×

เมื่อพยายามแค่ไหนก็ไม่เจอความสำเร็จ ผิดไหมที่จะยอมแพ้

20.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • เราไม่ชนะ แต่ไม่ได้แปลว่าเราแพ้ หมายถึงเราอาจจะไปไม่ถึงจุดที่เราคาดหวังไว้ แต่ไม่ได้แปลว่าความพยายามของเราสูญเปล่า ไม่ได้แปลว่าที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดไร้ค่า มันไม่เป็นดังที่หวัง แต่เราได้เรียนรู้ เราได้ประสบการณ์
  • ตัวเราเองนี่แหละ ที่จะรู้ตัวเองว่าเมื่อไรควรหยุด ไม่ผิดเลยที่เราจะเปลี่ยนแผนการชีวิตไปสู่เส้นทางใหม่ ไม่ได้แปลว่าเราห่วย ไม่ได้แปลว่าเราเสียเวลา เพราะเราคือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเอง

บางทีชีวิตก็เป็นเหมือนข้อสอบแบบนั้นครับ เราไม่รู้หรอกว่าตอบข้อไหนถูก และบางทีชอยส์ที่เรามองเห็นมันไม่ได้มีแค่ ก. ข. ค. ง.

Q: จริงหรือคะที่บอกว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ดิฉันพยายามมานานแล้วก็ยังไม่เจอกับความสำเร็จสักที บางทีงานที่ทำอยู่นี้อาจจะไม่ใช่ทางของดิฉันก็ได้ ผิดไหมคะถ้าจะยอมแพ้เสียตรงนี้

 

A: ที่บอกว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” จริงไหมผมไม่แน่ใจ แต่ผมมั่นใจว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ตรงนั้นแหละครับ ฮ่าๆ ไม่ได้จะกวนคุณนะครับ แต่จะบอกว่า ความสำเร็จเกิดจากความพยายามก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าเราพยายามแล้วจะไปสู่ความสำเร็จได้ตลอด ไม่ใช่ทุกความพยายามจะจบลงตรงที่เส้นชัยได้เสมอ มันไม่มีหลักประกันหรอกครับว่าพยายามแล้วจะประสบความสำเร็จได้ แต่ที่แน่ๆ ได้พยายามแล้วก็แปลว่าเราได้พยายามแล้วจริงๆ ผมถึงบอกว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ตรงนั้นแหละครับ มันอยู่กับคุณ เพียงแต่พยายามแล้วปลายทางจะมีความสำเร็จรอเราอยู่หรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ครับ

 

เขียนมาแบบนี้แล้วไม่ได้จะบอกว่างั้นไม่ต้องพยายามนะครับ แต่ให้รู้ว่ามันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่าพยายามแล้วจะประสบความสำเร็จแน่นอน มันมีโอกาสเป็นไปได้ และมีโอกาสที่เราจะไปไม่ถึงจุดที่คาดหวังเช่นกัน

 

แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับว่า ในทุกความพยายามมีบทเรียนอยู่ อย่างน้อยลองได้พยายามแล้ว คุณก็ได้รู้ว่าทำแบบไหนมันเวิร์ก ทำแบบไหนมันไม่เวิร์ก ซึ่งผมอยากบอกว่า การได้เรียนรู้ว่าทำแบบไหนแล้วไม่เวิร์กนี่มันโคตรจะเวิร์กสำหรับชีวิตเลยนะครับ มันเป็นประโยชน์กับชีวิตมาก ยิ่งเรารู้ว่าทำแบบไหนแล้วมันไม่เวิร์ก แปลว่าเราได้ความรู้ใหม่มาอีกหนึ่งความรู้แล้วนะครับ

 

คุยเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงตอนเป็นนักเรียนแล้วต้องทำข้อสอบเลข เคยไหมครับที่ไปเจอข้อสอบบางข้อที่เราไม่รู้คำตอบว่า x คืออะไร บางทีเราก็ต้องเดาเอาว่าจะตอบข้อไหนดี ผมใช้วิธีดูชอยส์ที่ข้อสอบมีให้มาแล้วประเมินว่าข้อไหนเป็นไปได้น้อยที่สุดก็ตัดชอยส์ข้อนั้นออก คือลองเอาชอยส์ที่มีอยู่มาลองแทนค่า x ดู ถ้าแทนแล้วไม่ใช่ก็ตัดชอยส์นั้นออก ตัดออกหนึ่งชอยส์ก็แปลว่าเราเข้าใกล้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น

 

บางทีชีวิตก็เป็นเหมือนข้อสอบแบบนั้นครับ เราไม่รู้หรอกว่าตอบข้อไหนถูก และบางทีชอยส์ที่เรามองเห็นมันไม่ได้มีแค่ ก. ข. ค. ง. แล้วล่ะ มันมีเยอะมาก เราใช้ชีวิตด้วยการทดลองว่าชอยส์แต่ละข้อพอเอามาแทนค่า x แล้วมันตอบสมการนั้นได้หรือเปล่า ชอยส์ข้อไหนลองดูแล้วไม่เวิร์ก อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าข้อนั้นไม่เวิร์ก ตัดชอยส์ออกไปได้อีกข้อ มันต้องมีที่ถูกสักข้อแหละ เพราะฉะนั้น ผมมองว่าที่พวกเรากำลังลองๆ ทำกันอยู่นี้แล้วเจอหนทางที่ไม่เวิร์กมันก็เป็นการตัดชอยส์นี่แหละครับ ไม่ได้แปลว่าเราตอบผิดนะครับ เราแค่กำลังทดลองเอาชอยส์ที่มีไปแทนค่า x อยู่ โจทย์มันยากอยู่ ขอใช้เวลาคิดหน่อยก็เท่านั้น แต่เดี๋ยวเราจะหา x เจอ หรือถ้าข้อนี้มันยากไป ข้ามไปทำข้ออื่นก่อนก็ได้นะครับ สุดท้ายเราทำคะแนนได้เหมือนกัน ข้อสอบมีหลายข้อ ฮ่าๆ

 

ถ้าลองทำวิธีหนึ่งแล้วไม่เป็นตามที่คาดหวัง คุณก็ได้รู้ว่าวิธีนี้มันไม่เวิร์ก ถ้ามันจะเวิร์ก มันต้องลองวิธีใหม่ ลองมันไปเรื่อยๆ เพราะเราไม่มีทางได้สิ่งที่เราไม่เคยได้มาด้วยวิธีการเดิมที่เราเคยทำ ทุกครั้งที่มันเวิร์กต้องกลับมาดูว่ามันเวิร์กเพราะปัจจัยอะไรบ้าง และทุกครั้งที่มันไม่เวิร์กมันเป็นเพราะอะไร หาให้เจอครับ

 

ลองกลับมาสำรวจตัวเองทุกครั้งที่ทำแล้วมันไม่เวิร์กว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง ถ้าเราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการลงมือทำ ผมไม่คิดว่านั่นคือความล้มเหลวนะครับ

 

เราไม่ชนะ แต่ไม่ได้แปลว่าเราแพ้ หมายถึงเราอาจจะไม่ไปถึงจุดที่เราคาดหวังไว้ แต่ไม่ได้แปลว่าความพยายามของเราสูญเปล่า ไม่ได้แปลว่าที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดไร้ค่า มันไม่เป็นดังที่หวัง แต่เราได้เรียนรู้ เราได้ประสบการณ์ นั่นแหละครับ เราไม่แพ้แล้ว

อยากให้คุณภูมิใจในตัวเองครับว่าคุณได้พยายามแล้ว และไม่ว่าความพยายามของคุณจะพาคุณไปสู่จุดไหนก็ตาม ก็ขอให้คุณภูมิใจกับผลที่ได้รับ

คำถามที่คุณอาจจะสงสัยก็คือ แล้วต้องลองนานแค่ไหนถึงจะรู้ว่ามันไม่เวิร์กหรอก ไม่ต้องพยายามแล้ว

 

ผมคิดว่าตัวเราเองนี่แหละครับที่จะรู้ตัวเองว่าเมื่อไรควรหยุด ไม่ผิดเลยครับที่เราจะเปลี่ยนแผนการชีวิตไปสู่เส้นทางใหม่ ไม่ได้แปลว่าเราห่วย ไม่ได้แปลว่าเราเสียเวลา เพราะเราคือคนที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเอง รับผิดชอบต่อการตัดสินใจของเรา เราคือคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และรู้สถานการณ์ดีที่สุด ผมคิดว่าไม่ผิดเลยครับถ้าคุณจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ สุดท้ายมันคือเส้นทางที่คุณเลือก ถ้าจะผิดก็แค่ “ผิดไปจากความคาดหวัง” แต่ไม่ได้แปลว่าคุณมีความผิดหรือทำเรื่องเลวร้าย

 

ผมไม่อยากให้ใช้คำว่า ‘ยอมแพ้’ เท่าไร แต่อยากให้ใช้คำว่า ‘เปลี่ยนแผน’ มากกว่า ก็ถ้าเส้นทางที่เราลองพยายามเดินทางอยู่มันไม่เวิร์กจริงๆ ไม่ได้แปลว่าเราจะเลิกเดินทางนะครับ เราแค่ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางใหม่ แค่ไปเส้นทางอื่น ไม่ได้แปลว่าหมดแล้วชีวิตนี้ถ้าไม่ได้เดินทางเส้นทางนี้ มีเส้นทางอีกเยอะ

 

ผมเชื่อนะครับว่า ต่อให้เส้นทางที่เราเดินจะไม่ได้พาไปสู่จุดหมายที่เราหวังไว้ แต่มันก็พาเราไปพบเจอสิ่งต่างๆ ให้เป็นประสบการณ์ชีวิต วันนี้เราอาจจะยังนึกไม่ออกว่า มันจะมีประโยชน์อะไรกับเรา บางทีเราอาจจะคิดว่าเสียเวลาชะมัดที่เลือกเดินเส้นทางนี้ แต่ในอนาคตข้างหน้า ประสบการณ์เหล่านี้อาจเป็นประโยชน์กับเราก็ได้ เอาว่าอย่างน้อยคุณก็มีประสบการณ์แล้วว่าเลือกทางเดินนี้แล้วเป็นอย่างไร คุณเคยได้เผชิญความผิดหวัง คุณเคยได้ลองลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจ คุณเคยได้ล้มลุกคลุกคลานไปกับมัน แต่ถ้าไม่ได้ลองก็จะไม่รู้เลย

 

ถ้าพยายามแล้วมันไม่ใช่ทางของเราจริงๆ ก็ไม่ต้องหมดความหวังครับ คุณอาจเป็นปลาที่พยายามจะปีนต้นไม้อยู่ ถ้าได้ไปอยู่ในที่ที่เป็นทางของคุณจริงๆ คุณก็จะเปล่งศักยภาพออกมาได้ เพียงแต่ตอนนี้คุณอาจจะกำลังลองพยายามปีนต้นไม้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้วยคุณอยากลองปีนต้นไม้ดูว่าเป็นอย่างไร หรือถูกจับมาให้ปีนต้นไม้ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่า ถ้าลองได้อยู่ในน้ำ ปลาตัวนี้ก็จะว่ายน้ำได้คล่องเลยล่ะครับ ไม่ผิดนะครับที่ปลาจะอยากปีนต้นไม้ เอาว่าถ้าลองปีนแล้วไม่ไหวก็ไม่ได้แปลว่าปลาตัวนี้ไม่มีคุณค่า มันแค่ปีนต้นไม้ไม่ได้ก็เท่านั้น

 

ตัดสินใจแทนคุณไม่ได้ว่าจะพยายามต่อไปบนเส้นทางเดิม หรือไปพยายามกันต่อบนเส้นทางใหม่ ให้คุณเป็นคนเลือกแหละดีแล้วครับ แต่ผมอยากบอกว่าทั้งสองทางมีอะไรให้คุณเรียนรู้หมด

 

ถ้าจะพยายามต่อไปบนเส้นทางเดิม คุณต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบใหม่ เพราะแสดงว่าวิธีการเดิมที่เคยใช้มันไม่เวิร์ก ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าทำแบบไหนบ้างแล้วมันไม่เวิร์ก ลองวิธีการใหม่ ถ้าจะไปพยายามกันต่อบนเส้นทางใหม่ อย่าลืมเอาบทเรียนจากเส้นทางเดิมมาใช้ และก็ลองผิดลองถูกกันไป เรียนรู้กันไป

 

เพื่อนผมคนหนึ่งเคยเล่าว่า ถ้าจะลองทำอะไรสักอย่าง อย่าแค่ไปถามคนที่ประสบความสำเร็จว่าเขาทำมันอย่างไร แต่ให้ไปคุยกับคนที่ทำแล้วไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ด้วยแล้วเราจะได้อะไรอีกเยอะ ผมว่านี่เป็นความคิดที่มีประโยชน์มากนะครับ  

 

อยากให้คุณภูมิใจในตัวเองครับว่าคุณได้พยายามแล้ว และไม่ว่าความพยายามของคุณจะพาคุณไปสู่จุดไหนก็ตาม ก็ขอให้คุณภูมิใจกับผลที่ได้รับ เพราะมันมาจากความพยายามของคุณ มันคือบทเรียนที่มีค่ามากๆ

 

อาจจะไม่ชนะ แต่เราก็ไม่แพ้

 

* ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising