คลื่นลมมรสุมลูกใหญ่ยังคงโหมกระหน่ำเข้าสู่ Facebook ด้วยรายได้ที่ลดลง การขาดทุนของ Metaverse แต่ถึงอย่างนั้น ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ก็ยังยืนยันเดินหน้าปั้น Metaverse ต่อ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ลดต้นทุน และราคาหุ้นที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2016
Meta Platforms ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/22 ที่ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 โดยรายงานรายรับ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงมากกว่า 4% จากปีที่แล้ว ผลงานที่ไม่เข้าเป้าทำให้ราคาหุ้นลดลง 5% เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2017 สรุปแล้วปีนี้ Meta สูญเสียมาร์เก็ตแคปไปแล้ว 5.5 แสนล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Metaverse เป็นเหตุ! ความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หายไปแล้ว 2.26 ล้านล้านบาท กลายเป็นคนที่รวยลดลงมากที่สุดในกลุ่มมหาเศรษฐีของโลก
- ผู้นำที่เลวร้าย! ผู้เชี่ยวชาญฮาร์วาร์ดวิเคราะห์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คือต้นเหตุที่ทำให้ Facebook หลงทาง
- มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวเป็นนัยว่า Apple คือ ‘คู่แข่งหลัก’ ของ Meta ในโลก Metaverse
ยักษ์โซเชียลมีเดียกำลังต่อสู้กับความท้าทายมากมาย รวมถึงสภาพเศรษฐกิจมหภาคที่ยากลำบาก การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งอย่าง TikTok และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการติดตามโฆษณาของ Apple ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาที่เป็นดั่งขุมเงินขุมทอง
แต่กระนั้น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Meta ก็ได้เผยมุมมองของเขาที่เชื่อว่า ทิศทางของธุรกิจกำลังไปได้ดี
รอยด่างพร้อยที่ทุกสายตาต่างจับจ้องในวันนี้คือ การเปลี่ยนแปลงที่ทะเยอทะยานและมีราคาแพง อย่างการขยับออกจากผลิตภัณฑ์โซเชียลมีเดียหลักๆ อย่าง Facebook และ Instagram ไปสู่ Metaverse ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ชีวิต ทำงาน และเล่นในประสบการณ์ออนไลน์ที่สมจริง
แผนก Reality Labs ของ Meta ซึ่งขับเคลื่อนเรื่องนี้มีรายได้ 285 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ลดลงเกือบ 49% จากปีที่แล้ว นี่เป็นเพราะยอดขายชุดหูฟังเสมือนจริง Quest 2 ที่ลดลง
สิ่งที่มาร์กมองว่าเป็นอนาคตนั้นกำลังต้องแลกมาด้วยเงินที่จ่ายออกไปเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะปีนี้ขาดทุนไปแล้ว 9 พันล้านดอลลาร์ เฉพาะไตรมาสที่ผ่านมาถลุงเงินไปกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อรวมกับการลงทุนในปีที่ผ่านมาอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ Metaverse ได้ล้างผลาญเงินลงทุนไปแล้วกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือสูงถึง 7 แสนล้านบาท
ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะ Facebook ประเมินว่า ตัวเลขขาดทุนในปี 2023 ของธุรกิจ Metaverse จะสูงขึ้นอีก แต่พวกเขาก็มองว่าคุ้มค่า เพราะจะเป็นฟันเฟืองหลังของการเติบโตในระยะยาว
“ฉันเข้าใจว่าหลายคนไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้” ซักเคอร์เบิร์กกล่าว แต่เขาบอกว่ามันจะเป็นความผิดพลาดที่ละทิ้งความพยายาม เพราะสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่ออนาคตของธุรกิจ ซึ่ง “บรรดาผู้ที่อดทนและลงทุนกับเราจะได้รับรางวัล”
ความมุ่งมั่นที่จะใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากใน Metaverse เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่ Altimeter Capital ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของ Facebook เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทในหัวข้อ Time to Get Fit เพื่อขอให้ Facebook จำกัดการใช้จ่ายด้าน Metaverse ไว้ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
“ตอนนี้ยังไม่มีใครซื้อชุดหูฟังเสมือนจริง ตราบใดที่พวกเขายังสูญเสียเงินใน Reality Labs นั่นจะทำให้นักลงทุนกังวล” นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence กล่าว
The Wall Street Journal รายงานเมื่อต้นเดือนว่า Horizon Worlds ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักในธุรกิจ Metaverse ของ Facebook มีผู้ใช้งานเพียง 2 แสนรายต่อเดือน ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายเดิมที่ต้องการมีผู้ใช้ 5 แสนรายภายในสิ้นปีนี้
Meta กล่าวว่าราคาโฆษณาเฉลี่ยลดลง 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากกฎใหม่ของ Apple ติดตามผู้ใช้และให้บริการโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้ยากขึ้น รายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเกือบ 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยโฆษณาคิดเป็น 98.2% ของรายได้ทั้งหมดของ Facebook
Meta ยังได้รายงานกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งแสดงถึงตัวเลขกำไรที่ลดลงติดต่อกัน 4 ไตรมาสติด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Meta ไม่เคยมีประสบการณ์ในทศวรรษที่ผ่านมา
รายงานของ The Wall Street Journal ชี้ด้วยว่า Meta กำลังต่อสู้กับตลาดโฆษณาดิจิทัลที่กำลังเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และปัจจัยอื่นๆ รวมถึงสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้การใช้จ่ายด้านโฆษณาชะลอตัว
ภาพ: Rich Fury / Getty Images
อ้างอิง: