงหน้าต่าง 7 บานที่หมายถึง 7 แชมป์โลกของเขา และอีก 1 ประตูที่จะพาเขาเข้าสู่การเป็นเฟอร์รารีเต็มตัว ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอบคุณ อังเดร วากเนอร์ ช่างภาพส่วนตัวของแฮมิลตัน ที่ถ่ายทอดภาพออกมาได้อย่างลงตัว ไม่มากและไม่น้อยเกินไป

หลังจากลงภาพแรกไป โฟกัสของโลกก็กลับมาอยู่ที่การร่วมงานกันของเฟอร์รารีกับแฮมิลตันอีกครั้งทันที แม้ว่าหลายคนจะมองข้ามเรื่องนี้ไป หลังจากที่ F1 จบฤดูกาลไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

แต่การที่นักขับแชมป์โลก 7 สมัยย้ายไปร่วมทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในวงการฟอร์มูลาวันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไม่เป็นข่าวใหญ่ และยิ่งเมื่อเขาไปร่วมงานกันเป็นวันแรกด้วยแล้ว เรื่องราวของสุดยอดนักขับยิ่งต้องเป็นเรื่องราวที่แฟนๆ ให้ความสนใจ

ไม่ต่างจากตอนที่ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ย้ายจากเบเนตองมายังเฟอร์รารีในปี 1996 นั่นก็เป็นข่าวใหญ่เมื่อแชมป์โลก 2 สมัยในตอนนั้นย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของวงการ

แต่ในวันนี้คือการเริ่มงานวันแรกของแฮมิลตัน คือการที่ชายผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในนักขับที่ครองแชมป์ F1 มากที่สุดตลอดกาล ไปเริ่มงานกับทีมซึ่งคว้าแชมป์โลกมากที่สุดตลอดกาล

ดังนั้นความยิ่งใหญ่ของข่าวทั้งสองย่อมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันอย่างแน่นอน

📍 สุดยอดทีม x สุดยอดนักขับ

ในปัจจุบันมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่อยู่กับ F1 มาตั้งแต่จุดเริ่มต้น และทีมนั้นคือเฟอร์รารี ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เมื่อคิดถึงกีฬาอย่าง F1 หลายคนจะเห็นภาพรถสีแดงที่มีโลโก้รูปม้าสีดำบนพื้นหลังสีเหลืองลอยมาพร้อมๆ กัน

ประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารีเองก็ช่วยผลักดันให้เรื่องราวการทำงานวันแรกของแฮมิลตันยิ่งใหญ่และเป็นที่ติดตามสำหรับแฟนๆ ทั่วโลก

เป็นที่รู้กันดีว่าแฟนๆ รอคอยที่จะเห็นแฮมิลตันใส่ชุดสีแดงของเฟอร์รารีมาตลอด อันที่จริงรอมาก่อนช่วงที่จะมีการประกาศย้ายทีมของเขาเมื่อราว 1 ปีก่อนแบบช็อกโลกด้วยซ้ำ

การมีโรงงานที่มาราเนลโลและสนามทดสอบอย่างฟิออราโนเซอร์กิต ที่ในละแวกนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ของเฟอร์รารีและสิ่งปลูกสร้างในยุคก่อตั้งของเฟอร์รารีมากมาย ทำให้การมาเยือนที่นี่ได้กลิ่นอายความเป็นเฟอร์รารีแบบเต็มเปี่ยม และทำให้รู้ดีว่าทีมเฟอร์รารี F1 นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนในโลกมอเตอร์สปอร์ต

สำหรับเฟอร์รารีแล้ว ต่อให้นักขับใหม่จะไม่ใช่สุดยอดแชมป์โลกแบบ ลูอิส แฮมิลตัน ก็น่าจะยังคงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามและมีแฟนๆ ชาวติโฟซีมารอต้อนรับมากมาย แต่เมื่อนักขับคนนั้นเป็นแชมป์โลกอย่าง ลูอิส แฮมิลตัน ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าความสนใจที่พวกเขาจะได้รับย่อมมาจากคนทั่วโลก

และเมื่อแฮมิลตันมาปรากฏตัวในชุดสีแดงของเฟอร์รารี ทั้งยังไปนั่งหลังพวงมาลัยของรถ SF-23 รุ่นปี 2023 หมายเลข 44 ซึ่งเป็นเลขประจำตัวของเขา ย่อมเป็นโมเมนต์ที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอยที่จะได้เห็น

นักขับสหราชอาณาจักรเจ้าของยศ ‘เซอร์’ ออกสตาร์ทรอบแรกเมื่อเวลา 09.16 น. ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางหมอกบางๆ และมีแฟนๆ มารอชมกว่า 1,000 คน เขาโบกมือให้แฟนๆ ทั่วสนาม ทำให้อากาศที่ดูจะหนาวเย็นและเปียกชื้นให้ความรู้สึกอบอุ่นขึ้นได้ทันที

อบอุ่นทั้งกับแฟนๆ ที่ได้เห็นภาพที่อยากเห็น และกับตัวแฮมิลตันที่ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ อย่างกึกก้องเองด้วย

📍 ความฝันเบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“เมื่อผมสตาร์ทรถและขับผ่านประตูโรงรถนั่นผมยิ้มกว้างที่สุด” แฮมิลตันกล่าว “มันทำให้ผมรู้สึกถึงครั้งแรกที่ผมทดสอบรถ F1 มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและพิเศษมาก มันเป็นเวลาเกือบ 20 ปีผ่านมาแล้ว แต่ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง

“การได้ขับรถของเฟอร์รารีเป็นครั้งแรกในเช้านี้ เป็นหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุดในชีวิตของผม”

ประโยคด้านบนอาจจะหวานไปสักหน่อยและอาจฟังดูเหมือนการอวยทีมใหม่ แต่สำหรับแฟนๆ แล้วทุกคนรู้กันดีว่าความฝันของแฮมิลตันคือการได้ขับให้เฟอร์รารีมาตลอด

แฮมิลตันกล่าวว่า “มีบางวันที่คุณจะรู้ว่าคุณจะจดจำไปตลอดชีวิต และวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของผมในฐานะนักแข่งเฟอร์รารี ก็เป็นวันที่มีความหมายมาก

“ผมโชคดีมากที่ประสบความสำเร็จในอาชีพของผมแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ แต่ส่วนหนึ่งของผมยังคงยึดมั่นในความฝันที่จะแข่งขันด้วยเสื้อสีแดง ผมมีความสุขมากที่ได้ทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงในวันนี้”

เป็นที่ทราบกันดีว่าไอดอลของแฮมิลตันคือ ไอร์ตัน เซนนา สุดยอดตำนานนักขับชาวบราซิล และที่แฮมิลตันใส่หมวกสีเหลืองในทุกครั้งที่เขาเริ่มต้นกับทีมใหม่ คือการคารวะต่อเซนนาที่ใส่หมวกกันน็อกสีเหลืองเช่นกัน

แต่ที่เฟอร์รารีเขาให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า การใส่หมวกสีเหลืองในการทดสอบรถที่นี่ นอกจากจะคงคาแรกเตอร์ของเขาแล้ว ยังเป็นการเชื่อมโยงกับสีเหลืองบนโลโก้ของเฟอร์รารี ซึ่งเป็นตัวแทนของเมืองโมเดนาอันเป็นบ้านเกิดของผู้ก่อตั้งแบรนด์รถหรูแบรนด์นี้อีกด้วย

📍 สุดยอดช่วงเวลา

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การทำงานวันแรกของแฮมิลตันที่เฟอร์รารีเป็นที่พูดถึงอย่างมากก็คือเห็นผลที่ว่า ‘ถูกเวลา’

ในตอนนี้โลกกีฬาไม่มีการแข่งขันกีฬาอื่นใดที่มีผลสำคัญ โดยฟุตบอลก็เป็นการแข่งขันช่วงกลางฤดูกาล ส่วนเทนนิสรายการใหญ่อย่างออสเตรเลียนโอเพนก็ยังไม่ถึงช่วงตัดเชือก (ณ วันที่แฮมิลตันไปที่เฟอร์รารี)

ขณะที่ในโลกของมอเตอร์สปอร์ตเอง แฟนๆ กลุ่มหลักก็กำลังรอคอยการกลับมาของ F1 และ MotoGP ซึ่งพักฤดูกาลไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ในวงการรถสูตรหนึ่งเองก็มีเพียงข่าวประปรายเท่านั้น การเปิดตัวของแฮมิลตันที่มาทำงานวันแรกกับเฟอร์รารี จึงกลายเป็นข่าวสำคัญสำหรับแฟนๆ ไปโดยปริยาย

ในส่วนของนอกวงการกีฬา การไปทำงานวันแรกที่มาราเนลโลของแฮมิลตันยังได้พื้นที่จากข่าวสายแฟชั่น ที่ช่วยประโคมเรื่องการแต่งตัวไปเปิดตัวที่ฟิออราโน ซึ่งมาในมาดเนี้ยบสุดๆ แบบที่ได้กล่าวถึงไปแล้วด้วย

นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและต้องชื่นชมทีมงานของแฮมิลตันและเฟอร์รารีที่ทำงานร่วมกันจนได้เวลาที่ยอดเยี่ยมในการเข้ามาทำงานวันแรกของยอดนักขับคนนี้ จนเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก

📍 สิ่งที่ F1 ต้องการ

นอกจากแฟนๆ ที่มีความสุขกับข่าวของแฮมิลตันที่เกิดขึ้นแล้ว อีกฟากหนึ่งที่มีความสุขอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือทาง F1 เอง ที่กำลังรอประโคมข่าวการเปิดตัวของทีมต่างๆ ของพวกเขา

F1 ได้พื้นที่สื่อโดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไร และเกือบทุกสำนักข่าวก็ทิ้งท้ายข่าวด้วยวันที่ F1 จะกลับมาแข่งขันสนามแรก

และแน่นอนว่าอิมแพ็กต์ของแฮมิลตันกับเฟอร์รารีจะยังไม่หมดเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน เพราะตามกฎข้อบังคับของ F1 สำหรับปี 2025 อนุญาตให้แฮมิลตันขับรถ F1 รุ่นเก่าได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรเป็นเวลา 4 วัน นั่นหมายความว่าแฮมิลตันจะยังอยู่ในหน้าสื่อไปอีกสักพัก

นอกจากนี้เขาจะเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัยในวันที่ทีมเฟอร์รารีเปิดตัวลุยฤดูกาลใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

สิ่งเหล่านี้คือผลกระทบอันยิ่งใหญ่ของการจับมือกันของนักขับที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งกับทีมที่เก่าแก่ที่สุดในศึก F1

และผลกระทบของการร่วมงานกันครั้งนี้จะยิ่งใหญ่ถึงที่สุด หากมันประสบความสำเร็จในสนามด้วย!

ภาพ: lewishamilton / Instagram

อ้างอิง: