อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของกลุ่มสหภาพยุโรปหรือ EU ในเดือนธันวาคมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5%YoY ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นการเร่งตัวต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนที่เงินเฟ้อเพิ่งจะปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติไปที่ 4.9%YoY
การเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อหลายเดือนติดต่อกันใน EU ทำให้หลายฝ่ายเริ่มแสดงความกังวลและตั้งคำถามถึงธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ว่าควรใช้นโยบายการเงินที่เข้มข้นขึ้นเข้ามาดูแลปัญหาหรือไม่
ในเดือนที่ผ่านมา ECB ได้ประกาศแผนการลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าผ่านคลายนโยบายทางการเงินต่อไป
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก Capital Economics คาดว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่ม EU ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาพลังงานมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงในปี 2022 นี้ ตามทิศทางราคาพลังงานที่เริ่มปรับตัวลดลง
ล่าสุด ECB ได้เปิดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปของเดือนธันวาคมในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ โดยคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะลดลงไปที่ 3.2%, 1.8% และ 1.8% ในปี 2022, 2023 และ 2024 ตามลำดับ
ถึงกระนั้นนักเศรษฐศาสตร์หลายรายก็ยังมองว่าเงินเฟ้อจะยังเป็นหนึ่งในความเสี่ยงใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้
“หากเงินเฟ้อของกลุ่ม EU ยังเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ECB อาจถูกกดดันให้ต้องดำเนินมาตรการบางอย่างเพื่อเบรกภาวะดังกล่าว” นักวิเคราะห์จากธนาคาร Berenberg ระบุ พร้อมคาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของ ECB จะเริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP