ความจริงแล้วหาก แฮร์รี เคน ใจเด็ดเดี่ยวมากพอสักนิด บางทีเขาอาจจะได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 2 สมัยกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว
และหากเขาเป็นคนไม่แคร์อะไรเหมือนสตาร์นักเตะรุ่นใหม่หลายคนที่ไม่ให้ค่าความรักและความผูกพันมากไปกว่าเงินตราและความสำเร็จ บางทีเขาน่าจะได้ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิก ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่แล้ว
แต่เพราะเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น กัปตันทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จึงต้องตกอยู่ท่ามกลางวังวนของคำถามและความรู้สึกแบบที่ไม่มีคำตอบมาโดยตลอด แม้กระทั่งในตอนนี้
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนสถานการณ์ในเวลานี้จะเดินทางมาถึงจุดที่อาจเป็นฉากสุดท้ายในมหากาพย์การย้ายออกจากลอนดอนเหนือของเคน ที่กินระยะเวลายาวนานมาหลายปี
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อาจยอมปล่อยตัว ‘ไอคอน’ ของสโมสรของพวกเขาออกไป หลังได้รับข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาเยิร์น มิวนิก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
ลำนำ แฮร์รี เคน
ข่าวการย้ายทีมของเคน ถือเป็นหนึ่งในมหากาพย์การย้ายทีมที่ยาวนานและไม่มีที่สิ้นสุดง่ายๆ
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการจะได้ตัวเคนมาร่วมทีม และเสนอเงินให้มากถึง 120 ล้านปอนด์ ซึ่งทุนจากอาบูดาบีเชื่อว่ามันมากพอที่จะทำให้ทีมจากลอนดอนเหนือยอมปล่อยตัวกองหน้ากัปตันทีมออกมา และทุกฝ่ายก็เชื่อว่าสเปอร์สน่าจะยอมเปิดทาง
เพราะเคนนั้นแสดงออกชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะไปแล้ว และได้มีการแจ้งต่อ แดเนียล เลวี ประธานสโมสร เอาไว้ล่วงหน้าเป็นเวลา 1 ปี
แต่ปรากฏว่า เลวีเมินเฉยต่อข้อตกลงสุภาพบุรุษระหว่างทั้งสอง โก่งราคาค่าตัวของเคนขึ้นไปอีก จนทำให้แมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจที่จะถอนตัวจากการเจรจา เพราะมองว่าค่าตัวที่สเปอร์สต้องการนั้นเกินจากความเป็นจริงไปมาก
เรื่องวันนั้นทำให้เคนไม่สามารถไปไหนได้และตัดสินใจจะอยู่กับสเปอร์สต่อไปโดยไม่คิดที่จะงอแงหรือโวยวายใดๆ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษลูกหนังที่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
และจากเรื่องวันนั้น เคนจึงยังอยู่กับสเปอร์สมาตลอด โดยที่เหมือนจะมีช่วงเวลาที่ดีแล้วเมื่อทีมได้ อันโตนิโอ คอนเต มาคุมทัพแทนที่ของ นูโน เอสปิริโต ซานโต ในช่วงต้นฤดูกาล 2021/22 ซึ่งสเปอร์สมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่สุดท้ายช่วงเวลาดีๆ ดังกล่าวก็จบลง เมื่อคอนเตไม่อดทนต่อปัญหาภายในสโมสรที่พยายามชี้ให้เห็นว่า ‘วัฒนธรรมองค์กร’ ของสเปอร์ส นั้นคือสาเหตุที่ทำให้ทีมไม่สามารถก้าวไปไหนได้ เมื่อเลวีให้ความสำคัญกับนักฟุตบอลในฐานะของ ‘สินทรัพย์’ (Assets) มากกว่าผู้จัดการทีมที่มองว่าเป็นคนที่มาแล้วก็ไป
การลาออกของคอนเตนำมาสู่หายนะของช่วงปลายฤดูกาล 2022/23 ของสเปอร์ส
ที่กำลังจะนำไปสู่การตัดสินใจอำลาทีมอีกครั้งของเคน
ราชาที่ไร้มงกุฎ
ตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลที่ผ่านมาของเคนนับจากการได้โอกาสแจ้งเกิดกับสโมสร เคนนับว่าเป็นนักเตะต้นแบบที่น่ายกย่องของสเปอร์ส
ในเรื่องของฝีเท้าการเล่นเคนจัดว่าเป็นกองหน้าคนเดียวของอังกฤษต่อจาก เวย์น รูนีย์ ที่เข้าขั้นระดับโลก ด้วยสไตล์ของศูนย์หน้าตัวเป้าที่มีความครบเครื่องต้มยำ ไม่ได้เก่งแค่การจบสกอร์ได้ทุกรูปแบบและทุกระยะเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการสร้างสรรค์เกม ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำ จนบางครั้งเปิดดีเสียยิ่งกว่าคนที่ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์ด้วยซ้ำไป
แต่ที่ดียิ่งกว่าคือ เรื่องของการเป็นผู้นำที่แม้จะไม่ได้เป็นพวกชอบกระตุ้นเพื่อน แต่การที่เขาได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ ก็ถือเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว
ผลงานกับสเปอร์สเองก็ยอดเยี่ยม เคนเป็นนักเตะที่รักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงได้ดีสม่ำเสมอ ไม่ว่าสเปอร์สจะทำผลงานเป็นอย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้นๆ แต่จุดที่ถือเป็นสุดยอดความภูมิใจสำหรับเขากับสเปอร์สคือ การทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ จิมมี กรีฟส์ ตำนานศูนย์หน้าอมตะของสโมสร
กรีฟส์ผู้ยิ่งใหญ่ครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดของสเปอร์สมายาวนานด้วยผลงาน 266 ประตู จากการลงเล่น 379 นัด ที่คงไว้ตั้งแต่ฤดูกาล 1969/70 หรือกว่า 53 ปีมาแล้ว
แต่เคนสามารถทำลายสถิติดังกล่าวได้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อยิงประตูในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ โดยเป็นประตูที่ 267 ของเขาในการลงเล่นนัดที่ 304 ให้กับสโมสร รวมถึงยังเป็นนักฟุตบอลคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่เข้า ‘200 Club’ หรือยิงได้เกิน 200 ประตู ต่อจาก อลัน เชียเรอร์ (260 ประตู 441 นัด) และ เวย์น รูนีย์ (208 ประตู 491 นัด)
เรื่องนี้เป็นความภูมิใจที่สุดสำหรับเขาอย่างแน่นอน
แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นคำถามสำหรับเคนด้วยว่า ยังเหลืออะไรให้เขาไขว่คว้าอีกหรือไม่กับสเปอร์ส?
แสงสว่างในวันที่มืดมน
คำถามดังกล่าววนเวียนในหัวเคนมาตลอด และดูเหมือนว่าคำตอบเองก็ยังคงเหมือนเดิมคือ สิ่งเดียวที่เขาขาดตอนนี้กับสเปอร์สคือความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างการชูถ้วยแชมป์
และเขาก็รู้ดีว่าโอกาสที่จะทำแบบนั้นได้กับสเปอร์สดูเหมือนจะลดน้อยลงไปอีก เมื่อมองดูทีมคู่แข่งรอบตัวที่ต่างเร่งฝีเท้าก้าวแซงไปข้างหน้ากันแบบไม่หยุดยั้ง ในขณะที่สเปอร์สเองยังก้าวเดินอย่างเชื่องช้าและดูขุมกำลังยังห่างจากคู่แข่ง
เพียงแต่ครั้นจะคิดถึงการย้ายไปทีมอื่นในอังกฤษ ด้วยวัย 30 ปีและค่าตัวที่ถูกปักป้ายเอาไว้ถึง 100 ล้านปอนด์ ก็ไม่มีทีมใดที่พร้อมจะดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วย ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าการได้นักเตะระดับนี้ไปจะช่วยยกระดับทีมได้มากขนาดไหนก็ตาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ที่ทั้งหนุ่มกว่าและอาจจะทรงประสิทธิภาพมากกว่าในการจบสกอร์
เชลซี พวกเขามีปัญหาทางการเงินมากเกินกว่าจะมาจัดงบ 100 ล้านประเคนให้
นิวคาสเซิลเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ทีมยังติดขัดในเรื่องของกฎการเงิน Financial Fair Play ทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายตามใจชอบได้ แม้จะมีทุนรอนมหาศาลไม่อั้น
อาร์เซนอล? โลกแตกก่อนค่อยคิด
ส่วนลิเวอร์พูลไม่มีเงิน
แต่แล้วจู่ๆ ก็มีข้อเสนอที่คาดไม่ถึงมาจากบาเยิร์น มิวนิก สโมสรอันดับหนึ่งของเยอรมนี ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำและต้องการนักเตะที่จะเป็น ‘พระเอก’ คนใหม่ของสโมสร หลังจากที่ไม่สามารถหาใครขึ้นมาทดแทน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่ย้ายไปบาร์เซโลนาเมื่อฤดูกาลที่แล้วได้
เคนเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์แทบทุกอย่าง แม้ว่าจะอายุค่อนข้างมากแล้วก็ตาม
ปัญหาคือบาเยิร์นจะยอมทุ่มเงินตามที่สเปอร์สต้องการหรือไม่?
ข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาวาเรีย
ข่าวคราวระหว่างบาเยิร์นกับเคนดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยที่มีผู้สื่อข่าวจาก Bild คอยรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเป็นระยะ โดยยืนยันว่า ความสนใจจากเยอรมนีเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และการไปเยอรมนีก็ถือเป็นทางออกที่ดี เพราะไม่ใช่คู่แข่งในพรีเมียร์ลีก
สำหรับเคนการไปบาเยิร์นแทบจะเป็นการการันตีแชมป์บุนเดสลีกาทุกฤดูกาลอยู่แล้ว และที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวเขาเองคือ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของการย้ายทีมที่มี ‘ความหมาย’ ในชีวิต
หลังจากมีกระแสข่าวสักพัก บาเยิร์น มิวนิก ก็ยื่นข้อเสนอมาจริงๆ! แต่ปัญหาคือข้อเสนอทุกครั้งถูกปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
ข้อแรกอยู่ที่ 73 ล้านปอนด์ ก่อนจะเพิ่มเป็น 86 ล้านปอนด์ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของเลวี
หรือให้พูดอีกทีคือ ประธานสโมสรสเปอร์สเองก็ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะยอมรับข้อเสนอที่อาจเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่ทีมจะสามารถทำเงินได้จากเคนหรือไม่ เพราะสตาร์ของทีมเหลือสัญญากับสโมสรแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจะยอมต่อสัญญาฉบับใหม่อีกหรือไม่
หากเคนไม่ต่อ หมายถึงในวันที่ 1 มกราคมปีหน้า เขาสามารถเจรจาย้ายทีมไปไหนก็ได้ตามกฎบอสแมน
ในทางตรงกันข้าม เคนที่รอดูท่าทีของทั้งบาเยิร์นและสเปอร์สก็อยู่ในช่วงของการตัดสินใจเช่นกัน เพียงแต่ความรู้สึกที่ต้องการจะย้ายออกจากสโมสรของเขาในเวลานี้ไม่ได้แรงกล้าเหมือนเดิมแล้ว
ความรู้สึกของเคนคือ หากสโมสรตกลงกันได้ เขาพร้อมจะไป
แต่หากตกลงกันไม่ได้ เส้นตายสำหรับเขาอยู่แค่วันศุกร์นี้ หลังจากนี้เคนจะโฟกัสในการเล่นให้กับสเปอร์สเหมือนเดิม เขาจะไม่ขอย้ายออกจากทีมหากฤดูกาลได้เริ่มต้นไปแล้ว เพราะไม่ต้องการทำให้แฟนๆ ผิดหวัง และสร้างผลกระทบรุนแรงต่อสโมสรอีก
เรื่องราวมหากาพย์นี้จึงอยู่ที่ข้อเสนอครั้งสุดท้ายจากบาเยิร์น มิวนิก ที่เสนอให้เป็นเงิน 94.5 ล้านปอนด์ (110 ล้านยูโร) ซึ่ง The Times จากอังกฤษ เชื่อว่า เป็นข้อเสนอที่น่าจะดีพอที่เลวีจะยอมรับและเปิดทางให้เคนไปจากสโมสร เพราะถือว่าค่าตัวสมเกียรติ
สเปอร์สเองแม้จะขยับตัวช้า แต่ก็มีความเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะ โดยล่าสุดได้ มิกกี ฟาน เดอ เฟน กองหลังอนาคตไกลจากโวล์ฟสบวร์ก ในราคา 34 ล้านปอนด์ และมีข่าวว่าอยากได้ เพอร์ ชูร์ส กองหลังชาวดัตช์อีกคนจากโตริโน ที่ค่าตัว 28 ล้านปอนด์
ส่วนแดนหน้าพวกเขาอยากได้ กิฟต์ ออร์บาน กองหน้าวัย 21 ปีจากสโมสรเกงค์มาช่วย ริชาร์ลิสัน ที่หากเคนไม่อยู่ก็จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักแทน
โดยที่เงินที่ได้จากการขายเคนจะนำไปใช้สร้างทีมยุคใหม่ที่ไม่มีเขาอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี อย่างที่บอกว่าเคนไม่มีวันที่จะบีบให้สโมสรต้องปล่อยตัวเขาออกจากทีม หากไม่สามารถย้ายทีมได้เขาก็พร้อมจะอยู่กับสโมสรต่อไป แม้จะยังไม่รู้ว่าหากเป็นแบบนั้นแล้วจะมีการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีกหรือไม่ก็ตาม
ให้เป็นเรื่องของโชคชะตา
ถ้าจะได้ไปคือได้ไป
ถ้าไม่ได้ไปก็ถือว่าเขาอาจต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/bayern-munich-offer-tottenham-hotspur-110m-for-harry-kane-l5ktxl6fb
- https://www.telegraph.co.uk/football/2023/08/08/tottenham-transfer-news-bayern-munich-save-harry-kane-deal/
- https://www.espn.co.uk/football/story/_/id/37635312/how-harry-kane-became-tottenhams-all-top-scorer-breaking-jimmy-greaves-goals-record