ผลกระทบจากโควิด-19 กำลังเริ่มตั้งเค้าเป็นคลื่นยักษ์ที่จะซัดถล่มทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ในรายการแข่งรถที่ยิ่งใหญ่และเงินสะพัดมากที่สุดของโลกอย่างรถแข่งฟอร์มูลาวัน ที่เริ่มเห็นเค้าลางของหายนะได้ชัดขึ้นทุกขณะ
ในขณะที่ฝ่ายจัดการแข่งขันพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้การแข่งขันกลับมาดำเนินต่อไปได้ ซึ่งเป็นงานที่ยากและท้าทายอย่างยิ่ง บรรดาทีมรถแข่งเองก็พยายามหาทางรัดเข็มขัด เพื่อประคับประคองตัวให้รอดจากวิกฤต โดยล่าสุดทางด้านสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) อนุมัติแผนการลดค่าใช้จ่ายในการทำทีมรถแข่งลงต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี
การลดต้นทุน ซึ่งจะเริ่มในการแข่งขันฤดูกาลหน้า โดยงบประมาณในการทำทีม รวมถึงฝ่ายวิจัยและพัฒนาลดลงมาที่ 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากแผนเดิมที่จะลดลงเหลือ 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นจะลดลงอีกเหลือ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 และในปี 2023-225 จะเหลือแค่ 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทีมที่ได้รับผลกระทบสูงคือ บรรดาทีมขนาดใหญ่ที่จะต้องยอมเสียสละ เพื่อช่วยให้ทั้งวงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แม้สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือโอกาสในการแข่งขันที่จะลดลงจากเดิม รวมถึงการปลดคนออกอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ทีมเก่าแก่อย่างแม็คลาเรน เป็นหนึ่งในทีมที่ส่งสัญญาณแรกๆ ด้วยการสั่งพักงานสตาฟฟ์ หลังโรงงานของทีมปิดตัวในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บริษัทแม่จะมีการปลดคนจำนวน 1,200 คน โดย 70 คนในนั้นคือสตาฟฟ์ของทีมรถแข่ง
ขณะที่ทีม ‘ม้าลำพอง’ สคูเดอเรีย เฟอร์รารี ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เตรียมจะปลดคนในทีมรถแข่งด้วยเช่นกัน จากเดิมที่มีสตาฟฟ์กว่า 1,200 คน เพียงแต่ในกรณีของเฟอร์รารี สตาฟฟ์เหล่านี้จะถูกโยกไปทำงานส่วนอื่นของบริษัทแทน
เรียกว่าสถานการณ์ยังไม่ถึงกับ ‘หน้ามืด’ แต่อย่างใดสำหรับม้าลำพอง ขณะที่แม็คลาเรนเหนื่อยกว่า แต่ยังน่าจะเอาตัวรอดได้
แซ็ก บราวน์ ซีอีโอทีมแม็คลาเรน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ฟอร์มูลาวันชนะในวันนี้ นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับกีฬาของเรา รถแข่งฟอร์มูลาวันนั้นขาดเสถียรภาพทางการเงินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และการที่ละเลยไม่ทำอะไร จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของ F1 และทีมที่เข้าแข่งขัน ซึ่งมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหานี้ไปด้วยกันอย่างตั้งใจ”
บราวน์เชื่อว่า การจำกัดงบประมาณทำทีม นอกจากจะทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเงินของทีม และรักษาอนาคตของการแข่งขันแล้ว เรื่องนี้น่าจะทำให้การแข่งขันมีความน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เพราะจะไม่มีทีมใหญ่ที่ได้เปรียบในการแข่งขันเพราะรถที่ดีกว่าทีมอื่นมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ทีมที่น่าเป็นห่วงมากกว่าแม็คลาเรนและเฟอร์รารีในเวลานี้คือ วิลเลียมส์ ทีมเก่าแก่ที่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และประกาศแยกทางกับสปอนเซอร์ Rokit ด้วย
โดยผลประกอบการประจำปีล่าสุด (2019) พวกเขาขาดทุนจำนวน 13 ล้านปอนด์ ขณะที่ผลงานในสนามแข่งช่วง 2 ปีหลัง ก็เข้าขั้นเลวร้าย ในปีล่าสุดได้อันดับสุดท้ายในประเภททีมผู้สร้าง ซึ่งทีมพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนความยิ่งใหญ่ให้ได้ในปีนี้ด้วยรถแข่งใหม่ในรหัส FW43
ทว่า ด้วยสถานการณ์ของ F1 ที่สั่นคลอนอย่างหนัก ล่าสุด ทีมซึ่งเคยประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์การแข่งรถสูตรหนึ่ง นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1977 ประกาศว่า พวกเขาพร้อมสำหรับการก้าวเดินไปในทิศทางใหม่ๆ โดยนอกจากการพิจารณาเรื่องการหาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินมาให้คำแนะนำ เพื่อประเมินสถานะของทีม และประเมินโอกาสในการลงทุนร่วมกับผู้ลงทุนรายใหม่
อีกหนึ่งแนวทางที่พร้อมจะพิจารณาคือ การขายทีมเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่อนาคตของทีมที่เก่าแก่ทีมนี้ หรืออีกนัยคือ เซอร์แฟรงค์ วิลเลียมส์ เจ้าของทีม พร้อมที่จะส่งต่อสมบัติชิ้นนี้ให้แก่คนอื่น หากเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แคลร์ วิลเลียมส์ รองหัวหน้าทีม ยืนยันว่า สิ่งที่เซอร์แฟรงค์ ผู้เป็นพ่อ ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ความสำเร็จในอนาคตของทีม ธุรกิจ และเหล่าผู้คนที่ทำงานให้เขา เป็นลำดับแรก ขณะที่ข้อตกลงในการลดงบประมาณของทีม F1 ทำให้ทีมที่ไม่ใช่ ‘บิ๊กทรี’ ของวงการ น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนมากขึ้น จากโอกาสในการลุ้นความสำเร็จที่เปิดกว้าง
แต่แม้จะมีการยืนยันว่า ทีมยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินจ่ายตลอดปีนี้ แต่การขยับตัวครั้งนี้ของวิลเลียมส์ ก็เป็นสัญญาณที่น่าสนใจว่า ทีมรถแข่ง F1 กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างรุนแรงจากโควิด-19 โดยเฉพาะในปีนี้ที่จำนวนรายการแข่งขันลดลง
โดยล่าสุดคือ รายการดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ที่ประกาศยกเลิกการแข่งขันเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ยังน่าวิตก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี ที่จะได้มีการจัดการแข่งในแดนกังหันลม
หลังจากนี้น่าจับตามองว่า เราจะได้เห็นสัญญาณอันตรายเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ และดูเหมือนการที่ทุกทีมจะต้องเอาตัวรอดให้ได้ในวิกฤตครั้งนี้ ก็เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การลงไปวาดลวดลายในสนามแข่งเช่นเดียวกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/sport/formula1/52847040
- https://www.theguardian.com/sport/2020/may/29/williams-f1-team-open-negotiations-for-sale-amid-pandemic-pressure-motor-racing
- https://www.dailymail.co.uk/sport/sportsnews/article-8363097/Ferrari-cut-jobs-Formula-One-organisation-teams-agree-introduce-budget-cap.html
- https://www.theguardian.com/sport/2020/may/28/silverstone-set-to-host-back-to-back-f1-races-in-august
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
- ข่าวดีสำหรับแฟนๆ F1 คือ การแข่งที่สนามซิลเวอร์สโตนในประเทศอังกฤษ ซึ่งเดิมมีปัญหาจากกฎการกักตัว 14 วัน สำหรับทุกคนที่เดินทางเข้าสหราชอาณาจักร ตอนนี้น่าจะได้ชมการแข่งขันต่อเนื่องกัน 2 เรซ ในวันที่ 2 และ 9 สิงหาคม
- การแข่ง F1 ฤดูกาลนี้ไม่ต่างจากการแข่งขันกีฬาอื่น ที่จะไม่อนุญาตให้มีผู้ชมในสนามแข่งได้
- ทีมวิลเลียมส์เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ F1 โดยเคยครองวงการในช่วงยุค 80 และ 90 เคยมีนักขับคว้าแชมป์โลกได้ถึง 7 ครั้ง อลัน โจนส์, เคเค รอสเบิร์ก, เนลสัน พิเกต, ไนเจล แมนเซลล์, อแล็ง พรอสต์ และ เดมอน ฮิลล์ รวมถึงเคยคว้าแชมป์ประเภททีมผู้สร้างถึง 9 สมัย เป็นรองแค่เฟอร์รารี ที่ได้แชมป์ 16 สมัย เพียงทีมเดียว