วันนี้ (29 มกราคม) ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งกฤษฎีกาคณะพิเศษ ปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มี วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษชุดดังกล่าว ส่วนคณะกรรมการประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน เช่น บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, ธงทอง จันทรางศุ และ ไพโรจน์ วายุภาพ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีนักกฎหมายชั้นนำมาร่วมกันพิจารณาในเรื่องนี้ จะทำให้ร่างดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ ปกรณ์กล่าวว่า การเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่เป็นคนละประเด็น แต่สิ่งที่เราทำคือดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เราเป็นเหมือนพ่อครัวที่คอยปรุงและใส่วัตถุดิบตามที่ลูกค้าต้องการ แต่ถ้ามีบางอย่างที่เขาไม่ต้องการ และเราทักท้วง แต่เขายืนยันจะเป็นแบบนั้นก็ต้องตามใจลูกค้า และเรื่องนี้ต้องถามสังคมว่าจะทำอย่างไร เมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว เราต้องทำให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงเรียกร้องให้มีการทำประชามติ ปกรณ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบาย กฤษฎีกาไม่เกี่ยวข้อง โดยเราพยายามทำให้กฎหมายครอบคลุมทุกมิติ ไม่ต่างกับการยกเรือสำราญที่มีทุกกิจกรรมมาไว้บนบก ซึ่งหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยหลักคือกระทรวงมหาดไทยและท้องถิ่น กระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาษี และกระทรวงคมนาคมในเรื่องเส้นทาง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ใช้กรอบเวลาดำเนินการนานแค่ไหน เลขาฯ กฤษฎีกากล่าวว่า รัฐบาลบรรจุไว้ในแผนกฎหมายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการภายใน 50 วัน และกฤษฎีกาพยายามทำให้ทัน ขณะนี้ประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คือวันอังคารและพฤหัสบดี และพยายามหาวันว่างเพิ่มขึ้น เราต้องรีบทำ