ขออภัยล่วงหน้าที่บทความนี้จะเกลื่อนไปด้วยคำอุทานและรกไปด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์!!!!!
เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อแบรนด์ Ener-G วางโปรดักต์ใหม่ในรูปแบบช็อตลงบนโต๊ะในห้องประชุมของ Agency อย่าง -iSM พร้อมอธิบายฟังก์ชันของโปรดักต์ว่า “เป็นช็อตที่ดื่มแล้วตื่น!” ปิดท้ายด้วยประโยคคำถามเรียบๆ
“โจทย์แบบนี้สามารถทำให้เป็นงานในรูปแบบ Branded Entertainment เหมือนที่ทำให้กับแบรนด์อื่นได้ไหม?”
อู๊ด-นพรัตน์ วัฒนวราภรณ์ Co-Founder & Chief Creator of -iSM
ประโยคเดียวตื่นเลย!
“จบประโยคนั้นรู้เลยว่าโจทย์ท้าทายมาก” อู๊ด-นพรัตน์ วัฒนวราภรณ์ Co-Founder & Chief Creator ของ -iSM เล่า “ซึ่งลูกค้าเปิดกว้างกับไอเดียมาก ยิ่งทำให้เราอยากทำให้มันสนุกและน่าสนใจ ข้อดีคือ Benefit ของโปรดักต์ชัดเจน กินแล้วตื่น มันจึงไม่ใช่เรื่องของ Emotional อย่างเดียว คงต้องเล่นความเป็น Functional ให้เป็น Emotional กลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือวัยรุ่น อ่านหนังสือสอบ ต้องการเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วเฟรช ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มชูกำลัง คำว่า ‘ช็อตเดียวตื่น’ มันเลยออกมา
แชร์สิรออะไร!
“จุดหนึ่งคือลูกค้าจะทำตลาดออนไลน์เป็นหลัก เลยมาย่อยว่าจะทำชิ้นงานแบบไหนให้ถูกจริตคนออนไลน์ พอมาเบลนด์กับความเป็น -iSM และที่เราเคยทำงานโปรโมตหนังให้กับ GDH เลยพอจะเดาทางได้ว่าคนออนไลน์ชอบคอนเทนต์แบบไหน มันจะมีชิ้นงานบางอย่างที่เวลาดูแล้วเราอยากฟอร์เวิร์ดหรืออยากแชร์ต่อให้เพื่อน มันเลยประกอบร่างมาเป็น ‘หนัง One Shot ที่ให้ความรู้สึกตื่น’
5 หนังสั้น 5 ผู้กำกับ ไม่ตื่นก็ต้องตื่น!
“พอนึกถึงโปรเจกต์หนังสั้น ก็ต่อยอดไปว่า หรือเอาผู้กำกับมาทำหนังสั้นในทางของตัวเอง พอลิสต์มาได้ 5 คน ก็เลือกจากผู้กำกับที่มีสไตล์ต่างกันใน 5 คาแรกเตอร์ที่ไม่ซ้ำกัน ทุกคนที่เลือกมาเขาก็มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว และวิธีการปล่อยโปรเจกต์นี้เรามีปล่อยแบบแยก 5 ตอน ให้เหมือนเป็นโปรเจกต์หนังสั้นของแต่ละคน และปล่อยเป็นคลิปรวม 5 ตอน ซึ่งคลิปรวม 5 ตอนพอมาร้อยเรื่อง เราคิดว่าเรื่องแรกมันต้องดึงคนดูอยู่ที่สุด จากนั้นก็เรียงไดนามิกให้อารมณ์หนังมันต่างกัน”
ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับช็อตที่ 1
Shot #01: ม้าๆ ไปโรงเรียนเร็ว (ไก่ ณฐพล)
“เ-ี้ย อะไรวะ?” ผมว่านี่คือปฏิกิริยาคนดู ไก่ ณฐพล เล่าว่า ตอนได้โจทย์มา ช็อตแรกที่แวบขึ้นมาในหัวคือ ‘คิดไม่ออก’
“แต่โจทย์มันสนุก เราทำอะไรก็ได้ให้เซอร์ไพรส์ในช็อตเดียว พล็อต ‘ม้า’ มันมาจากโปรดิวเซอร์ผมคนหนึ่งทำงานอยู่ในกองหนังที่มีฉากสู้รบบนหลังม้า วันนั้นเราก็คุยกันเรื่องทั่วๆ ไป เขาก็เล่าความทุกข์ยากของการทำงานกองนั้นให้ฟังว่า ม้าเยอะมาก วิ่งไปวิ่งมา เหนื่อยมาก ผมกับทีมก็ไม่ได้ฟังประเด็นที่เขาเหนื่อยยังไง น้องในทีมก็บอกว่า “หรือเอาอย่างนี้ไหม ก็เนี่ย เรียกม้าแล้วม้าก็โผล่มา” ก็เลยตกลงเอาไอเดียนี้ โปรดิวเซอร์ก็คิดขึ้นมาได้ว่ามีน้องคนหนึ่งวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กองถ่ายที่เขาทำงานขี่ม้าได้ เลยติดต่อไป เขาก็ยินดี โจทย์ต่อมาคือผมอยากได้บ้านเล็กๆ เป็นทาวน์เฮาส์ และปัญหาคือไม่มีที่ไหนให้เอาม้าเข้า ก็ไม่มีบ้านไหนยอม หรือบ้านไม่เหมาะกับการเอาม้าเข้าไป สุดท้ายก็มาจบที่บ้านน้องชามา (นักแสดง) ที่บ้านเขาเลี้ยงม้าอยู่แล้ว เขาก็มีห้องว่างพอดี ก็เอาทีมอาร์ตไปเซต แล้วก็เอาพ่อน้องเขาเล่นด้วย ก็มีความดิบกว่างานทั่วๆ ไปมาก
“จริงๆ ไอเดียนี้ก็ไม่ได้คิดว่าจะโดน ก็ตลกกันเอง (หัวเราะ) แต่หนังทุกชิ้นที่ทำก็เริ่มจากความรู้สึกนี้ คือสนุกจากสิ่งที่คุยกันและก็น่าจะเวิร์ก เดาได้ว่าคนดูน่าจะชอบ”
พงศ์-ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ผู้กำกับช็อตที่ 2
Shot #02: ปล่อยเขาไปๆ (พงศ์ ฐิติพงศ์)
“ไม่ได้ตั้งใจนะ โดรนมันดันตก!” พงศ์ ฐิติพงศ์ เล่าว่าจริงๆ ช็อตที่เห็นไม่ได้ตั้งใจ!
“ผมอยากเล่นกับกล้องหน้ารถ ไอเดียแรกคืออยากได้ช็อตรถจอดอยู่กลางสี่แยกแล้วเหมือนรถลอยขึ้นฟ้าไปเลย แต่การถ่ายทำจริงกลางสี่แยกก็อาจจะลำบาก เลยลองหาเหตุการณ์อื่นๆ สุดท้ายไปลงตัวที่เขื่อน มันเริ่มจากกล้องหน้ารถ แต่ไปจบที่โดรน ในแง่เทคนิคมากกว่า เราอยากให้คนดูเชื่อว่าเป็นกล้องหน้ารถ ตอนถ่ายคือผมให้แฟนขับรถและคุยกัน คนขับโดรนนั่งเบาะหลัง และต้องบินโดรนให้นิ่งที่สุด ให้เหมือนตามรถคันหน้า แล้วก็ไปหาฝากระโปรงมาแปะให้ดูเหมือนว่าเป็นภาพจากกล้อง ตอนจบที่เหมือนรถคว่ำได้มาด้วยความไม่ตั้งใจ คือโดรนร่วงจริง ถ้าอย่างนั้นก็เอาช็อตนี้เลย
“ดูจบมันต้องมีหลุด “เ-ี้ย อะไรวะ?” ออกมา (หัวเราะ) มันต้องมีเหวอๆ อีหยังวะ! ให้กูดูอะไรเนี่ย! น้ำมันหมดคืออะไร? ฟีดแบ็กที่กลับมาส่วนใหญ่จะมาถามว่าคิดอะไรอยู่ตอนทำ คืออะไร ยังไง ฟีดแบ็กบางอันก็บอกว่ามันตลกบ้านๆ ดี”
โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับช็อตที่ 3
Shot #03: โทษที…ทำแรงไปหน่อย (โต้ง บรรจง)
มีคนคอมเมนต์ทำนองว่า “นี่กูต้องมาดูอะไรแบบนี้ตอนดึกด้วยหรือนี่” โต้ง บรรจง เล่าให้ฟังถึงฟีดแบ็กหลังปล่อยคลิป
“มานั่งคิดว่าคนสมัยนี้ชอบเล่นกับมือถือและมีฟิลเตอร์มากมายที่ชอบเล่นกัน พวกฟิลเตอร์ของ Instagram Story ที่ผงกหัวแล้วเปลี่ยนรูปแว่นได้ เออก็มันดีนะ ถ้าผงกหัวแล้วครั้งที่ 4 ปุ๊บหัวหลุด! แต่หัวจะหลุดยังไง ถ่ายยังไง เริ่มดูยูทูบจนมาเจอคนเล่นมายากลอันนี้ เฮ้ย อันนี้มันกว่าอีกเหมือนเซอร์ไพรส์สองต่อ ช็อตแรกคนดูก็น่าจะตื่นเต้นอยู่แล้วว่าทำได้ไงวะ! และก็เล่นกับความคาดหวังคนดูไปอีกสเตป สุดท้ายหัวมันหลุดคาตา
“ผมว่าความรู้สึกคนดูมันน่าจะเกินคาด… การที่หัวหลุดออกมามันเป็นอารมณ์ขันกึ่งๆ โหด ตอนเทสต์คนที่ดูส่วนมากจะ เฮ้ย!!! ก็ถือว่าเราก็ได้ความเหวอ ความตื่น กลัวก็มี ซึ่งผมก็งงว่า กลัวอะไรวะ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเกรียนดีด้วย ชอบ!”
อั๋น-วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้กำกับช็อตที่ 4
Shot #04: ยื้อมาตั้งนาน…จบแบบนี้จริงสิ” (อั๋น วุฒิศักดิ์)
“เ-ี่ย!!!” เขาคงตกใจและคงจะด่าคนทำด้วยว่า ไอ้หน้าด้าน อั๋น วุฒิศักดิ์ บอกว่า นี่คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นกับคนดู ‘ที่ยื้อมาตั้งนานเอาแบบนี้เลยเหรอ’
“ด้วยความที่เป็นผู้กำกับโฆษณาก็จะคิดแบบโฆษณามากตอนที่ได้โจทย์ เขาบอกว่าเป็นสินค้าสำหรับเด็กวัยรุ่นที่อ่านหนังสือสอบ พอเขาดื่มแล้วมันตื่น เลยคิดว่า การที่ดื่มแล้วตื่นมันไม่มีใครช่วยได้ นอกจากเราจะหยิบแล้วดื่มเอง เท่ากับเป็นการทำตัวเองให้ตื่น และเอาจริงๆ พอมารู้ว่าหนังของเราจะอยู่อันดับที่ 2-5 ก็จะฉิบหาย (หัวเราะ) พอมันเป็น ‘ช็อตเดียวตื่น’ โครงสร้างเบสิกคือ การตกใจหรือการทวิสต์ ถ้าคนดูเรื่องที่ 1 แล้วถูกทวิสต์ เรื่องต่อไปเดาทางได้แล้วว่าจะมาเกมไหน งั้นเราเปลี่ยนมาเป็นอาร์ตฟอร์มเลยดีกว่า
“เลยเป็นที่มาของไอเดียนี้ ถ้าคนจะทำตัวเองให้ตื่น เขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างที่เมื่อเขาทำแล้ว สิ่งที่มาอิมแพ็กเขาคือผลจากการกระทำของเขาเอง เลยเป็นลูปนี้ขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้เพิ่งกินเสร็จ เขากำลังจะทำอะไรบางอย่าง และเดี๋ยวจะนอน และสิ่งที่เขากำลังจะแขวนคือสัญลักษณ์ของการนอนฝัน คือรูปแกะ กำลังจะเข้าสู่กระบวนการของการนอนแล้วก็ถูกรบกวนด้วยตะปูที่ตอก! ใครวะที่เป็นคนตอกตัวใหญ่! ดูแล้วคงต้องตั้งคำถามก่อนว่า มันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันมาจากไหน อ๋อ มันก็มีห้องหนึ่งใหญ่ๆ ที่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนตอกเข้ามา และก็ต้องมีตะปูอันใหญ่ๆ เข้ามา เลยกลายเป็นอินฟินิตี้ที่ทำตัวเองต่อเรื่อยๆ
“ถึงตอนนี้คนดูน่าจะคาดเดาไม่ได้แล้วว่าจะตกใจจากอะไร จะตกจากเก้าอี้ไหม? บะหมี่จะระเบิดไหม?” ว่าแต่…จบแบบนี้จริงดิ!
บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับช็อตที่ 5
Shot #05: What The F… (บาส นัฐวุฒิ)
พวกที่เก็ตคงตะโกนว่า “เกมจ้า” “จบจ้า” คนที่ไม่เก็ตคงจะ…อะไรของมันวะ! บาส นัฐวุฒิ เชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้ The Sims ต้องเก็ตเถอะ!
“พล็อตนี้มันมาจากอดีตผมเป็นคนเล่น The Sims เราก็รู้จักคัลเจอร์นี้อยู่แล้ว ถ้าเราสามารถรวมทุกอย่าง เอาไอเดียนี้มาใช้ในการเล่าหนังแล้วให้มันได้ Black Mirror เบาๆ ตอนทำก็คิดนะว่าถ้าคนไม่เคยเล่นจะเก็ตไหม? ผมก็พยายามเทสต์ด้วยการเล่าพล็อตนี้ให้กับคนรอบตัวฟัง แล้วฟีดแบ็กจะมีสองอย่าง อันแรกคือนิ่งไปเลย ฟีดแบ็กที่สองจะต่างเลย เฮ้ย The Sims เหรอ! (ตบมือฉาดใหญ่) คือคนเก็ตก็จะเก็ตเลย คนไม่เก็ตก็จะงงๆ ซึ่งคนที่เก็ตจะชอบมาก แปลว่ามันทำงานกับคนพวกนี้ พอเราเห็นฟีดแบ็กแบบนี้ และทาง -iSM ให้อิสระเรา และเชื่อใจเรา ก็มาทางนี้เลย
“ทาง -iSM ก็คงคิดมาแล้วว่าเอาเรื่องเราไว้ลำดับสุดท้ายมันคือใช่ ก็อยากให้ฟีดแบ็กคนดูเป็นแบบนี้แหละ คนที่เก็ตก็เก็ตเลย ไม่เก็ตก็ What The F…!!!”
เป็นวัยรุ่นอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ของแบบนี้ต้องไปลอง…เดินเข้า 7-Eleven หยิบ Ener-G มาดื่มสักช็อต รับรอง… #ช็อตเดียวตื่น จริง!!!
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า