×

ยูโร 2020: วันเปิดสนามศึกชิงแชมป์ยุโรป เมื่ออิตาลีเล่นในบ้านแต่ดันไปเยือนตุรกี!

โดย THE STANDARD TEAM
11.06.2021
  • LOADING...
ยูโร 2020: วันเปิดสนามศึกชิงแชมป์ยุโรป เมื่ออิตาลีเล่นในบ้านแต่ดันไปเยือนตุรกี!

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • ยูโร 2020 จะเปิดสนามในสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยการแสดงในพิธีเปิดจะเป็นคอนเสิร์ตแบบเวอร์ชวลจากศิลปินที่ร้องเพลงประจำการแข่งขัน
  • มาร์ติน แกร์ริกซ์ กับ โบโน และ ดิเอดจ์ แห่งวง U2 เป็นสามศิลปินที่ช่วยกันรังสรรค์เพลงประจำการแข่งขันในคราวนี้ที่มีชื่อว่า We are the People
  • อิตาลีมีชื่อลงสนามในฐานะทีมเยือนก็จริง แต่พวกเขาจะได้เล่นในสนามที่อยู่ในเมืองหลวงของประเทศตัวเอง จึงไม่ต่างอะไรกับการ ‘เยือนทิพย์’

ยูโร 2020 จะเปิดฉากขึ้นในค่ำคืนนี้ และในโค้งสุดท้ายที่แทบจะเหมือนการทดเวลาบาดเจ็บนั่นเอง แฟนบอลชาวไทยก็ได้รับชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดจากเครือข่ายของกรมประชาสัมพันธ์อย่าง NBT ทำให้แฟนบอลได้ดูเกมกันตั้งแต่วันแรกของการแข่งขัน และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจในวันแรก

 

 

ยูโร 2020 กับการแสดงเปิดการแข่งขันทิพย์

เป็นธรรมดาของฟุตบอลหรือกีฬารายการใหญ่ๆ ที่จะมีพิธีเปิดก่อนการแข่งขันนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ และในศึกยูโร 2020 ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพียงแต่ว่าด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้แฟนบอลไม่สามารถเข้ามาในสนามได้อย่างเต็มความจุ โดยนับเฉพาะที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม นั้นจะรองรับแฟนบอลได้ราว 25% ของความจุสนามจำนวน 72,000 ที่นั่ง ซึ่งหมายความว่าจะมีแฟนบอลเข้ามาร่วมพิธีเปิดและชมเกมเปิดสนามได้เพียง 18,000 คนเท่านั้น

 

เมื่อเป็นดังนั้น สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จึงหาทางในการเปิดการแข่งขันให้เหมาะสมกับสถานการณ์และควบคุมได้มากกว่า นั่นคือการแสดงแบบเสมือนจริงโดยอาศัยเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย ซึ่งทางยูฟ่าได้ใช้แผนการนี้และประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างงดงามในช่วงก่อนเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศที่ผ่านมา กับการแสดงของมาร์ชเมลโล

 

พิธีเปิดในยูโร 2020 จะมี มาร์ติน แกร์ริกซ์ ดีเจ และโปรดิวเซอร์อัจฉริยะ พร้อมกับ โบโน และ ดิเอดจ์ จากวง U2 ร่วมกันทำการแสดง โดยทั้งหมดยังเป็นศิลปินที่ร่วมกันทำเพลง We are the People ซึ่งเป็นเพลงประจำการแข่งขัน ยูโร 2020 ครั้งนี้ด้วย

 

สำหรับการแสดงเสมือนจริงในคราวนี้ถ่ายทำกันในสองสถานที่ โดยหลักๆ จะอยู่ในสตูดิโอโมชัน-คอนโทรล ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และอีกส่วนถ่ายทำกันใน สตาดิโอ โอลิมปิโก เพื่อให้ได้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมของสนามจริงที่จะใช้ในพิธีเปิดด้วย

 

บูรัค ยิลมาซ หัวหอกพระกาฬทีมชาติตุรกี

 

ตุรกี เจ้าบ้านทิพย์

 

แม้ในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์จะไม่มีเจ้าบ้านหรือทีมเยือนเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ในการแข่งขันจะยังมีสิ่งที่เรียกว่าสิทธิ์เสมือนเป็นเจ้าบ้านอยู่ สำหรับทีมที่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้านนี้จะมีโอกาสได้เลือกชุดแข่ง (ในกรณีที่ชุดแข่งสีเหมือนกันก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ว่าจะใส่ชุดเหย้าหรือชุดเยือน) และตุรกีก็ได้สิทธิ์นั้นในเกมเปิดสนามของฟุตบอลยูโรในครั้งนี้ แต่มันออกจะแปลกไปสักหน่อยที่แฟนบอลจำนวน 18,000 คนในสนามที่กรุงโรม กลับเป็นแฟนบอลที่มีสิทธิ์เสมือนทีมเยือนในเกมนี้

 

ถึงจะเป็นเจ้าบ้านทิพย์ แต่ตุรกีก็มีฝีมือเป็นของจริงไม่ใช่ของทิพย์ พวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาด้วยการเป็นที่ 2 ของกลุ่ม H และมีสถิติการเสียประตูน้อยที่สุดในรอบคัดเลือกเพียง 3 ประตูจาก 10 นัด ซึ่งน้อยที่สุดร่วมกับเบลเยียม และยังเป็นทีมที่ไม่แพ้ต่อฝรั่งเศสในการเจอกับทั้งเหย้าและเยือน โดยเก็บไปได้ถึง 4 คะแนน ซึ่งนั่นน่าจะแสดงให้เห็นได้ว่าพวกเขาแกร่งแค่ไหน

 

ด้วยปรัชญา ‘ไม่ได้ก็ไม่เสีย’ ของโค้ช เซนอล กูเนส ทำให้แนวรับของตุรกีชุดนี้ที่คู่เซ็นเตอร์อย่าง คักลาร์ โซยุนชู จากเลสเตอร์ ซิตี้ คู่กับ เมริห์ เดมิราล แห่งยูเวนตุส กลายเป็นคู่สุดแกร่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะเห็นทีม ‘ไก่งวง’ มาเปิดเกมรับยันอิตาลีเป็นหลัก โดยแนวรุกนั้นจะฝากความหวังไว้กับเสือเฒ่าวัย 35 ปีจากลีลล์ อย่าง บูรัค ยิลมาซ โดยจะมี ฮาคาน ซัลฮาโนกลู เพลย์เมกเกอร์จากเอซี มิลาน คอยให้การสนับสนุน และอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในเกมนี้ด้วย

 

ลอเรนโซ อินซิเญ จอมเก๋าอัซซูรีที่ฝากความหวังได้

 

ส่วนอิตาลี…ทีมเยือนทิพย์เหมือนกัน

 

ตรงข้ามกับตุรกี อิตาลีถือสิทธิ์เป็นทีมเยือนในเกมนี้ก็จริง แต่พวกเขากลับมีแฟนบอลเกือบ 20,000 คนให้การหนุนหลัง แถมไม่ใช่แค่นัดนี้เท่านั้น เพราะอิตาลีเป็น 1 ใน 6 ทีม ‘บุญหนา’ ที่ไม่ต้องเดินทางไปแข่งขันที่สนามอื่นเลยตลอดรอบคัดเลือกร่วมกับ เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, สเปน และเยอรมนี

 

นอกจากจะได้เปรียบในแง่ของความคุ้นเคยสภาพสนามกับเสียงเชียร์แล้ว อิตาลียังเป็นหนึ่งในสองทีมที่ครองสถิติชนะแบบ 100% ในรอบคัดเลือกร่วมกับเบลเยียม และมีสถิติไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 27 นัด โดยพวกเขามีโอกาสที่จะทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันสูงสุดตลอดกาลเทียบเท่าสเปนและบราซิลได้ หากคว้าแชมป์ในยูโร 2020 ครั้งนี้ด้วย

 

โรแบร์โต มันชินี เปลี่ยนอิตาลีที่มีภาพจำเป็นทีมเน้นรับให้กลับมาเล่นได้อย่างน่าดูชม ตัวเลขการทำประตู 37 ประตูในรอบคัดเลือก มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ร่วมกับอังกฤษ พอจะแสดงให้เห็นได้ว่าทัพ ‘อัซซูรี’ ชุดนี้มีเกมบุกที่น่าดูชมแค่ไหน นอกจากนั้นพวกเขายังมีเกมรับที่แข็งแกร่งเสียไปเพียง 4 ประตูจาก 10 นัดด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มต้นแค่วันเดียวพวกเขาก็ได้รับข่าวร้าย เมื่อ ลอเรนโซ เปเยกรินี มิดฟิลด์จากโรมา ต้องถอนตัวเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ แต่ทีมก็มีการเรียกตัว กาเอตาโน คาสโตรวิลลี เข้ามาแทนเป็นที่เรียบร้อย

 

 

 

งานนี้ใครจะคว้าชัยชนะประเดิมก็ต้องมาติดตามกันอีกที ดึกคืนนี้ ‘ตีสอง’ พบกัน!

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising