Oliver Burkeman นักวิจัยด้านการจัดการเวลา เผยว่า เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทำงาน ที่หลายคนยึดถือ เช่น การลดสิ่งรบกวน การหมกมุ่นกับเช็กลิสต์ หรือการเคลียร์พื้นที่ทำงาน อาจไม่ได้ช่วยให้คุณควบคุมเวลาและจัดการทุกอย่างได้อย่างที่คิด
เขาเสนอแนวคิดที่แตกต่างออกไปคือ ‘การยอมรับข้อจำกัด’ แทนที่จะพยายามควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ
ยอมรับความจริงเมื่อคุณมีภาระมากเกินไป
เมื่อคุณมีงานล้นมือ ทั้งจากที่ทำงานและที่บ้าน รวมถึงการดูแลสุขภาพกาย ใจ และสังคมของตัวเอง การทำทุกอย่างให้เสร็จทันเวลาเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น แทนที่จะโทษตัวเอง ลอง ‘ยอมรับข้อจำกัด’ ของตัวเองดู
Burkeman อธิบายว่า การ ‘ยอมรับ’ ไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้หรือลดมาตรฐาน แต่เป็นการเข้าใจว่าทุกอย่างมีข้อแลกเปลี่ยนและมีต้นทุนค่าเสียโอกาส เมื่อเราเลือกที่จะทำบางสิ่ง เราต้องยอมที่จะไม่ทำบางสิ่ง ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกหนักใจเมื่อมีงานมากมายที่ต้องทำ
เช่น ถ้าคุณมีโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องใช้เวลามากจนกระทบกับเวลานัดดื่มกาแฟกับเพื่อนร่วมงาน หรือคุณรับงานเพิ่มตลอดเวลาเพื่อให้เจ้านายเห็นคุณค่าของคุณ ในที่สุดคุณอาจต้องยอมรับว่าคุณต้องเลื่อนการนัดพบกับเพื่อน หรือหยุดรับงานเพิ่ม แม้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้คุณรู้สึกผิด แต่คุณก็ไม่ได้เป็นเพื่อนหรือพนักงานที่แย่ลงเพราะเรื่องนี้
“ทุกครั้งที่เราเลือกที่จะทำบางสิ่ง เราก็กำลังเลือกที่จะไม่ทำบางสิ่ง ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกหนักใจ เมื่อเรามีสิ่งที่ต้องทำมากมาย” Burkeman กล่าว
ความรู้สึกหนักใจนี้เป็นเรื่องจริงสำหรับคนทำงานจำนวนมาก ผลสำรวจพบว่า 47% ของพนักงานรู้สึกเครียดหรือหนักใจกับงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในงานและภาวะหมดไฟ
ปลดปล่อยตัวเองจาก ‘ความคาดหวังที่ไม่สมจริง’
Burkeman ซึ่งเคยเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับการจัดการเวลาและการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ The Guardian มานานหลายปี กล่าวว่า เขาต้องลองผิดลองถูกกับเคล็ดลับต่างๆ มากมาย กว่าจะตระหนักว่า “บางทีปัญหาอาจอยู่ที่…ความพยายามที่จะควบคุมชีวิตให้ไร้ที่ติ”
เขาแนะนำว่า แทนที่จะต่อต้านความเป็นจริง ลองยอมรับมันดู
ความรู้สึกด้านลบมักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณผูกความมั่นใจในตัวเองไว้กับเป้าหมายการจัดการเวลาที่ไม่สมจริง เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ให้โฟกัสที่สิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด และปรับเปลี่ยนรายการสิ่งที่ต้องทำของคุณ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการละทิ้งงานบางอย่างที่ไม่สำคัญไปเลยก็ตาม เพราะเราต้องไม่พยายามทำ “300 อย่างในเวลาเดียวกัน”
ที่สุดแล้วการจัดการเวลาไม่ใช่การพยายามควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ แต่เป็นการยอมรับข้อจำกัดของตัวเอง และเลือกที่จะทำสิ่งที่สำคัญที่สุดให้ดีที่สุด การปลดปล่อยตัวเองจากความคาดหวังที่ไม่สมจริงและการขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น จะช่วยให้คุณสร้างชีวิตที่มีความสุขและความหมายได้อย่างแท้จริง
อ้างอิง: