หลังจากที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ประกาศเปิดตัวละครเวทีมิวสิคัลเรื่องใหม่ ‘แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล’ อย่างเป็นทางการ วินาทีที่เห็นคำว่า ‘แฟนจ๋า’ สารภาพตรงนี้เลยว่าเราคงไม่คิดถึงใครอื่นไกลไปได้นอกจาก ‘พี่เบิร์ด’ หรือ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ซูเปอร์สตาร์ที่สร้างความสุขผ่านเสียงเพลงให้แก่ผู้ฟังมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่จนถึงรุ่นลูก
หากย้อนความทรงจำกลับไปช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บทเพลงของ เบิร์ด ธงไชย ถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ทั้งผู้ใหญ่หรือเด็กมีร่วมกันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะยุคม้วนเทป แผ่นซีดี มาจนถึงการสตรีมมิง เพลงของเบิร์ด ธงไชย ก็นับเป็นส่วนประกอบในประสบการณ์ชีวิตที่เราต่างมีในรูปแบบต่างๆ กัน
แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล เป็นละครเวทีแบบ Jukebox Musicals นำบทเพลงที่ไม่เคยล้าสมัยของพี่เบิร์ด อาทิ เล่าสู่กันฟัง, แฟนจ๋า, ด้วยรักและผูกพัน, ไม่แข่งยิ่งแพ้, ถ่านไฟเก่า, บูมเมอแรง, Too Much So Much Very Much, ซ่อมได้, เหมือนเป็นคนอื่น, หมอกหรือควัน ฯลฯ มาร้อยเรียงใหม่ให้เกิดเป็นเรื่องราวอันแสนจะโรแมนติก เต็มไปด้วยความสนุก อบอุ่น และซาบซึ้ง เป็นการผูกเรื่องราวแบบเดียวกับละครเวทีเรื่อง ‘ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล’ ที่นำเอาบทเพลงของ บอย โกสิยพงษ์ มาถ่ายทอดเป็นละครเพลงและประสบความสำเร็จอย่างสูงไปแล้วในครั้งก่อน
เสน่ห์ของ Jukebox Musicals คือผู้ชมจะได้เห็นการนำเพลงไปตีความใหม่และเรียบเรียงทำนองให้เข้ากับบริบทเพื่อให้สอดคล้องไปกับเนื้อเรื่องมากขึ้น และใน แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล บทเพลงของพี่เบิร์ดก็ไม่ใช่แค่รับบทบาทหลักประกอบการร้องและเต้น แต่ในบางครั้งก็มีเรื่องที่แม้แต่เราเองก็คาดไม่ถึงอย่างการนำชื่อเพลงของพี่เบิร์ดมาเป็นบทพูด หรือการนำบทเพลงมาเป็นมุกตลกเสียเอง
แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล เล่าเรื่องของคู่รักคู่หนึ่งตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน คือ ‘ซี’ เด็กวัดผู้มองโลกในแง่ดีและสู้ชีวิต กับ ‘ทราย’ ลูกสาวผู้ว่าฯ สงขลาที่ย้ายตามพ่อมาทำงานชั่วคราว แม้การเจอกันครั้งแรกจะทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นคู่กัดกัน แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้จัก จึงค้นพบว่าต่างมีฝันที่อยากจะเป็นนักร้องเหมือนกัน การช่วยกันทำตามความฝันจึงก่อให้เกิดมิตรภาพสุดแสนจะซาบซึ้งขึ้น
จนถึงวันที่ทรายจะต้องแยกทางจากเพื่อนๆ ออกไปเดินตามเส้นทางความฝันคนเดียวที่กรุงเทพฯ แต่ถึงอย่างนั้น มิตรภาพ ความรัก และความผูกพันของซีและทรายไม่เคยจางหายไปจากใจของทั้งคู่เลยสักครั้ง ซียังคอยติดตามข่าวสารและเป็นกำลังใจสำคัญของทราย จนมิตรภาพตั้งแต่วัยเยาว์แปรผันเป็นความรักที่แสนจะโรแมนติกอย่างสมบูรณ์
เราจะได้เห็นทั้งนักร้องนักแสดงหลากหลายรุ่นยืนอยู่บนเวทีเดียวกัน เพื่อมาร่วมหวนคืนความทรงจำของผู้ชมทุกๆ วัย ทั้งนักแสดงระดับตำนานอย่าง นันทิดา แก้วบัวสาย และ ชรัส เฟื่องอารมย์ และนักแสดงหน้าใหม่เสียงดี หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท จากวง ETC, เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม หรือเหล่านักแสดงรุ่นเยาว์มากความสามารถ ตะวัน-พันวา พรหมเทพ, อ๊ะอาย-กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ และกลุ่มนักร้องนักแสดงที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพอีกมากมายที่จะมาร่วมกันถ่ายทอดบทเพลงของพี่เบิร์ด และเรื่องราวของ แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล ให้ผู้ชมทุกวัยได้ร่วมรับชม ภายใต้การกำกับโดย สันติ ต่อวิวรรธน์ และควบคุมการผลิตโดย บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ
จากรายชื่อทีมนักแสดง ทั้งนักแสดงหลักและนักแสดงรองก็พอจะเดาได้ว่าผลงานคงไม่หนีจากฝีมือที่สร้างไว้ และพอได้ดูจริงๆ ก็ต้องบอกว่าพวกเขาทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม จนทำให้เราคล้อยตามไปกับเรื่องราวและเชื่อว่าพวกเขาเป็นตัวละครที่ผ่านร้อนหนาวนั้นมาจริงๆ สำหรับอองซอมเบิล (Ensemble) ก็เป็นนักแสดงอีกกลุ่มที่สำคัญและทำให้ทุกๆ บทเพลงมีพลังขึ้นมา
สิ่งที่ทำให้ แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล ยิ่งดูยิ่งคิดถึงอดีตและทำให้อมยิ้มตามไปกับเรื่องราวบนเวทีคือ เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครใน 3 ยุค 3 วัย และการที่เราได้เห็นเสน่ห์ของแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะยุคสมัยของพ่อแม่ที่มีเสน่ห์มากๆ กับการสื่อสารในช่วงเวลาที่โซเชียลมีเดียยังมาไม่ถึง ทั้งการส่งจดหมายหากัน หมุนตู้โทรศัพท์สาธารณะ และการส่งความรู้สึกผ่านเพจเจอร์
และเหนือสิ่งอื่นใด บทเพลงของเบิร์ด ธงไชย มีความหมายเสมอในการให้กำลังใจผู้คน เรามักจะได้ยินหรือพบเจอกับตัวเองว่าเพลงนั้นเพลงนี้ของพี่เบิร์ดสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตได้ สำหรับละครเวทีเรื่องนี้ก็เช่นกัน หลายๆ ครั้งที่เพลงเหล่านั้นดังขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวละครที่พบแสงสว่างของความหวัง เราคนดูก็จะได้พบพลังบางอย่างที่ส่งต่อมาถึงได้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
- แฟนจ๋า เดอะ มิวสิคัล จัดแสดงทั้งหมด 18 รอบ ตั้งแต่ 15 สิงหาคม ถึง 16 กันยายน ที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและจองบัตรได้ที่ thaiticketmajor.com