รัฐสภายุโรปประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งหมด ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050
ประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติของสมาชิกรัฐสภายุโรป ที่โหวตสนับสนุนด้วยคะแนนเสียง 429 ต่อ 225 เสียง ซึ่งก่อนหน้านี้ มีคำเตือนจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ ที่ชี้ว่าโลกอาจจะก้าวข้ามจุดเปลี่ยนด้านสภาพอากาศที่ไม่อาจย้อนกลับไปได้แล้ว และกำลังส่งผลให้โลกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภายุโรปบางส่วน เตือนว่าการผ่านมติดังกล่าวอาจเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่ไม่ก่อให้เกิดการดำเนินการอย่างจริงจัง ขณะที่
กรีนพีซ มองว่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของ EU ไม่ได้รับการสนับสนุนด้วยการลงมือทำที่มากพอ
“บ้านของเรากำลังถูกแผดเผา รัฐสภายุโรปได้เห็นเปลวเพลิง แต่มันคงไม่เพียงพอ ที่จะทำแค่ยืนและมองดู” ที่ปรึกษานโยบายสภาพอากาศในสหภาพยุโรปขององค์กรกรีนพีซกล่าว
นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภายุโรปยังมีการลงมติสนับสนุนให้เพิ่มเป้าหมายในการคงระดับอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส พร้อมทั้งสนับสนุนให้เพิ่มเป้าหมายในการลดการแพร่กระจายของก๊าซเรือนกระจก ในปัจจุบันเป็น 40% และเพิ่มเป็น 55% ภายในปี 2030
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: