วันนี้ (3 กรกฎาคม) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานในการประชุมสภากรรมการ ครั้งที่ 4/2566 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยมีวาระสำคัญเรื่องอนาคตของนายกสมาคมฯ ที่ตั้งใจลาออก หลังจากโดน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กดดันในที่ประชุม รวมถึงประเด็นเรื่อง 16 ทีมไทยลีกจะแยกออกมาตั้งบริษัทดูแลสิทธิประโยชน์เองนั้น
หลังจากการประชุม พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นตัวแทนแถลงหลังการประชุม โดยเปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้มี 2 วาระคือ ประเด็นแรกเรื่องไทยลีก 1 ที่จะแยกตัวไปบริหารสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง คล้ายกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น ยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้ เพราะสโมสรทั้ง 16 ทีมที่มีเสียงข้างมากกันมายังขาดความชัดเจนจะให้ใครเป็นเจ้าภาพ มีบริษัทนิติบุคคลอย่างไร ศึกษาข้อกฎหมายหรือยัง ขัดระเบียบอะไรบ้างไหม ดังนั้นสภากรรมการจึงมีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษารายละเอียด คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เพราะทุกคนรู้ปัญหากันดี มีรูปแบบต่างประเทศเป็นต้นแบบ ถ้าได้ข้อสรุปค่อยมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ท. อำนวยกล่าวต่อว่า เมื่อยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องบริหารในรูปแบบเดิมไปก่อน ก่อนจะแยกไปแบบชัดเจนต้องมีการจดทะเบียนนิติบุคคลก่อน ใครถือหุ้นเท่าไร จะดูแลผู้ตัดสินอย่างไร ยังมีรายละเอียดอีกเยอะที่ต้องเตรียมการ ซึ่งฤดูกาลนี้อาจจะไม่ทัน หรือไม่ทันสมาคมฯ ในสมัยนี้ด้วยซ้ำ
พล.ต.ท. อำนวยกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งวาระสำคัญคือเรื่องที่ พล.ต.อ. สมยศ มีเจตนาลาออกตามคำสั่ง พล.อ. ประวิตร ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้ฟุตบอลไทยโดนแบน และส่งผลกระทบต่อประเทศไทยที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟีฟ่าคองเกรสในเดือนพฤษภาคมปีหน้า รวมถึงฟุตบอลไทยจะไม่สามารถแข่งขันได้เลยในรายการระดับนานาชาติ
“ดังนั้นสภากรรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์สวนความต้องการของนายกฯ ไม่ให้ลาออก เพราะถ้าลาออกจะส่งความเสียหายใหญ่ ต่อให้นายกฯ จะอ้างว่าไม่ได้ทำตามคำสั่งแล้ว แต่ตอนนี้ข่าวมันออกมาชัดเจนจากที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ คำพูดมันคืออาวุธ แทรกแซงไม่แทรกแซงก็ไปฟังดู แต่พอพูดปุ๊บนายกฯ ลาออกปั๊บ มันแปลว่าเป็นเหตุเช่นนั้นหรือไม่ ซึ่งทางสภากรรมการจึงยับยั้งไม่ให้ลาออก ให้ไปหมดตามวาระเดิมคือ 11 กุมภาพันธ์นี้”
พล.ต.ท. อำนวยกล่าวต่อว่า ตอนนี้เหมือนทางฟีฟ่ากำลังรอดูเชิงอยู่ ในเมื่อการลาออกไม่สำเร็จ การแทรกแซงยังไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้านายกฯ ลาออกแล้วฟีฟ่าจึงจะมาทันที แต่เชื่อว่าเมื่อความผิดไม่สำเร็จ ฟีฟ่าก็จะไม่ลงโทษประเทศไทย
จากนั้นมีการถามว่าจะป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงอย่างไรได้บ้าง พล.ต.ท. อำนวยกล่าวว่า ต้องไปบอกฝ่ายการเมืองอย่ามาแทรกแซงสิ ไม่ใช่ให้สมาคมฯ ป้องกัน ผู้มีอำนาจ กระทรวง หรือ กกท. ต้องรู้ว่าเราเป็นสมาชิกฟีฟ่า มีหน่วยงานกลางดูแลตามสากล ไม่ใช่ว่าเป็นการเมืองใหญ่แล้วจะมาบังคับบัญชาสมาคมนั้นนี้ได้
“เรื่องนี้เกิดก็ดี รัฐบาลต่อไปจะได้รู้ว่าสมาคมฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ท่านเท่านั้น เรายังมีสหพันธ์ที่ดูแลอีก เราต้องทำตามสหพันธ์เช่นกัน เราเป็นสมาชิกฟีฟ่าก็ต้องทำภายใต้กฎเขา ต้องเข้าใจกฎของฟีฟ่าด้วย” โฆษกลูกหนังไทยกล่าว