เอนโซ เฟร์นานเดซ ห้องเครื่องฉบับอาร์เจนตินา กับเหตุผลว่าทำไมเชลซีถึงตัดสินใจทุ่ม (อีกก๊อก) ก่อนตลาดปิด

อาร์เจนตินาไม่ได้มีของดีแค่เมสซีกับสเต๊กเนื้อ พวกเขายังมี เอนโซ เฟร์นานเดซ กองกลางที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่มีส่วนสำคัญในการพาทีม ‘ฟ้าขาว’ (และเมสซี) คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้

โดยที่ตอนนี้นักเตะวัย 22 ปีกำลังถูกจับตามองว่าจะเป็นนักเตะที่ทุบสถิติค่าตัวการย้ายทีมสูงสุดของอังกฤษหรือไม่ หลังจากที่เชลซีพยายามที่จะยื่นข้อเสนอในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนตลาดการซื้อขายฤดูหนาวจะปิดตัวลงในเวลา 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศอังกฤษของวันนี้ (31 มกราคม)

ตามรายงานข่าวล่าสุด เชลซีเปิดการเจรจาในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าพร้อมจะจ่ายเงินค่ายกเลิกสัญญาของเฟร์นานเดซที่ 120 ล้านยูโร (105.6 ล้านปอนด์) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าที่เบนฟิกาจ่ายเพื่อซื้อกองกลางรายนี้จากริเวอร์เพลทเมื่อไม่ถึงปีก่อนมากกว่า 10 เท่า!

เพียงแต่การเจรจายังไม่จบง่ายๆ เพราะเบนฟิกายังไม่ยอมที่จะเปิดทางให้ ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำแบบนี้กับสโมสรในอังกฤษ เพราะครั้งหนึ่งก็เคยยืนกรานที่จะไม่ปล่อย ซิเมา ซาโบรซา ปีกกัปตันทีมให้กับลิเวอร์พูล ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเจรจากันสำเร็จแล้ว และตัวนักเตะก็รออยู่หน้าสนามบินแล้วด้วย ก่อนที่การเจรจาจะล่มเพราะสโมสรไม่ต้องการเผชิญกระแสวิจารณ์จากแฟนบอลตัวเอง

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชลซีกับเบนฟิกาเจรจากัน ก่อนหน้านี้เคยมีความพยายามแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสโมสรจากอังกฤษตอนแรกทำท่าทีเหมือนจะยอมจ่ายเงินค่ายกเลิกสัญญา แต่สุดท้ายกลับพลิกลิ้นไม่ยอมจ่ายเงินก้อนดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ทีมดังของโปรตุเกสเดือดจัด และประณามการกระทำว่ามีส่วนทำให้นักเตะเสียสมาธิในการเล่น

การเจรจาระหว่างสองฝ่ายจึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองในวันสุดท้ายก่อนตลาดการซื้อขายจะปิดตัวลง ว่าจะสามารถหาข้อสรุปที่ลงตัวสมประโยชน์กันทุกฝ่ายได้หรือไม่

แต่อีกเหตุผลที่น่าสนใจคือ ทำไมเชลซีถึง ‘ไม่อาจตัดใจ’ ไปจากกองกลางรายนี้ได้

เหตุผลหลักคือในฤดูกาลนี้เชลซีมีปัญหาค่อนข้างมากในเรื่องของการทำประตู โดยพวกเขาทำได้แค่ 22 ประตูเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่าทีมบ๊วยอย่างเซาแธมป์ตันแค่ 5 ลูก และน้อยกว่าทีมอื่นๆ ในกลุ่มครึ่งบนของตารางนับสิบลูก

การทำประตูได้น้อยมาจากเรื่องของการสร้างโอกาสได้น้อย น้อยเสียยิ่งกว่าเวสต์แฮมที่ประสบปัญหาหนักในฤดูกาลนี้เสียอีก

ตรงนี้เองที่นักวิเคราะห์มองว่า ‘เอนโซ’ น่าจะสามารถช่วยได้ เพราะถึงจะไม่ใช่กองกลางในสไตล์เพลย์เมกเกอร์ที่มีส่วนในการหาโอกาสทำประตูหรือการสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนร่วมทีมโดยตรงแบบในรายของ บรูโน แฟร์นันด์ส ที่ย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครบ 3 ปีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่อย่างน้อยในช่วงระยะเวลาครึ่งฤดูกาลที่สตาร์อาร์เจนไตน์อยู่กับเบนฟิกาเขาก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในด้านนี้

เอนโซ ซึ่งเป็นกองกลางในสไตล์ Deep-lying Midfielder ที่ถนัดการยืนทำเกมจากแนวลึก เป็นนักเตะที่ทำแอสซิสต์ได้ถึง 5 ครั้ง เรียกว่าสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในพรีเมรา ลีกาของโปรตุเกสในฤดูกาลนี้ และสามารถสร้างสรรค์โอกาส (Created Chances) ได้มากถึง 30 ครั้ง

โดยเฉพาะการวางบอลที่แม่นยำ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการวางบอลให้ กอนซาโล รามอส ยิงสปอร์ติง ลิสบอน ในเกมดาร์บีแมตช์สุดเดือดของเมืองหลวงโปรตุเกส

เอนโซยังเป็นนักเตะที่มีการผ่านบอลมากที่สุดในลีกถึง 1,432 ครั้ง ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย (Final-third Passes Completed) อีก 372 ครั้ง ซึ่งเป็นอันดับ 1 ในลีกโปรตุเกสทั้งสองสถิติ

แน่นอนว่าจุดเด่นของเขาคือการวางบอลยาวที่แม่นยำ และนอกจากจะเปิดแม่นแล้วยังมี ‘วิชัน’ อ่านเกมได้อย่างเฉียบขาดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งในฟุตบอลโลกก็แสดงให้เห็นหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการเปิดบอลให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ หลุดเข้าไปยิงประตูได้ด้วย

ไม่นับเรื่องความแข็งแกร่ง ความฟิต การยืนระยะ ความนิ่งที่เกินตัว ลีลาการเล่นที่ไม่เน้นความหวือหวา แต่ทำประโยชน์สูงสุดให้กับทีม

ความจริงก่อนหน้าที่จะไปเบนฟิกา เอนโซเคยเป็นที่หมายตาของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ซึ่งไปได้ ฮูเลียน อัลวาเรซ มาแทน) และเรอัล มาดริด โดยเฉพาะทีมหลังที่คาดหวังถึงขั้นที่จะให้เขาเข้ามาศึกษาดูงานในการเป็นทายาทของ ลูกา โมดริช กองกลางอมตะของทีมเลยทีเดียว

ขณะที่กับเชลซี เอนโซคือกองกลางที่เหมาะสมจะเป็นเสาหลักของทีมในอนาคต เพื่อทดแทน จอร์จินโญ กองกลางห้องเครื่องคนเดิมที่เริ่มโรยราลงมามาก ขณะที่ เอ็นโกโล ก็องเต ก็เริ่มประสบปัญหาการบาดเจ็บเรื้อรังที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เงินค่าตัว 120 ล้านยูโรไม่ใช่น้อยๆ แต่นี่คือหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้ ซึ่งหากเชลซีสามารถคว้าตัวมาร่วมทีมได้จริงนอกจากจะเติมความแข็งแกร่งของทีมได้แล้วก็จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้ทีมได้มากอย่างแน่นอน

ในวงเล็บว่าถ้าทีมเจรจาของ ทอดด์ โบห์ลี ทำสำเร็จภายในวันนี้นะ!

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

อ้างอิง:

FYI

เอนโซ เฟร์นานเดซ เริ่มต้นฟุตบอลโลกด้วยการเป็นตัวสำรอง แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่เกมกับเม็กซิโกที่ลงมาแล้ว ทำให้เกมของอาร์เจนตินาลงตัวขึ้น และยังทำประตูสุดสวยได้ด้วย ก่อนที่จะเป็นคีย์แมนในแดนกลางที่พาทีมคว้าแชมป์โลก
นักฟุตบอลเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดของอังกฤษคนเดิมคือ แจ็ค กรีลิช 100 ล้านปอนด์ จากแอสตัน วิลลาไปแมนฯ ซิตี้
เชลซีไม่ได้คิดจะซื้ออย่างเดียว แต่หวังจะปล่อย คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ให้กับเอฟเวอร์ตันในราคา 40+5 ล้านปอนด์ด้วย เรียกว่าได้ทุนมาเกือบครึ่งสำหรับการซื้อเอนโซ