บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EURO ในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสวนทางกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งหลักๆ มาจากโชว์รูมปัจจุบันที่มีอยู่ 5 แห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย Euro Creations ที่ทองหล่อ, Natuzzi Italia ที่สยามพารากอน เป็นต้น ซึ่งรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มลูกค้าธุรกิจ
สะท้อนผ่านผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 2566 ที่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% และมีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ขณะเดียวกัน EURO สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47% เท่ากับปีก่อน
และเมื่อย้อนดูผลการดำเนินงานในช่วงที่เศรษฐกิจไทยรวมถึงเศรษฐกิจโลกอยู่ในความบอบช้ำจากโควิด-19 ผลประกอบการของ EURO ก็เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2563-2564 นั้นรายได้ของ EURO ขยายตัว 6.81% หรือมีรายได้เพิ่มจาก 776.6 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 829.5 ล้านบาทในปี 2564 ขณะที่ GDP ประเทศไทยในปี 2563 นั้น -6.1% และขยายตัวเพียง 1.5% ในปี 2564
ผลการดำเนินงานของ EURO สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจที่ยังคงเดิม และยังไม่ได้มุ่งเน้นการขยายสาขาใหม่หรือการบุกน่านน้ำใหม่ๆ โดยกำไรสุทธิของ EURO เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง จนเข้าสู่ปี 2565 กำไรสุทธิขยายตัวถึง 24.50% จนล่าสุดปี 2566 กำไรสุทธิของ EURO เติบโต 20% ตัวเลขนี้ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจลักชัวรีไลฟ์สไตล์ของ EURO ได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดสารจากผู้บริหารระดับสูงระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 จะเติบโตทำ New High ซึ่งจะมาจากการเปิดโชว์รูมใหม่ที่ภูเก็ตเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อยและโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงขยายตลาดสู่จังหวัดอื่นๆ และทองหล่อซอย 5 ในไตรมาส 2/67
