วานนี้ (30 มิถุนายน) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาเรียกร้องให้จีนรักษาคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่า จะมอบ ‘อำนาจในการปกครองตนเองระดับสูง’ ให้กับฮ่องกง ในโอกาสครบรอบ 25 ปีที่ฮ่องกงได้กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนอีกครั้ง
จอห์นสันกล่าวว่า จีนไม่ได้ทำตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ภายใต้ข้อตกลง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ซึ่งระบุไว้ในปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษเมื่อ 25 ปีก่อน และรัฐบาลอังกฤษจะพยายามให้จีนรับผิดชอบต่อข้อตกลงดังกล่าวให้ได้
“เราไม่สามารถหลีกหนีความจริงที่ว่า จีนล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธกรณีมาระยะหนึ่งแล้ว” จอห์นสันกล่าว “มันเป็นสถานการณ์ที่คุกคามทั้งสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง อีกทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าของฮ่องกงอีกด้วย”
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา อังกฤษได้กล่าวโจมตีจีนหลายครั้งว่าไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ โดยย้อนไปเมื่อ 25 ปีก่อน รัฐบาลจีนเคยให้คำมั่นว่าจะปกครองฮ่องกงด้วยหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ เป็นเวลา 50 ปี โดยจะให้ฮ่องกงมีอิสระในการปกครองตนเองในระดับสูง ยกเว้นเฉพาะกิจการกลาโหมและกิจการต่างประเทศซึ่งจีนจะเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น
“เราไม่ยอมแพ้กับประเด็นฮ่องกง เมื่อ 25 ปีก่อนเราได้ให้สัญญาไว้กับดินแดนและผู้คน ณ ที่แห่งนี้ และเราจะรักษาสัญญานั้น” จอห์นสันกล่าว “อังกฤษจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้จีนรักษาคำมั่นสัญญา เพื่อให้ฮ่องกงสามารถกลับมาปกครองตนเองได้อีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม จีนได้โต้แย้งข้อกล่าวหาของอังกฤษมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังกล่าวด้วยว่าอังกฤษควรเลิกก้าวก่ายกิจการฮ่องกง และโจมตีว่าอังกฤษยังมีแนวคิดแบบเจ้าอาณานิคมอยู่ แม้จะส่งมอบให้จีนมาเป็นเวลาถึง 25 ปีแล้ว
นอกจากรัฐบาลอังกฤษแล้ว ชาติพันธมิตรในยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่จีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งนำไปสู่การกวาดล้างผู้เห็นต่างทางการเมือง หรือกิจกรรมที่จีนมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ส่งผลให้มีการใช้ความรุนแรงจับกุมตัวนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย รวมถึงสั่งปิดสื่อในฮ่องกงเป็นจำนวนมาก
“หลังจากที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาเป็นเวลานาน ฮ่องกงก็ได้กลับคืนสู่จีนเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา การทดลองทางการเมืองครั้งนี้มาพร้อมกับความหวังมากมาย” ไรน์ฮาร์ด บูติโคเฟอร์ ประธานคณะผู้แทนจีนของรัฐสภายุโรปกล่าว “จีนเคยให้คำมั่นว่าฮ่องกงจะสามารถรักษาวิถีชีวิต ระเบียบทางเศรษฐกิจ และเสรีภาพของตนได้โดยไม่มีข้อจำกัดเป็นเวลา 50 ปี ภายใต้การปกครองของจีน อีกทั้งยังให้สัญญาว่าจะพัฒนาประชาธิปไตย
“แต่ปัจจุบันความหวังนั้นดับวูบลง เสรีภาพถูกลิดรอน อนาคตที่เป็นประชาธิปไตยถูกปิดกั้น ในขณะที่เศรษฐกิจถูกนำไปให้บริการแก่พรรคคอมมิวนิสต์” เขากล่าวเสริม
ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ตอนนี้จีนได้เดินมาถึงครึ่งทางของคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ “ขณะนี้เห็นได้ชัดว่าทางการฮ่องกงและจีนไม่ได้มองว่าการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และสื่ออิสระเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์นี้อีกต่อไป” บลิงเคนกล่าว “กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตย ตลอดจนสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง
“เรายืนหยัดเคียงข้างชาวฮ่องกง และสนับสนุนข้อเรียกร้องของชาวฮ่องกงที่ต้องการให้จีนทำตามสัญญาว่าจะให้อิสระ” บลิงเคนกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ได้เดินทางถึงฮ่องกงวานนี้ เพื่อร่วมงานฉลองโอกาสครบรอบ 25 ปีที่ฮ่องกงได้กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนอีกครั้ง พร้อมเป็นประธานในพิธีสาบานตนของ จอห์น ลี ผู้นำฮ่องกงคนใหม่ ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยในระหว่างพิธีสาบานตนสีจิ้นผิงได้ย้ำว่า ฮ่องกงจะต้องถูกปกครองด้วยคนที่จงรักภักดีต่อชาติเท่านั้น
ภาพ: Selim Chtayti / POOL / AFP via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/uks-boris-johnson-china-must-be-held-commitments-made-hong-kong-2022-06-30/
- https://www.scmp.com/news/hong-kong/article/3183754/us-uk-and-european-officials-call-china-honour-hong-kong-commitments?module=live&pgtype=homepage
- https://edition.cnn.com/asia/live-news/hong-kong-china-anniversary-07-01-22-intl-hnk/index.html