ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ จะสูญเสียเงินทั้งหมด 5.41 แสนล้านดอลลาร์หากต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุด แต่ระดับเงินทุนในปัจจุบันยังมากพอที่จะรองรับผลจากการขาดทุนได้ ตามการทำ Stress Test ประจำปีที่จัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Fed ได้ให้คะแนนบรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น JPMorgan Chase และ Goldman Sachs ตามการเรียกร้องจากผู้บริหารและหน่วยงานกำกับดูแลของ Wall Street ว่า ธนาคารสามารถทนต่อการขาดทุนอย่างหนักได้มากน้อยเพียงใด
การทดสอบจะช่วยกำหนดว่าธนาคารต้องถือเงินทุนเท่าใดในอีก 1 ปีข้างหน้า ตราบใดที่ธนาคารมีคุณสมบัติตรงหรือเกินกว่าข้อกำหนด ธนาคารเหล่านี้จะไม่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดของ Fed ในเรื่องเงินทุนที่สามารถนำไปจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นและการซื้อหุ้นคืน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ความต้องการเงินทุนของสถาบัน เช่น Goldman, JPMorgan, Morgan Stanley และ Bank of America จะลดลง เพราะผลลัพธ์ จากการทดสอบเพิ่มความคาดหวังในการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นหรือการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นธนาคารเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% ในเวลาต่อมา
การทดสอบเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากวิกฤต Bank Run ในธนาคาร 3 แห่งของสหรัฐฯ ได้แก่ ธนาคาร Silicon Valley, Signature Bank และ First Republic ด้านธนาคารขนาดเล็กที่ได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนหลังเชื่อมโยงกับธนาคารที่ล่มสลายไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่รวมอยู่ในการทำ Stress Test
ไมเคิล บาร์ รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Fed กล่าวว่า ผลลัพธ์ในวันนี้ยืนยันว่า ระบบธนาคารของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและยืดหยุ่น
การทดสอบในปีนี้ธนาคารต่างๆ ต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถต้านทานต่อสถานการณ์ เช่น อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 10% ราคาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ดิ่งลง 40% ราคาบ้านลดลง 38% และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
จากการทดสอบธนาคาร 23 แห่ง พบว่า ธนาคารสาขาในสหรัฐฯ ของ Deutsche Bank ประสบปัญหาเงินทุนมากที่สุด ตามมาด้วย UBS Americas ขณะที่ระดับเงินทุนของ Goldman Sach ลดลงมากที่สุดในบรรดาธนาคารที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ตามมาด้วย Morgan Stanley
การทดสอบแสดงให้เห็นว่าธนาคารทุกแห่งที่ทดสอบ รวมถึง Bank of America, Citigroup, State Street และ Wells Fargo มีเงินทุนรับรองตามข้อกำหนดขั้นตํ่า แม้กรณีร้ายแรงที่สุดจะขาดทุน 5.41 แสนล้านดอลลาร์ก็ตาม ซึ่งแบ่งเป็นการขาดทุน 4.24 แสนล้านดอลลาร์จากการปล่อยสินเชื่อ และ 9.4 หมื่นล้านดอลลาร์จากการเทรดดิ้งและความเสียหายจากคู่สัญญา
ธนาคารใหญ่ที่สุด 8 แห่งจะประสบปัญหาขาดทุนจากการซื้อ-ขายเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ในสถานการณ์ที่อัตราเงินเฟ้อสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว นับเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ต่างไปจากแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน
รายชื่อธนาคารที่เข้าร่วมการทำ Stress Test ของ Fed นั้นอยู่ภายใต้การพิจารณาอย่างเข้มงวดหลังการล่มสลายของ SVB เนื่องจากมีความเสี่ยงจากระดับอัตราดอกเบี้ยที่มากเกินไป หลังจากการถือครองหุ้นกู้ที่ไม่มีการป้องกันความเสี่ยง
ในช่วงปลายฤดูร้อนนี้ Fed และหน่วยงานกำกับดูแลด้านธนาคารของสหรัฐฯ จะเผยแพร่มาตรฐานสากลใหม่สำหรับการคำนวณสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีชื่อว่ากฎ Basel III Endgame
นักวิเคราะห์และผู้บริหารธนาคารคาดการณ์ว่า กฎหมายใหม่นี้จะทำให้ธนาคารสหรัฐฯ สอดคล้องกับมาตรฐานสากลโลกมากขึ้น เพราะหมายความว่าธนาคารจะต้องถือหุ้น CET1 มากขึ้น
หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ คาดว่าจะขยายกฎใหม่ของ Basel ไปยังธนาคารขนาดกลางที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Silicon Valley Bank, Signature Bank และ First Republic
อ้างอิง: