สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ริชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ในวงเงิน 30,000 ล้านปอนด์ (37,500 ล้านดอลลาร์) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 กรกฎาคม) โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการช่วยเหลือประชาชนอังกฤษจากผลกระทบของโควิด-19 โดยมุ่งเป้าไปที่การสร้างงานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาอัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุด
สำหรับมาตรการกระตุ้นการสร้างงานในครั้งนี้จะประกอบด้วยการจัดตั้งกองทุนในวงเงิน 2,000 ล้านปอนด์ เพื่อสร้างงานในช่วงระยะเวลา 6 เดือนให้กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี และการใช้งบประมาณ 3,000 ล้านปอนด์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านพลังงานให้กับภาคครัวเรือน ซึ่งสามารถสร้างงานได้มากถึง 1 แสนตำแหน่ง
นอกจากนี้รัฐบาลอังกฤษยังได้มอบเงินโบนัสให้กับนายจ้างที่เรียกพนักงานกลับมาทำงานคนละ 1,000 ปอนด์ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยสามารถใช้สิทธิ์ได้จนถึงเดือนมกราคม ปี 2021 ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้งบประมาณมากถึง 9,400 ล้านปอนด์ และยังรวมถึงการลดภาษีให้กับภาคธุรกิจโรงแรม จากเดิม 20% ลดลงเหลือเพียง 5% เป็นระยะเวลา 6 เดือน และมอบส่วนลด 50% สำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้านในวันจันทร์และพุธในเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้เศรษฐกิจของอังกฤษได้หดตัวลงมากถึง 25% ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มมากถึง 10% โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในอังกฤษล่าสุดนั้นอยู่ที่ 288,511 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 44,602 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในทวีปยุโรป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
รายงาน: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
เรียบเรียง: ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com