รู้ตัวอีกทีก็ใกล้ถึงสิ้นปีกันอีกรอบสำหรับปี 2019 เช่นเดียวกับวงการฟุตบอลที่เหมือนจะเปิดฉากฤดูกาลใหม่ได้ไม่นานก็เดินทางเข้าสู่ช่วงครึ่งทางของฤดูกาลกันแล้ว
THE STANDARD ได้รวบรวมตารางคะแนนของ 4 ลีกฟุตบอลยักษ์ใหญ่แห่งทวีปยุโรป ช่วงครึ่งทางของการแข่งขันเกมลีกมาให้ชมกันว่า ก่อนปฏิทินจะผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ปี 2020 สถานการณ์แต่ละลีกจะเข้มข้นแค่ไหน และใครยึดหัวตารางคะแนนกันอยู่บ้าง
เป็นอีกฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สำหรับช่วงครึ่งทางของการแข่งขันฟุตบอลลีก หลังจากลงแข่ง 18 เกม ชนะถึง 17 นัด และเสมอเพียง 1 นัด ยังไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลยในตารางพรีเมียร์ลีก
ขณะที่ทีมอันดับ 2 อย่างเลสเตอร์ ซิตี้ ที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าน่าจะเป็นทีมที่ต่อกรกับจ่าฝูงได้ดีที่สุด ยังต้องพ่ายให้กับทัพหงส์แดงมาแบบสดๆ ร้อนๆ ในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดียม คืนบ็อกซิ่งเดย์ที่ผ่านมา ส่วนอันดับ 3 อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ปีนี้ดูแผ่วไปเยอะเมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ยังคงต้องทำงานอย่างหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า หากยังต้องการป้องกันแชมป์ลีกให้ได้อีกครั้ง
ส่วนอันดับที่ 4-5 สองทีมจากลอนดอนอย่างเชลซีและสเปอร์สอาจต้องยกธงขาวในฐานะทีมลุ้นคั่วแชมป์ลีกเป็นที่เรียบร้อย เพราะตัวคะแนนที่ห่างไกลจ่าฝูงร่วม 20 คะแนน แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าความสนุกจะจบลงเพียงเท่านี้ หากแต่พื้นที่แชมเปียนส์ลีก (อันดับที่ 4 ของตาราง) ยังมีอีกหลายทีมเบนสายตามาโฟกัสอันดับนี้พอสมควร ซึ่งคาดว่าจะมีการขับเคี่ยวกันแย่งท็อปโฟร์จนนัดสุดท้ายของฤดูกาลเลยทีเดียว
สำหรับลีกบุนเดสลีกา เยอรมนี ในฤดูกาลนี้น่าจะเป็นเพียงลีกเดียวที่นักวิเคราะห์ฟุตบอลหลายคนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ’ กับลีกเมืองเบียร์แห่งนี้ เนื่องจากผ่านมาครึ่งทาง ทีมอันดับที่ 1-5 มีช่องว่างคะแนนห่างกันเพียง 7 แต้มเท่านั้น!!
โดยทีมที่เป็นม้ามืดตั้งแต่ฤดูกาลก่อนอย่างแอร์เบ ไลป์ซิก เริ่มมาแผลงฤทธิ์เดชแบบจริงจังอีกครั้งในฤดูกาลนี้ พร้อมขึ้นแท่นยืนหนึ่งบนหัวตารางของลีกชนิดที่ได้ใจแฟนบอลสายเชียร์ทีมรองอยู่พอสมควร เช่นเดียวกันโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่แอบเร่งทำผลงานดีอยู่เป็นระยะจนส่งตัวเองขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของตารางได้อย่างน่าสนใจ
ส่วนอันดับที่ 3 ของลีกก็ไม่ใช่ทีมอื่นทีมไกล หากแต่เป็นแชมป์เก่าอย่าง ‘เสือใต้’ บาเยิร์น มิวนิก ที่เปิดฤดูกาลนี้ได้อย่างทุลักทุเล แต่การเปลี่ยนโค้ชจาก นิโก โควัช เป็น ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค แม้จะสะดุดบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ดูเหมือนสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ แถมกองหน้าของทีมอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ได้ระเบิดฟอร์มถลุงตาข่ายไปแล้ว 19 ประตู น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีพอจะบอกว่าเสือใต้กำลังกลับมาอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ได้อีกครั้งจากช่องว่างเพียง 4 คะแนน
ขณะที่อันดับ 4-5 คือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และชาลเก้ 04 มี 30 คะแนนเท่ากัน แน่นอนว่ายังอยู่ในเส้นทางคั่วแชมป์ลีกเสมอ เพียงแต่ทั้งสองทีมต้องเร่งกระตุ้นลูกทีมเค้นฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้ก่อนลีกกลับมาแข่งช่วงปลายเดือนมกราคม 2020 และที่สำคัญคือต้องรักษานักเตะระดับแถวหน้าของทีมไว้ให้ได้ โดยเฉพาะทัพเสือเหลือง ล่าสุดนักเตะคนสำคัญอย่าง จาดอน ซานโช ที่กำลังเนื้อหอมเป็นที่จับจ้องของหลายทีมใหญ่ เช่น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี ซึ่งหากเสียไปในช่วงตลาดฤดูหนาวที่จะถึงนี้ เชื่อว่าการลุ้นแชมป์จะลำบากขึ้นอย่างแน่นอน
น่าจะเป็นฤดูกาลที่มีความน่าสนใจในรอบหลายปีพอสมควร สำหรับลีกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี หลังจากที่แฟนบอลทั่วโลกต้องเห็นภาพทัพ ‘ม้าลาย’ ยูเวนตุส ชูถ้วยแชมป์ลีกเป็นเวลานานกว่า 8 ปีติดต่อกัน
ทว่าเปิดฤดูกาล 2019/20 มาไม่นาน หนึ่งในทีมยักษ์หลับอย่างอินเตอร์ มิลาน ในมือของ อันโตนิโอ คอนเต ก็เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์เขย่าขาเก้าอี้แชมป์เก่าเสียแล้ว หลังผ่านครึ่งทาง ทั้งอินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส ต่างมีคะแนนเท่ากันที่ 42 คะแนน แต่ที่พลพรรคเนรัซซูรีอยู่ที่หนึ่งเหนือยูเวนตุส เพราะลูกได้เสียที่ดีกว่า 8 ประตูเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้บนสนามหญ้าเพื่อแย่งความเป็นหนึ่งของลีกอิตาลีไม่ได้มีเพียงแค่สองทีมข้างต้น หากแต่ยังมีทีมอันดับ 3 อย่างลาซิโอ ผู้สร้างแผลสดให้กับยูเวนตุสด้วยการเอาชนะไป 3-1 พร้อมคว้าแชมป์อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ ไปต่อหน้าต่อตาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีช่องว่างจากที่ 1 เพียง 6 คะแนน
ขณะที่อันดับ 4 และ 5 อย่างโรมาและอตาลันตา ที่ดูเผินๆ จะสังเกตว่าคะแนนยังไม่ห่างมาก และยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์กับ 3 ทีมบนตลอดเวลา เพียงแต่ทั้งสองทีมต้องเหนื่อยพอสมควรเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอจะเป็นแชมป์ลีก ซึ่งนั่นจำเป็นต้องให้ทั้งสองทีมเค้นฟอร์มเก่งออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
แม้จะเป็นฤดูกาลที่ไม่ได้หวือหวามากนักหากเทียบกับลีกอื่นในยุโรปด้วยกัน แต่สถานะการขับเคี่ยวตำแหน่งแชมป์ลีกก็ยังไม่สามารถละสายตาได้ เพราะอันดับที่ 1-5 มีแต้มห่าง 8 คะแนนเท่านั้น
เป็นอีกครั้งที่หัวตาราง 2 อันดับแรกยังคงเป็นชื่อของบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด โดยปัจจุบันมีคะแนนห่างเพียง 2 คะแนน แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้บ่อยครั้งคือการที่แฟนบอลมักจะเห็นภาพทั้งสองทีมเมื่อลงสนาม ถ้าได้เล่นถล่มก็จะถล่มแบบกระจุยกระจาย แต่หากคืนไหนจะเสมอก็เสมอทำแต้มหล่นกันอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะกับขุนพลราชันชุดขาวที่ทำแต้มหล่นจากการเสมอไปแล้ว 7 เกม จากการลงเล่น 18 นัด
ส่วนอันดับ 3 อย่างเซบียา อันดับ 4 แอตเลติโก มาดริด และอันดับ 5 เรอัล โซเซียดาด แม้เทียบตามตารางคะแนนอาจจะดูมีความหวังลุ้นแชมป์กับสองยักษ์ของลีก แต่ความไม่สม่ำเสมอในการเล่นตลอดครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาของทั้ง 3 ทีมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องเหนื่อยกับการทำการบ้านพอสมควรในช่วงพักเบรกฤดูหนาว หากยังหวังที่จะเก็บคะแนนขึ้นไปเบียดสองทีมหัวตาราง
เพราะหากการแข่งขันเกมลีกเป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นอีกครั้งที่แฟนบอลมองว่าลาลีกา สเปน ฤดูกาลนี้เป็นการต่อสู้ของสองยอดฝีมือแดนกระทิงดุอย่างบาร์เซโลนากับเรอัล มาดริด เท่านั้น
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร