×

EURO 2020: เกมสุดท้ายที่ยังมีความหมายสำหรับทุกทีมในกลุ่ม B

โดย THE STANDARD TEAM
21.06.2021
  • LOADING...
Euro 2020 Group B

HIGHLIGHTS

  • ในกลุ่ม B ยังไม่มีทีมไหนการันตีว่าได้อันดับใด แม้ว่าเบลเยียม จ่าฝูงในตอนนี้ จะการันตีการเข้ารอบไปแล้วก็ตาม ดังนั้นทั้งสองเกมในคืนนี้จึงมีความหมายทั้งหมด
  • เบลเยียมต้องการเพียงผลเสมอเป็นอย่างน้อย เพื่อการันตีแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าหากแพ้ฟินแลนด์ขึ้นมา ก็จะหล่นไปเป็นที่ 2 ของกลุ่มทันที
  • เดนมาร์กยังมีโอกาสเข้ารอบได้ และอาจจะจบอันดับสูงถึงรองแชมป์กลุ่ม หากชนะรัสเซียได้ ภายใต้ปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นใจ
  • เนเธอร์แลนด์การันตีอันดับ 1 ของกลุ่มไปแล้ว ทำให้ออสเตรียกับยูเครนต้องแข่งขันกันเพื่อแย่งที่ 2 ของกลุ่มเท่านั้น

ค่ำคืนนี้เป็น 1 ใน 2 ค่ำคืนที่ฟุตบอลยูโร 2020 จะลงสนามกัน 4 คู่ ใน 2 กลุ่ม โดยอีกคืนหนึ่งคือคืนวันพุธที่ 23 มิถุนายน ต่อเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน

 

ขณะที่ 4 คู่ในค่ำคืนนี้ กลุ่ม C จะลงสนามก่อนในเวลา 23.00 น. ทั้ง 2 คู่ ได้แก่ มาซิโดเนียเหนือจะพบกับเนเธอร์แลนด์ และยูเครนจะพบกับออสเตรีย ส่วนในเวลา 02.00 น. จะเป็นเกมในกลุ่ม B ที่ฟินแลนด์จะพบกับเบลเยียม และรัสเซียจะพบกับเดนมาร์ก

 

ฟินแลนด์ต้องเรียกฟอร์มเก่งในเกมแรกกลับมาเพื่อสู้กับเบลเยียมนัดนี้

 

ฟินแลนด์ vs. เบลเยียม การเดิมพันอันไม่เท่าเทียมระหว่างทีมที่แพ้ไม่ได้กับทีมที่ไม่ชนะก็ได้

แม้อาจจะไม่ใช่เกมที่มีเดิมพันมากที่สุดในค่ำคืนนี้เท่ากับเกมอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่เกมคู่นี้น่าจะเป็นที่สนใจของใครหลายคน เพราะหลังจากอิตาลีที่เข้ารอบไปด้วย 9 คะแนนเต็ม เบลเยียมจึงเป็นทีมต่อไปที่ถูกจับตามองว่าจะเข้ารอบด้วยคะแนนเต็มตามไปได้อีกทีมหรือไม่ และที่น่าสนใจคือคู่แข่งของพวกเขาเป็นทีมที่หวังจะเข้ารอบต่อไปเช่นกันอย่างฟินแลนด์ โดยเกมคู่นี้จะลงฟาดแข้งกันที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม ประเทศรัสเซีย เวลา 02.00 น. 

 

เบลเยียมยังไม่การันตีตำแหน่งแชมป์กลุ่ม แต่การันตีการเข้ารอบแน่นอนแล้ว ผลเสมอหรือชนะจะทำให้พวกเขาได้แชมป์กลุ่มทันที แต่ถ้าหากพ่ายแพ้ขึ้นมา แชมป์กลุ่ม B จะตกเป็นของฟินแลนด์ทันที ดังนั้น โรเบร์โต มาร์ติเนซ จึงสามารถเลือกได้เลยว่าอยากให้ทีมจบอันดับไหน เนื่องจากทีมแชมป์กลุ่ม B มีโอกาสที่จะเจอกับทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม A / D / E และ F ซึ่งถ้าเป็นกลุ่ม F คู่แข่งรอบหน้าอาจจะเป็นฝรั่งเศส โปรตุเกส เยอรมนี หรือฮังการี ก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าจบอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ก็จะได้เจอกับเวลส์แบบไม่ต้องลุ้น ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่ง่ายกว่าอย่างชัดเจน

 

อย่างไรก็ตาม โรเบร์โต มาร์ติเนซ ก็เปิดเผยในงานแถลงข่าวก่อนเกมว่า จะให้ เควิน เดอ บรอยน์, เอเดน อาซาร์ และ อักเซล วิตเซล ลงสนามในเกมนี้ แต่ในตำแหน่งกองหน้าอาจจะสลับให้ มิชี บัตซูอายี ได้ลงสนามบ้าง หลังจากหน้าที่ในสองเกมก่อนหน้านี้เป็น โรเมลู ลูกากู รับเหมาไปทั้งหมด

 

ขณะที่ทีมของ มาร์กกุ คาแนร์วา มีทางเลือกไม่มากนัก เพราะหากทีมพ่ายต่อปีศาจแดงแห่งยุโรป โอกาสตกรอบก็มีสูงในหลายกรณี ทั้งการไม่สามารถเป็นทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีมได้ เนื่องจากมีแค่ 3 แต้ม หรืออาจจะหล่นไปได้ถึงอันดับที่ 4 ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ดังนั้นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดที่พวกเขาต้องทำให้ได้เป็นอย่างน้อยเพื่อเข้ารอบต่อไปคือการมีแต้ม ไม่ว่าจะเป็น 1 หรือ 3 ก็ตาม

 

แม้ฟินแลนด์จะไม่สามารถเอาชนะเบลเยียมได้เลยใน 6 นัดหลังที่เจอกัน แต่ที่น่าประทับใจคือการที่พวกเขายันเสมอไว้ได้ถึง 3 นัด และนั่นอาจจะเป็นผลการแข่งขันที่พวกเขาหวังจะทำให้ได้ในเกมนี้ โดยข่าวดีอีกอย่างก่อนเกมคือสภาพทีมของพวกเขาค่อนข้างดีมาก และไม่มีนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บอยู่ในทีมเลยแม้แต่คนเดียว

 

เดนมาร์กจะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลของพวกเขาในเกมเดิมพันเข้ารอบ

 

รัสเซีย vs. เดนมาร์ก เกมที่ชัยชนะมีความหมายถึงการได้ไปต่อ

เกมระหว่างหมีขาวและโคนมที่สนามปาร์เกน สเตเดียม ในโคเปนเฮเกน ซึ่งจะลงสนามพร้อมกับเกมที่ฟินแลนด์จะพบกับเบลเยียมในเวลา 02.00 น. คงจะเป็นเกมที่น่าสนใจที่สุดในค่ำคืนนี้ แม้ทั้งสองชาติไม่ได้เป็นทีมใหญ่หรือมีนักเตะดาวดังเต็มทีม เนื่องจากผลการแข่งขันในคู่นี้มีผลต่อการตัดสินการเข้ารอบของทั้งคู่และอีก 2 ทีมร่วมกลุ่มเป็นอย่างมาก

 

เกมนี้รัสเซียต้องชนะไว้ก่อนหากไม่อยากไปลุ้นอะไรให้ปวดหัว เพราะทันทีที่ชนะ เกมนี้ก็จะการันตีการเข้ารอบทันที แต่ถ้าผลออกมาเป็นการเสมอกับเดนมาร์ก หมีขาวต้องไปลุ้นให้ฟินแลนด์ไม่สามารถเอาชนะเบลเยียมได้ พวกเขาถึงจะเข้ารอบ แต่ถ้าหากทีมของ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ แพ้ขึ้นมา เรื่องจะยุ่งทันที เพราะมีสิทธิ์ร่วงไปถึงอันดับ 3 หรือจบบ๊วยกลุ่มได้เลย ซึ่งขึ้นอยู่กับผลต่างประตูได้เสียของทั้ง 2 คู่ที่จะเกิดขึ้นด้วย

 

ขณะที่ฝั่งเดนมาร์ก พวกเขาจะต้องเอาชนะในเกมนี้ให้ได้เป็นอันดับแรก และอันที่จริงมันเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ทีมได้ไปต่อในรอบน็อกเอาต์ และหากพวกเขาเอาชนะรัสเซียได้จริง ทีมโคนมก็มีสิทธิ์จบสูงถึงอันดับ 2 ได้เลยในกรณีที่ฟินแลนด์แพ้ต่อเบลเยียม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังต้องไปลุ้นเรื่องของประตูได้เสียในการจัดอันดับด้วย แต่ถ้าฟินแลนด์เกิดเสมอหรือชนะเบลเยียมขึ้นมา พวกเขาก็จะจบอันดับ 3 ซึ่งยังได้ลุ้นโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุด เนื่องจากผลงานการเจอกันจะดีกว่ารัสเซีย

 

ดังนั้นเกมนี้จึงเป็นเกมที่มีความหมายอย่างมาก เพราะนอกจากทั้งสองทีมเองแล้ว มันยังมีผลต่ออีกทีมหรือสองทีมที่แข่งขันกันในอีกสนามด้วย และทำให้กลุ่ม B เป็นกลุ่มที่ต้องลุ้นกันถึงนาทีสุดท้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

ยูเครนต้องเสมอเป็นอย่างน้อย หากต้องการเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม C

 

ยูเครน vs. ออสเตรีย การต่อสู้เพื่อแย่งอันดับที่ 2

หลังจากที่ทั้งสองทีมพ่ายต่อเนเธอร์แลนด์มาเหมือนกัน ทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะจบอันดับเหนือกว่าทีมอัศวินสีส้มได้ ไม่ว่าผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มจะออกมาเป็นอย่างไร นั่นทำให้การเจอกันระหว่างยูเครนกับออสเตรีย ซึ่งจะลงสนามกันที่สนามกีฬาแห่งชาติที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ในเวลา 23.00 น. เป็นเกมที่เล่นกันเพื่อแย่งพื้นที่อันดับ 2 ของกลุ่มเท่านั้น 

 

เงื่อนไขในการแย่งรองแชมป์กลุ่ม C ของทั้งคู่ไม่มีอะไรซับซ้อนเหมือนกลุ่ม B เพราะเกมนี้ใครชนะก็เอาอันดับที่ 2 ไปครองแบบไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าผลออกมาเป็นการเสมอกัน ยูเครนจะเป็นฝ่ายคว้าอันดับที่ 2 ไปครอง เพราะถึงแม้ประตูได้เสียจะเท่ากัน แต่ยูเครนยิงได้มากกว่า

 

ดังนั้นออสเตรียจึงไม่มีทางเลือกมากนักหากอยากเข้ารอบโดยไม่ต้องลุ้น เพราะถ้าพวกเขาพ่ายในเกมนี้ก็จะมีเพียง 3 คะแนน และอาจจะต้องไปลุ้นเหนื่อยกับโควตาอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่ในกรณีที่ผลออกมาเสมอกัน แม้ทีมนกกระจอกเทศจะจบอันดับที่ 3 อยู่ดี แต่พวกเขาก็มีโอกาสสูงในการไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ เนื่องจากคะแนนที่เพิ่มมาเป็น 4 แต้ม แถมการจบที่ 3 กลุ่มนี้อาจจะดีกว่าการจบอันดับรองแชมป์กลุ่มที่ปลายทางมีทีมฟอร์มโหดอย่างอิตาลีรออยู่ก็ได้

 

เนเธอร์แลนด์เป็นอีกทีมที่มีลุ้นในการเก็บ 9 คะแนนเต็ม

 

มาซิโดเนียเหนือ vs. เนเธอร์แลนด์ เกมที่ไร้ความหมายในตารางคะแนน

ตรงข้ามกับทุกคู่ที่ว่ามา เพราะเกมนี้ไม่มีความหมายใดๆ ในการจัดอันดับการเข้ารอบน็อกเอาต์เลย เนื่องจากเนเธอร์แลนด์การันตีการเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการมีผลงานการเจอกันที่เหนือกว่าทั้งยูเครนและออสเตรีย ทำให้ไม่ว่าการแข่งขันในคู่นั้นจะจบลงอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถลากพวกเขาลงจากตำแหน่งจ่าฝูงได้ ต่อให้พ่ายมาซิโดเนียเหนือ ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยก็ตาม

 

ด้านทีมน้องใหม่ในศึกฟุตบอลยูโรก็เป็นทีมที่ตกรอบโดยสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ตรงข้ามกับเนเธอร์แลนด์ เพราะพวกเขาพ่ายต่อทั้งยูเครนและ ออสเตรีย มาก่อนหน้านี้ ทำให้ถึงจะชนะเกมนี้ และมี 3 คะแนนเท่ากับผู้แพ้ในเกมระหว่างยูเครนกับออสเตรีย ก็จะไม่มีทางแซงขึ้นไปรั้งอันดับที่ 3 ได้ เนื่องจากเฮดทูเฮดที่เป็นรองทั้งสองทีม

 

ดังนั้นเกมนี้จึงเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่ทีมอย่างมาซิโดเนียเหนือไม่อยากจะจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการแพ้ 3 นัดรวด และพวกเขาก็มีโอกาสดีในการเก็บแต้ม แม้ว่าจะต้องลงสนามที่โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา ก็ตาม เนื่องจากทางเจ้าบ้านก็เหมือนตั้งใจจะพักผู้เล่นตัวหลักอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ทีมอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่าใน 2 นัดแรกที่ลงสนามมานั่นเอง

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X