ฟรานเซส เฮาเกน อดีตพนักงานบริษัท Facebook ที่ปล่อยข้อมูลภายในของบริษัทเกี่ยวกับการที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ส่งผลกระทบด้านลบต่อผู้ใช้ และเป็นเครื่องขยายผลกระทบจากข่าวปลอมในประเทศต่างๆ ที่มีความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยเธอเชื่อว่าบริษัทจะกลับมามีความเชื่อมั่นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หากผู้ก่อตั้งอย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
“ฉันคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่บริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นถ้าเขายังคงเป็นซีอีโออยู่” เฮาเกนกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์บนเวทีที่งานประชุมด้านเทคโนโลยี Web Summit ในลิสบอน “ฉันคิดว่า Facebook จะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อมีผู้นำที่เต็มใจทุ่มโฟกัสไปในเรื่องความปลอดภัย”
เฮาเกนกำลังเรียกร้องให้ซักเคอร์เบิร์กก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว เฮาเกนพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ที่เธอตัดสินใจนำเอกสารภายในออกมาเปิดเผย เพราะเธอใส่ใจและเชื่อใน Facebook และเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
เอกสารภายในที่เฮาเกนเป็นผู้นำออกมาเผยแพร่ เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ของบริษัทมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่คำพูดแสดงความเกลียดชังและข่าวปลอมถูกขยายให้ดังขึ้นบนแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีความไม่มั่นคงทางการเมือง และการที่กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ใช้แพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือในการประสานงาน เพื่อสร้างความรุนแรง
แอนดี สโตน โฆษกของ Facebook กล่าวกับ CNN ในแถลงการณ์เมื่อเดือนตุลาคมท่ีผ่านมาว่า “หลายๆ เรื่องในคำกล่าวหามีส่วนที่ไม่เป็นความจริงอยู่มาก ใช่ เราเป็นธุรกิจ และเราต้องทำกำไร แต่ประเด็นที่ว่าเราทำกำไรโดยแลกกับความปลอดภัยหรือความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน นั่นเป็นเรื่องโกหก”
ฝ่ายนิติบัญญัติได้ขอให้ซักเคอร์เบิร์กเป็นพยานต่อหน้าสภาคองเกรส รวมถึงผู้ที่สนับสนุนด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีบางคน ได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าซักเคอร์เบิร์กจะไม่ก้าวลงจากตำแหน่งในเร็วๆ นี้
ในทางกลับกัน ซักเคอร์เบิร์กได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อทุ่มโฟกัสของบริษัทไปกับการพัฒนาโลกเสมือน Metaverse ซึ่งอาจจะพลิกวิกฤตด้านการประชาสัมพันธ์ที่เกิดจากเฮาเกน และเอกสารต่างๆ ที่หลุดออกมาให้เป็นโอกาสได้
สำนักข่าวด้านเทคโนโลยี The Verge เข้าสัมภาษณ์ซักเคอร์เบิร์ก โดยถามว่าเขาจะยังคงเป็นซีอีโอของ Facebook หรือ Meta ในอีก 5 ปีข้างหน้าอยู่ไหม? ซักเคอร์เบิร์กกล่าวว่า “น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ผมยังไม่ได้กำหนดวันที่เจาะจงว่าผมจะอยู่ในตำแหน่งนี้นานแค่ไหน แต่ผมตื่นเต้นมากๆ กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ซึ่งจะเป็นบทต่อไปของบริษัท”
ซักเคอร์เบิร์กสามารถควบคุมทิศทางของบริษัทได้จากการถือหุ้นแบบ Dual Class ซึ่งเป็นหุ้นที่ทำให้เขามีเสียงส่วนใหญ่ในการดำเนินกิจการของบริษัท และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คณะกรรมการหรือผู้ถือหุ้นต่างๆ จะบังคับให้เขาออกจากตำแหน่งได้ และเขาก็ไม่เคยให้สัญญาณใดๆ ว่าเขาตั้งใจที่จะลงจากตำแหน่งในเร็วๆ นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเกือบ 21% ในปีนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว Facebook กล่าวว่า จะจ้าง 10,000 คนในสหภาพยุโรป เพื่อช่วยสร้าง Metaverse ซึ่งในระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฮาเกนวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของบริษัทที่จะลงทุนใน Metaverse ก่อนที่จะแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกิดจากแพลตฟอร์ม Facebook
“ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ Facebook เลือกการขยายตัวในพื้นที่ใหม่ๆ มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในสิ่งที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา” เฮาเกนกล่าว “เมื่อคุณอ่านเอกสารภายในต่างๆ ของบริษัท คุณจะเห็นว่ามันระบุอย่างชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีเงินทุนและทรัพยากรเพิ่มเติม เพื่อที่จะสร้างระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของแพลตฟอร์ม แต่แทนที่พวกเขาจะลงทุนเพื่อทำให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มของพวกเขามีความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน พวกเขากลับกำลังลงทุนในวิศวกร 10,000 คนในวิดีโอเกม ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลสิ้นดี”
โฆษกของ Meta โจ ออสบอร์น เรียกความคิดเห็นของเฮาเกนว่า “เป็นการเปรียบเทียบที่น่าขำมาก และเป็นทางเลือกที่ไม่เข้าท่าต่อบริษัทเลย ไม่ใช่ว่าบริษัทจะต้องเลือกระหว่างการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ กับการลงทุนเพื่อให้ผู้คนได้รับความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน แต่เราสามารถทำทั้ง 2 อย่างนี้พร้อมกันได้ และเราก็กำลังทำอย่างนั้นอยู่” ออสบอร์นกล่าวในแถลงการณ์ของ CNN Business
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่จาก Facebook เป็น ‘Meta’ สะท้อนความทะเยอทะยานที่ต้องการเป็นมากกว่า ‘บริษัทโซเชียลมีเดีย’ และมุ่งสู่ Metaverse
- ‘Metaverse’ กลยุทธ์กระจายรายได้ของ Facebook เพื่อลดการพึ่งพา Apple และ Google จากนโยบายการเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่เข้มงวดมากขึ้น
- มอง 4 ประเด็นสำคัญจากกรณีอดีตพนักงาน แฉ Facebook ทำร้ายเยาวชน ไม่สนใจผู้คน มุ่งแต่ผลกำไร
ภาพ: Chip Somodevilla/Getty Images
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2021/11/01/tech/mark-zuckerberg-frances-haugen/index.html
- https://www.cnbc.com/2021/11/01/facebook-whistleblower-haugen-says-zuckerberg-should-step-down-as-ceo.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP