บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร สนับสนุนแผนฟื้นฟูกาซาของโลกอาหรับที่มีมูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.78 ล้านล้านบาท) เพื่อพัฒนาฉนวนกาซาและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์ในกาซา
แผนฟื้นฟูดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยจะเริ่มซ่อมแซมฟื้นฟูความเสียหาย รวมถึงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงการสร้างศูนย์อุตสาหกรรม ท่าเรือ และสนามบินภายในกาซาในช่วง 2 ระยะแรก ก่อนที่จะจัดการและติดตามกิจกรรมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในช่วงระยะที่ 3 โดยบรรดารัฐมนตรียุโรปต่างมองว่า แผนการนี้ที่ได้รับการเสนอขึ้นภายในที่ประชุมสุดยอดที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และอาจผลักดันได้ภายใน 5 ปี
โดยอียิปต์ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เสนอแผนดังกล่าวต่อทั้งตัวแทนปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาส ขณะที่บรรดารัฐมนตรียุโรปเน้นย้ำจุดยืนว่า พวกเขาพร้อมที่จะทำงานร่วมกันตามแนวทางของอาหรับและสนับสนุนบทบาทสำคัญของทางการปาเลสไตน์ ทั้งยังระบุว่ากลุ่มฮามาสจะต้องไม่ปกครองฉนวนกาซาหรือเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี และรัฐบาลอิสราเอล คัดค้านแผนดังกล่าว โดยทรัมป์เสนอที่จะให้สหรัฐฯ ยึดครองกาซา และพัฒนากาซาให้กลายเป็นริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง พร้อมเสนอให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่น ซึ่งแผนการนี้ของสหรัฐฯ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ติดต่อขอเจรจากับกลุ่มฮามาสโดยตรง เพื่อช่วยเหลือกลุ่มตัวประกันที่กลุ่มฮามาสยังควบคุมตัวเอาไว้ตั้งแต่เหตุการณ์โจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023
แฟ้มภาพ: Amr Abdallah Dalsh / Reuters
อ้างอิง:
