×

รายงานผลการประชุม Fed เผยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการชะลอความเร็วของอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบหน้า

24.11.2022
  • LOADING...
ประชุม Fed

ในขณะที่บรรดาชาวอเมริกันเตรียมความพร้อมฉลองเทศกาลขอบคุณพระเจ้ากับครอบครัวท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ แต่เหล่านักลงทุนต่างเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหวของทางธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) ที่มีการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งล่าสุด ซึ่งจะบอกใบ้สัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 

 

รายงานระบุว่า Fed เปิดเผยรายงานในวันที่ 23 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายนตามเวลาไทย 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Fed ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นการขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก 

 

อย่างไรก็ตาม Jerome Powell ประธาน Fed ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า Fed อาจเริ่มชะลอการปรับขึ้นในไม่ช้า และรายงานการประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายหลายคนเห็นด้วยกับการประเมินของ Powell

 

คณะกรรมการจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่านโยบายการเงินของสหรัฐฯ มีความเข้มงวดเพียงพอเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะชะลอการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า 

 

แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนในตลาดตอบรับในเชิงบวก เห็นได้จากดัชนีหุ้นในวอลล์สตรีทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี Dow Jones พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุด หรือ 0.3%, S&P 500 พุ่งขึ้น 0.5% และ Nasdaq พุ่งขึ้นเกือบ 1%

 

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีสัญญาณในทางบวก แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในสหรัฐฯ และหลายประเทศทั่วโลกยังมีปัจจัยลบ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาที่ดินในหลายประเทศปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปสงค์ที่ลดลง 

 

โดยล่าสุดมีสัญญาณเตือนภัยล่าสุดเกิดขึ้นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่นักวิเคราะห์หลายคนต่างแสดงความกังวลว่า ราคาที่ดินที่ตกต่ำจะฉุดรั้งกำลังการบริโภค บวกกับการที่หลายบริษัทปลดคนงานจนทำให้มีคนตกงานมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเลวร้ายมากขึ้น 

 

รายงานระบุว่า ยอดขายบ้านในนิวซีแลนด์ในขณะนี้ลดลงไปแล้ว 35% แม้ว่าราคาจะถูกลงกว่าปีที่แล้วประมาณ 7.5% โดย Adam Slater หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Oxford Economics กล่าวว่า โดยรวมแล้วสถานการณ์ในปัจจุบันถือเป็นแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยที่น่ากังวลที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007-2008 โดยตลาดอยู่ระหว่างแนวโน้มที่จะลดลงเล็กน้อยและสูงขึ้นมากที่ระหว่าง 15-20%

 

ขณะเดียวกันแม้ว่าการปรับฐานของราคาจะไม่รุนแรง แต่การชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอาจส่งผลร้ายแรง เนื่องจากธุรกรรมที่อยู่อาศัยจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมในภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจด้วย 

 

ทั้งนี้ จากการศึกษาของ Oxford Economics ที่ติดตามราคาบ้านในอังกฤษ เยอรมนี สวีเดน ออสเตรเลีย และแคนาดา พบว่าราคาบ้านลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเศรษฐกิจขั้นสูง 18 ประเทศ โดยราคาลดลงประมาณ 7% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม

 

ขณะที่ราคาบ้านในสหรัฐฯ ซึ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่มากที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ก็ลดลงเช่นกัน โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ Goldman Sachs คาดว่าจะลดลงประมาณ 5-10% จากจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายน-มีนาคม ปี 2024

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising